รู้จัก Seasonal Affective Disorder ซึมเศร้าเพราะฤดูเปลี่ยน!

นอกจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย จะทำให้บางคนปรับตัวไม่ทันจนเจ็บไข้ได้ป่วยแล้ว การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล ก็ส่งผลต่อสภาพจิตใจ และสภาพอารมณ์ได้เช่นกัน

Seasonal Affective Disorder (SAD) คือภาวะซึมเศร้าที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล ส่วนใหญ่มักเริ่มมีอาการในฤดูหนาวและค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อถึงฤดูร้อน

อย่างไรก็ตาม ภาวะซึมเศร้านี้มักเกิดกับผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศเขตหนาว ซึ่งจะมีอาการของโรคซึมเศร้าเป็นระยะ

SAD ต่างจากโรคซึมเศร้าอย่างไร?

อาการของ Seasonal Affective Disorder (SAD) จะมีลักษณะอาการเหมือนกับโรคซึมเศร้า ต่างกันตรงที่อาการเหล่านี้จะสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมหรือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล โดยจะมีอาการและสัญญาณเตือนต่าง ๆ เหล่านี้

  • รู้สึกหดหู่ ซึมเศร้าเกือบทั้งวัน และอาการดังกล่าวเกือบทุกวัน
  • ไม่สนใจจะทำกิจกรรมที่เคยชื่นชอบ
  • ไม่มีพลังงาน หรือความกระตือรือร้นจะทำสิ่งใด
  • มีปัญหาในการนอนหลับ
  • พฤติกรรมการรับประทานอาหารเปลี่ยนไป
  • รู้สึกเฉื่อยชา ไม่อยากจะทำสิ่งใด
  • ไม่มีสมาธิในการจดจ่อกับสิ่งใด
  • รู้สึกสิ้นหวัง ไร้ค่า หรือรู้สึกผิด
  • มักจะคิดถึงเรื่องความตาย หรือการฆ่าตัวตาย

ฤดูกาลต่าง ๆ ภาวะ SAD ต่างกัน

ภาวะ SAD ยังแปรเปลี่ยนไปตามฤดูกาลด้วย โดยเฉพาะประเทศในเขตหนาว โดยในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว จะมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ได้แก่ หลับมากกว่าปกติ, อยากรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง ๆ, น้ำหนักตัวเพิ่ง และรู้สึกเหนื่อยล้าหรือไม่มีพลังงานจะทำอะไร

ขณะที่ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน จะมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย ได้แก่ นอนไม่หลับ, ไม่รู้สึกอยากรับประทานอาหาร, น้ำหนักตัวลดลง, มีความกังวลใจ

นอกจากนี้ บางคนอาจจะมีอาการของไบโพลาร์หรืออารมณ์แปรปรวนด้วย โดยในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน อาจจะมีภาวะคึกกว่าปกติ มพลังงานในการทำสิ่งต่าง ๆ มากกว่าปกติ แต่หากเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวจะมีอาการหดหู่ ซึมเศร้า

ต้องพบแพทย์หรือไม่?

หากมีอาการซึมเศร้าเป็นเวลานานหลายวัน และในทุกครั้งที่มีอาการเหล่านี้ ไม่สามารถกระตุ้นตัวเองให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ชื่นชอบได้เหมือนเคย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีพฤติกรรมในการนอน การกินเปลี่ยนไป จนหันไปพึ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลาย หรือรู้สึกสิ้นหวัง หมกมุ่นกับความคิดในการฆ่าตัวตาย  หากพบว่ามีอาการเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อาจส่งผลให้เกิดอาการซึมเศร้ารุนแรงจนส่งผลกระทบต่ออารมณ์ พฤติกรรม รวมถึงสุขภาพได้ 

อ้างอิงข้อมูล : mayoclinic.org