“too young too dumb too realize” บางช่วงจากเนื้อเพลง When I was your man ของ บรูโน่ มาร์ส ที่ทำให้ผู้เขียนดำดิ่งลงไปในเนื้อเพลงนี้ ระหว่างที่การจราจรติดขัดบนทางด่วน และทำให้ต้องกลับมาฟังซ้ำอีกครั้งเพราะหลายท่อนของเพลงนี้ สะกิดให้นึกถึงเพื่อนหลายคน ที่เคยผ่านเข้ามาปรับทุกข์เรื่องความรัก
ข้อดีอย่างเดียวของการจราจรที่ติดขัดในกรุงเทพฯ เห็นจะเป็นการที่เราได้ฟังเพลงหลายเพลง ด้วยความตั้งใจเพราะถ้าเครียดไปกับสภาพที่เดี๋ยวเหยียบเบรค เดี๋ยวโดนปาดเห็นจะได้เส้นเลือดในสมองแตกเข้าสักวัน เมื่อฟังเพลงก็จะได้ผ่อนคลาย และ สามารถรับมือกับสภาพปัจจุบันที่ยุ่งเหยิงได้
อันที่จริงแล้วเพลง When I was your man ของบรูโน่ มาร์ส นั้นเป็นเพลงเก่าตั้งแต่ปี 2013 เป็นเพลงฮิตที่ตัด ซิงเกิ้ลออกมาขายก็ทะลุหลักล้านได้ไม่ยากนัก ความน่าสนใจของเพลงนี้คงหนีไม่พ้นเสียงเปียโนที่ไปกันได้ดีกับเสียงของ บรูโน่ มาร์ส แต่ที่น่าจะกระแทกใจใครหลายคนเห็นจะเป็นเนื้อร้อง ที่คร่ำครวญถึงคนรักที่จากไป เพียงเพราะตัวเขานั้นไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ แต่กลับมาคิดได้เมื่อเธอไปกับคนอื่นเสียแล้ว เข้าทำนองเดียวกับสำนวนไทยที่ว่า “รู้เมื่อสาย”
ในเนื้อเพลงที่ บรูโน่ มาร์ส ครวญว่า “I should’ve bought you flowers and held your hand” เป็นการสำนึกว่าในเวลาที่รักกัน ก็ไม่ได้ให้ความรักเต็มที่ พอเขาไปกับคนอื่นก็มาคิดได้ว่าควรจะทำเช่นไร แต่ก็อีกนั่นแหละ แม้ว่าผู้หญิงที่รักจะจากไปแล้ว ก็ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น เหมือนในท่อนที่ว่า “Now I never, never get to clean up the mess I made” เป็นท่อนที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ชายอย่างแท้จริง เพราะถึงแม้จะรู้ตัวว่าพลาดอะไรไปบ้าง แต่ก็ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลง
เพลง When I was your man นี้จะว่าไปไม่ได้ความหมายแค่ผู้ชายอกหักหนึ่งคนมานั่งพร่ำพรรณาถึงคนรักที่จากไป แต่เนื้อหาใจความนั้นมีนัยที่แฝงให้เห็นถึงความเป็นผู้ชาย หรือความเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ยาก ดังเช่นที่เพื่อนหลายคนของผู้เขียนที่หมั่นคอยมาขอคำปรึกษาเรื่องความรัก ทั้งที่พวกเขามีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้ว รู้อยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ทำ ก่อนจะปล่อยให้เรื่องรักในปัจจุบันกลายเป็นอดีต และไปหาความรักในอนาคตเอาใหม่ โดยไม่คิดจะปรับเปลี่ยนตัวเอง
จะว่าไปปัญหาคลาสสิคที่สุดของชีวิตคู่เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องการปรับเปลี่ยนเข้าหากันแม้จะดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่อันที่จริงแล้วเป็นเรื่องยากที่สุด เพราะคนหนึ่งคนเมื่อเติบโตขึ้นมา เขาหรือเธอคนนั้นจะมีนิสัยเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางโลก หรือ มีใจที่โอบอ้อมอารี ต้องมีการฝังความคิดมาจากบุพการีและบุคคลรอบข้าง หากจะให้คู่ชีวิตมาฝังชุดความคิดใหม่เพื่อให้เปลี่ยนเป็นคนที่ดีขึ้น นอกจากจะต้องใช้เวลาแล้ว การเปลี่ยนแปลงอาจเป็นการฝืนธรรมชาติภายในของตนเอง ซึ่งตอนจบก็คงไม่ได้สวยอย่างที่วาดฝันเอาไว้
เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว บางครั้งการใช้ชีวิตคู่ก็คงต้องมีช่องว่างให้กันบ้าง ปล่อยวางบ้าง และ ไม่ว่าคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชาย ต้องท่องเอาไว้เสมอว่า “เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงใครได้ เขาต้องเปลี่ยนแปลงตนเองด้วยตนเองเท่านั้น” เพราะมิเช่นนั้นแล้ว ก็จะเหมือนกับท่อนจบของเพลง When I was your man ที่บรูโน่ มาร์ส ร้องว่า “Do all the things I should have done. When I was your man. “รู้เมื่อสาย” สามารถเอาไปแก้ไขอนาคตได้ แต่ถ้า “ไม่คิดจะรับรู้” สุดท้ายอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต ก็จะวนเวียนกลับมาอยู่ที่เดิม
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ