สวัสดีปี 2566 ค่ะ แค่ปฏิทินเปลี่ยนผ่าน ก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นเป็นอย่างมากในปีนี้แล้วละค่ะ ช่วงเวลาที่ได้หยุดไป ผู้เขียนมีโอกาสได้อ่านบทความเกี่ยวกับเทรนด์ของโซเชียลมีเดียที่จะมาแรงในช่วงปี 2566 ซึ่งมีการคาดการณ์เอาไว้ว่าจะมี 6 เทรนด์ที่จะได้รับความนิยม เริ่มจาก Audio ในโซเชียลมีเดียจะได้รับความสนใจมากขึ้น ต่อด้วยการเล่นเกมออนไลน์ที่ตลาดจะเปิดกว้างกว่าเดิม หรือแม้แต่การดูคลิปตามโซเชียลมีเดียก็จะเป็นการดูแบบเต็มสกรีนโทรศัพท์
แต่ที่น่าสนใจเห็นจะเป็นเทรนด์เรื่อง Nano Influencer ที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่ง Nano Influencer นั้นหมายถึงบุคคลทั่วไปที่มีผู้ติดตามน้อยกว่าหนึ่งหมื่นราย ซึ่งเหตุผลที่ระบุว่า Nano Influencer จะยังคงได้รับความนิยมชนิดไม่แผ่วนั้น เป็นเพราะเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ตัวเล็ก ๆ ให้ความรู้สึกสมจริง มากกว่า Influencer หรือผู้มีอิทธิพลทางความคิดตัวใหญ่ ๆ ที่คิดค่าตัวแพง ๆ เพราะเหล่า Nano นั้นมี Budget ที่ทั้งเอเยนซี่และแบรนด์ชื่นชอบ ขณะเดียวกัน เวลาทำงานก็ยังสามารถพูดคุยได้รู้เรื่องกว่า Influencer เบอร์ใหญ่
ที่ผ่านมาในยุคที่แบรนด์ทั้งหลายให้ความสำคัญกับ Digital Marketing นั้น ค่าตัวหรือค่าจ้าง Influencer เติบโตแบบฟองสบู่ เมื่อมี Influencer รายไหนดังขึ้นมาแม้จะชั่วข้ามคืน การว่าจ้างจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความพยายามที่จะจับกระแสให้ทัน (ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่เคยทัน) เลยทำให้เกิดการปั่นราคาว่าจ้างกันอย่างสนุกสนาน
ขณะเดียวกัน เหล่า Influencer ต่างพากันตั้งราคาตามใจตนเอง เป็นราคาชนิดที่ผู้เขียนที่อยู่ในแวดวงสื่อสารมวลชนมานาน ยังต้องร้อง “คุณพระ!!” เพราะคุณภาพของงานกับราคาที่ต้องจ่ายนั้นช่างสวนทางกันเหลือเกิน
ยิ่ง Influencer ประเภท “Almost Famous” นอกเหนือจากราคาที่เกินพอดีแล้ว การสื่อสารกับผู้ว่าจ้างก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก ขณะที่บางรายก็ “เกินจะทน” แต่ดูเหมือนว่า ช่วงเวลาของการกอบโกยของเหล่า Influencer ทั้งหลายกำลังจะรูดม่านพร้อมกับการเข้าสู่ยุค Post Covid ที่จะเริ่มขึ้นในปี 2566
จากนี้ฟองสบู่ของการว่าจ้างในราคาแบบ “ตามใจฉัน” น่าจะแตกลงเป็นที่เรียบร้อย ความนิยมใน Engagement ที่ไม่ไปกับยอด Follower หลักแสนหรือหลักล้าน พร้อมกับข้อความที่คนทั่วไปรู้ทันแล้วว่ากำลังขายของ ได้ทำให้การใช้เครื่องมือ Digital Marketing กำลังจะเปลี่ยนถ่ายไปสู่ Nano Influencer
ด้วยความที่ Nano Influencer มีราคามาตรฐาน สามารถสร้างกระแสได้จากคนตัวเล็ก ๆ หลายสิบหลายร้อย จนทำให้คนทั่วไปรู้สึกว่าเป็น Viral ข้อความจากแบรนด์ได้ถูกผ่านตาจากผู้คนจำนวนมาก ซึ่งเป็น Follower จำนวนจริง และสนใจในเนื้อหาชนิดเดียวกันจริง
Digital Marketing นั้นเป็นการสื่อสารระหว่างแบรนด์กับผู้ซื้อหรือผู้ใช้บริการโดยตรง หากทำได้ดี แบรนด์ก็สามารถพัฒนาให้เกิด D2C (Direct to Consumer) กับแบรนด์ตนเองได้ ทั้งนี้การเลือกใช้ เครื่องมือ Digital Marketing บนแพลตฟอร์มออนไลน์นั้นไม่จำเป็นต้องเลือกใช้เฉพาะแต่ Influencer อย่างเดียว เพราะแม้จะทำให้แบรนด์ถูกพูดถึง แต่ก็ไม่ได้เกิดความยั่งยืน
หากแต่หัวใจการสื่อสารที่ดีและทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ คือความสม่ำเสมอและการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่กลุ่มลูกค้า มากกว่าสร้างความหวือหวากับสิ่งที่ Influencer ทั้งหลายเรียกว่า Content (หากแต่ยังไม่เข้าใจว่าความหมายของ Content ที่แท้จริงคืออะไร)
มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งพูดกับผู้เขียนถึงความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นนั้น ประกอบไปด้วยความอดทน 40 เปอร์เซ็นต์ ความมุ่งมั่น หรือสม่ำเสมออีก 40 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลืออีก 20 เปอร์เซ็นต์คือ จังหวะที่ดี ดังนั้น การสร้างชื่อแบบจุดพลุให้สว่างวาบแค่ช่วงเวลาไม่นานนั้นไม่ได้สร้างความจดจำใด ๆ หากแต่ลองหันกลับมาดูว่าคุณจะเพิ่มเปอร์เซ็นต์ส่วนไหนให้กับตนเองและใช้เครื่องมือแบบไหนเพื่อให้การเดินทางในปีนี้ได้ไปสู่จุดหมายที่หวังไว้ น่าจะดีกว่า
และจงจำไว้ว่า “อย่าได้วิ่งตามเทรนด์ แต่จงสร้างความน่าเชื่อถือจนทำให้คุณกลายเป็นเทรนด์ นี่คือหนทางของโลกต่อจากนี้”
แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ
