จับตา “ควายทอง” ตามรอย “ลัมโบร์กินี่”

จากแบรนด์รถไถนาอันเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องจักรกลการเกษตรของไทย “ควายทอง” แบรนด์สินค้าคนไทย กำลังจะวางแผนที่จะต่อยอดสู่การเตรียมผลิตรถระดับ “ซูเปอร์คาร์” ตามรอยค่ายรถ “ลัมโบร์กินี่” แบรนด์ดังของอิตาลี ที่มีจุดเริ่มมาจากธุรกิจรถไถนาเช่นเดียวกัน

หากพูดถึง “ควายทอง” คนส่วนใหญ่น่าจะคิดถึงรถไถนา รวมถึง อุปกรณ์ทางการเกษตร อาทิ เครื่องสูบน้ำ เครื่องพ่นยา เครื่องตัดหญ้า เครื่องตัดข้าวดีด เครื่องปั่นไฟ ทว่าแบรนด์ดังกล่าว ได้เข้ามาเปิดตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่ หลังเปิดตัวรถเมล์ที่ใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบ 100 เปอร์เซนต์ไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันยังมีรายงานว่าผู้บริหาร “ควายทอง” ยังตั้งเป้าที่จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ในระดับซูเปอร์คาร์ ด้วยการจับมือกับ Hybrid Kinetic Group บริษัทผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของจีน เปิดตัวฐานการผลิตในเมืองในอีก 2 ปีข้างหน้า ซึ่งเสมือนเป็นการตามรอย เฟอร์รุชิโอ ลัมโบร์กินี่ เจ้าของแบรนด์ลัมโบร์กินี่ที่เริ่มต้นจากธุรกิจรถไถนาในอิตาลี

ทั้งนี้เบื้องหลังของ เฟอร์รุชิโอ ในการสร้างแบรนด์รถยนต์ลัมโบร์กินี่ เริ่มมาจากการที่เขาซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจรถไถนา ขับรถเฟอร์รารี่เข้าไปซ่อมที่ศูนย์ของเฟอร์รารี่ และโดนดูถูกโดย เอ็นโซ่ เฟอร์รารี่ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ม้าลำพอง ว่า “เป็นแค่คนทำรถไถนา คงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับรถหรูแบบนี้” ทำให้หลังจากนั้น เฟอร์รุชิโอ ได้ก่อตั้งแบรนด์ลัมโบร์กินี่ ขึ้นมาเป็นคู่แข่งของเฟอร์รารี่มาจนถึงปัจจุบัน

จากนี้ต้องจับตาดู “ควายทอง” จากสินค้าที่เป็นสัญลักษณ์ด้านการเกษตร จะพลิกโฉมต่อยอดการผลิตไปสู่รถยนต์ระดับหรูตามรอย ก้าวไปสู่ “ลัมโบร์กินี่ เมืองไทย” ได้หรือไม่ ถึงวันนั้นคงเป็นเรื่องที่ฮือฮาสะเทือนวงการยานยนต์ไม่น้อย