เมนูแปลก “เค้กผัดกะเพรา” เผ็ดตามสั่ง ไอเดียสร้างสรรค์

วันนี้กินอะไรดี? หากคิดอะไรไม่ออกคงตอบแบบไม่ได้คิดว่า “ข้าวผัดกะเพรา” ซึ่งเป็นเมนูยอดฮิตของใครหลาย ๆ คน เมนูนี้ถูกรังสรรค์ให้กลายเป็นเมนู “เค้กข้าวกะเพราหมูสับ” ในยุคโควิดแบบนี้หากจะทำธุรกิจอะไรต้องมีไอเดียแปลกแหวกแนว มีจุดเด่นเพื่อสร้างจุดขาย

คุณวิภาดา เวชชประสิทธิ์ หรือแตงกวา คุณครูอาชีวะศึกษา เล่าให้ Tonkit360 ฟังว่า พิษโควิดสร้างผลกระทบให้คนในครอบครัวของเธออย่างมาก เธอเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสเอาความรู้เบเกอรีที่มี บวกกับสูตรซอสกะเพราะฝีมือคุณแม่ที่อร่อยไม่แพ้ใคร รังสรรค์เค้กหน้าตาแปลกใหม่เอาใจคนไม่เค้ก ไม่กินหวาน แต่การนำของคาวมาเป็นเค้กนั้นจะลงตัวแค่ไหน ไปฟังบทสัมภาษณ์คนต้นคิดวันนี้กันเลยค่ะ

เริ่มต้นจากความถนัดต่อยอดเมนูสุดปังสร้างจุดขาย

จุดเริ่มต้นนะคะ เราเป็นครูสอนด้านอาหารและโรงแรม แล้วเราก็มีความรู้เรื่องอาหารและเบเกอรีต่าง ๆ ค่ะ ก็เลยมีความคิดว่าเราจะทำอะไรให้เกิดไอเดีย เลยเริ่มต้นทำร้านอาหาร “อ้วนเป็นหมู” แล้วเราก็มีสูตรผัดกะเพราของคุณแม่ค่ะ เราก็ลองเอาสูตรกะเพราของคุณแม่แล้วก็เค้กเบเกอรีที่เราถนัดเอามาใส่เข้าด้วยกัน แล้วในยุคโควิดเราก็เลยคิดว่าต้องหาไอเดียแปลก ๆ ใหม่ ๆ ของคาวก็สามารถเอามาทำเป็นของขวัญเซอร์ไพรส์ในวันเกิดหรือในโอกาสพิเศษต่าง ๆ ได้อะไรแบบนี้ค่ะ

เมนูยอดนิยมครองใจลูกค้า

เมนูเค้กข้าวกะเพราของเราที่ขายดี ๆ เลยก็จะเป็นข้าวกะเพราะทะเลค่ะ แล้วก้จะมีข้าวกะเพราหมูไก่ไข่เยิ้มค่ะ ข้าวกะเพราทะเลขายดีมาก บางวันจะอยู่ที่ 10-15 ปอนด์ แล้วแต่ออเดอร์ลูกค้าที่เข้ามา แล้วก็จะมีลูกค้าจากต่างอำเภอด้วย ส่วนจุดเด่นที่ทำให้ขายดีเพราะว่าเราใช้ของสดค่ะ แล้วเราก็ซื่อสัตย์กับลูกค้า พอดีเรามีอุตสาหกรรมเรือไดหมึกอยู่ที่ปราณบุรี แล้วช่วงโควิดมันก็ขายของทะเลยาก รายได้ก็ลดลง ก็เลยเอามาจากปราณบุรีเลยค่ะ มันก็เลยเป็นเค้กทะเลแล้วก็มีปลาหมึกไข่ด้วยแบบนี้ค่ะ

จากความชอบเกิดเมนูใหม่ที่สร้างสรรค์

เมนูล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปก็จะเป็นเค้กชาบูหมูจุ่ม และเค้กชาบูแจ่วฮ้อนค่ะ จากชื่อร้านอ้วนเป็นหมูบวกกับความชอบของที่บ้าน เราก็เลยเอาไอเดียหมูกระทะแล้วก็น้ำจิ้มสุกี้ที่คุณแม่ทำอร่อยมาก เลยเกิดความคิดว่าเราลองเอามาทำเป็นเค้ก เอามาอัดเป็นปอนด์ ๆ ดูก็ทำให้ได้รับความนิยมค่ะ นอกจากนี้ร้านเรายังมีอาหารจานเดียวด้วยค่ะ ข้าวผัดกะเพราจะเป็นเมนูเด็ดของร้านเรา เพราะเรามีสูตรน้ำกะเพราเฉพาะ เราก็ปลาหมึกไข่มาทำเป็นเมนูปลาหมึกไข่ปลิ้นค่ะ ไข่นุ่มชีส แล้วก็จะมีแล้วก็หมูสับทอดสูตรโบราณของเราค่ะเป็นหมูสับทอดพริก

ผลกระทบจากโควิดสร้างแรงบันดาลใจเกิดอาชีพใหม่

จริง ๆ แล้วเป็นข้าราชการประจำค่ะ ก็มีงานประจำอยู่แล้วแต่ในยุคโควิด ครอบครัวทุกคนกลับมาอยู่บ้านรวมตัวกัน มีอาการซึมเศร้าจากสภาวะโควิด จากสภาวะการกักตัว จากปัญหาการตกงานบ้าง เราก็เลยเริ่มทำมาได้ 1 เดือนก็ถือว่ายังไม่นานมากสำหรับร้านเรา แต่เราอาจจะใช้เทคนิคการโปรโมท การโพสต์เฟซบุ๊กบ่อย ๆ รวมถึงการมีไอเดียสร้างสรรค์ มันเลยทำให้เรามียอดขายเลี้ยงดูคนในบ้านได้ค่ะ

จุดเด่นของร้านเราคือเราจะซื่อสัตย์กับลูกค้าค่ะ โดยการใช้ของสดใหม่ ถ้ามันไม่ดีก็ต้องทิ้งเลย หรือแม้แต่ลูกค้าซื้อไปลูกค้าไม่ถูกใจเราก็เคลมให้เลย เพราะเราถือว่าการทำธุรกิจ เราต้องซื่อสัตย์ค่ะ เหมือนเราทำกับข้าวทานกินเองในบ้านเราก็อยากให้ลูกค้าทานของอร่อย แล้วก็กลับมาซื้ออีกในราคาที่สมเหตุสมผลค่ะ ปอนด์หนึ่งนะคะถ้าเป็นราคาหน้าร้านหรืออินบ็อกซ์มาซื้อช่วงโปรโมชันตอนนี้นะคะ ถ้าเป็นเค้กกะเพราหมูสับ หมูชิ้น หมูหมัก หรือไก่ ไข่ดาวด้วยนะคะก็จะอยู่ที่ 250 บาทค่ะ แล้วถ้าเป็นในส่วนของเค้กทะเลจะอยู่ที่ 350 บาทค่ะ ส่วนชาบูตัวใหม่ก็จะอยู่ที่ 350-400 บาท ขนาด 5 คนทานค่ะ เพราะเราอัดข้าวให้แน่นมาก ๆ เลย

เค้กกะเพรามีกระแสตอบรับที่ดี สร้างรายได้เท่าไร

รายได้ส่วนใหญ่เราจะมีจัดส่งเองด้วย และแกร็บด้วยค่ะ วันหนึ่งจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2,000-3,000 บาท เสาร์อาทิตย์จะได้เยอะหน่อยอยู่ที่ 4,000 ค่ะ ก็ถือว่าอยู่ได้หักต้นทุนแล้วอาจจะเหลือสัก 2,000 กว่าบาท เราก็สามารถเลี้ยงคนในครอบครัวได้ รันงานต่อไปได้ทุกวันแบบนี้ค่ะ ถ้ารายเดือนก็อาจจะได้หลักหมื่นค่ะ ก็ถือว่าเป็นรายได้เสริม

ความรักจากคนในครอบครัวสร้างกำลังใจทำให้ผ่านพ้นวิกฤติ

เราทำธุรกิจแบบไม่ใช่นักธุรกิจเต็มตัวแต่เราทำธุรกิจด้วยความรักค่ะ เราชอบทำอาหารเราชอบงานบริการก็เลยใส่ความเป็นเราลงไป แล้วก็ความใส่ใจลูกค้าใจเขาใจเราลงไป ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ ในยุคโควิดแบบนี้มันกระทบไหมถึงแม้ว่าจะรับราชการไม่ได้กระทบในเรื่องของเงินเดือน แต่คนรอบตัวเราได้รับผลกระทบหมดเลย เราก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกันเราจะผ่านมันไปด้วยกัน ในยุคนี้มันต้องขายไอเดีย คนในครอบครัวให้กำลังใจกันและเชื่อว่ามันจะผ่านไปได้เราก็ค่อย ๆ ก้าวค่ะ ค่อย ๆ เดินฝากให้กำลังใจทุกคนค่ะ

ในยุคนี้ทุกอย่างมันก็ยากลำบาก แต่ว่าทุกทางตันมันก็จะมีแสงสว่างเล็ก ๆ เสมอ เราก็ค่อย ๆ เดินตามทางแล้วหาแสงสว่างตรงนั้นให้เจอ มันอาจจะยากหน่อยค่ะ เราเข้าใจนะคะวันไหนที่ขายไม่ได้เลย แรก ๆ มันอาจจะท้อบ้าง แต่พอวันหนึ่งที่เราเจอแสงสว่างเล็ก ๆ แม้แต่มันจะเป็นจุดเล็ก ๆ มันจะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ให้เราเดินต่อไปเรื่อย ๆ จนเจอแสงสว่างที่ใหญ่ขึ้น เพราะว่าพระอาทิตย์ยังขึ้นตอนเช้าเสมอทุกคนต้องสุ้ค่ะ แล้วเราจะผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกันค่ะ