สัปดาห์ที่แล้วได้รับไลน์จากนาย “ลิตเติ้ลโจ” สุรศักดิ์ มากทวี นักข่าวต่างประเทศของสยามสปอร์ตผู้เหาะเหินเดินอากาศไปประจำการอยู่ที่ประเทศอังกฤษนานกว่า 2 ทศวรรษ เจ้าตัวไม่อ้อมค้อมว่ารบกวนให้ช่วยโปรโมทหนังสือเล่มแรกของตัวเอง ด้วยเรื่องราวชีวิตการทำงานเป็นนักข่าวต่างประเทศถึง 23 ปีในเมืองผู้ดี
โธ่ “น้องโจ้” ทำไมใครคนนี้ คิดนานจัง กว่าจะออกหนังสือรวมประสบการณ์ต่างแดนที่หาได้ยากแบบนี้สักเล่มออกมา โรงพิมพ์ก็อยู่ไม่ไกล
ไหน ๆ ออกมาแล้วพอผมได้มาอยู่ในมือ ได้จับต้องเป็นสี่สีกระดาษอาร์ตมันทั้งเล่ม ลองอ่านดูเกือบ ๆ จะจบเล่มแล้ว หนังสือ 23 ปี IN ENGLAND ของ “ลิตเติ้ลโจ” ทำให้ผมนั่งเหม่อคิดถึงความหลังได้อยู่หลายช่วงเหมือนกัน
เหม่อแรกคือตอนที่โจ้เล่าถึงคุณธนาคาร เผ่าจินดา แฟนเอฟเวอร์ตันตัวยง เคยเดินทางไปชมเกมเอฟเวอร์ตันบุกไปเยือนวิมเบิลดันที่สนามเซลเฮิร์สต์ พาร์ค ซึ่งเป็นรังของสโมสรคริสตัล พาเลซซึ่งตอนนั้นให้เช่าเป็นสนามเหย้าของ “เครซี่แกงค์” ในฤดูกาล 1992-93
คุณแบงค์ไปด้วยความยากลำบากเพราะสนามนั้นอยู่ไกล เพราะอยู่ชานกรุงลอนดอนค่อนข้างมาก แถมการเดินทางยังต้องต่อรถไฟที่แคลปแฮ่ม จังก์ชั่น พาลให้ผมนึกถึงความหลังครั้งตัวเองไปดู ลิเวอร์พูล บุกเยือนวิมเบิลดันเหมือนกันที่สนามแห่งนี้เช่นเดียวกัน เมื่อปี 1998 ต้องลงไปต่อรถไฟอีกสายเช่นเดียวกัน ทั้งไกล ทั้งหนาว ทั้งลมแรง โคตรลำบาก แถมวันนั้นดั้นด้นไปดูคนเดียวด้วย
แต่สุดท้ายพอบรรลุความฝันได้ดูบอลอังกฤษนัดแรก เห็นตัวเป็น ๆ ของ ไมเคิ่ล โอเว่น ซึ่งตอนนั้นเพิ่งจะขึ้นชุดใหญ่ใหม่ ๆ พร้อมกับความเร็วปานจรวด แล้วมันก็คุ้มค่าและหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
เหม่อที่สอง ตอนเล่าถึงพี่ “น้องหนู” ธราวุธ นพจินดา สั่งสอนว่า “โจ้ เวลามึงไปสนามบอลต้องแต่งตัวดูดี ใส่เสื้อเชิ้ต ผูกเนกไทนะเว้ย อย่าให้ฝรั่งมันว่าได้” อ่านแล้วก็ให้นึกถึงพี่ชายคนนี้ คำสอนที่ละเอียดอ่อนและห่วงใยรุ่นน้องแบบนี้มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น และไม่มีใครทดแทนได้จวบจนปัจจุบันนี้
เหม่อที่สาม ช่วงที่เขียนถึง Addy’s ร้านในตำนานของเด็กไทยในยุคนั้น ในย่าน เอิร์ลส์ คอร์ต ยุค 90 ปลาย ๆ เพิ่งโด่งดังยังสดใสไม่มัวซัว เป็นที่สิงสถิตของเด็กไทยที่ไปเรียนที่นั่นทุกคืนวันศุกร์-เสาร์ ให้ไปพบปะดื่มกิน แดนซ์ หรือคาราโอเกะ อะไรก็แล้วแต่ตามใจต้องการ ผมมีโอกาสแวะเวียนไปบ้างเหมือนกัน และน่าจะเดินสวนกับ ลิตเติ้ลโจ อยู่บางครั้ง
เหม่อที่สี่บวกกับความระคนสงสัย ว่าทำไมคนไทยมันไปทำอะไรในอังกฤษเยอะนักวะ ช่วงปลาย ๆ ยุค 90 บางคนไปในฐานะคนแบกความฝันในการเป็นนักเรียนนอก บางคนไปดูบอล บางคนไปในฐานะนักข่าวกีฬาอย่างนาย ลิตเติ้ลโจ และนายแจ็คกี้
บางคนแบกความฝันอันยิ่งใหญ่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพในอังกฤษ ช่วงนั้นมี “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กับ มิดเดิ้ลสโบรช์ และ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ และ “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย กับ คริสตัล พาเลซ
ดาวหลายดวงไปอยู่ที่นั่น เพื่อตามหาฝันของตัวเอง สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง สุดแท้แต่โชคชะตา
23 ปี IN ENGLAND ของ “ลิตเติ้ลโจ” ถ่ายทอดด้วยสำนวนง่าย ๆ ที่มาจากใจของนาย ลิตเติ้ลโจ แต่มีเสน่ห์แบบยียวนกวนประสาทเล็กน้อยเพิ่มอรรถรสในสไตล์ของแฟนลิเวอร์พูลตัวยง แถมด้วยความรู้ด้านการท่องเที่ยว โรงแรม และอาหารในอังกฤษเพิ่มเติมให้แบบที่คุณไม่ต้องร้องขอ
มนต์เสน่ห์ของฟุตบอลอังกฤษกับคนไทยนั้นจุดเมื่อไหร่ก็ติด คิดเมื่อไหร่ก็อยากไปอีกเมื่อนั้นครับ.