ตำนานนางสงกรานต์ทั้ง 7
ตำนานของนางสงกรานต์มีบันทึกจารึกไว้ที่ “วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม” เรื่องเกิดจาก “ท้าวกบิลพรหม” ผู้ซึ่งสถิตอยู่บนพรหมโลกชั้นที่ 3 ได้ลงมายังโลกมนุษย์และพบกับ “ธรรมบาลกุมาร” จึงได้ถามปัญหากับธรรมบาลกุมาร 3 ข้อว่า ตอนเช้าศรีอยู่ที่ไหน ตอนเที่ยงศรีอยู่ที่ไหน และตอนค่ำศรีอยู่ที่ไหน โดยถ้าธรรมบาลกุมารตอบได้ก็จะตัดเศียรบูชา แต่ถ้าตอบไม่ได้จะตัดศีรษะธรรมบาลกุมารเสีย
ซึ่งธรรมบาลกุมารได้ขอผัดผ่อนกับท้าวกบิลพรหมเป็นเวลา 7 วัน แต่แล้วธรรมบาลกุมารก็สามารถค้นหาคำตอบได้ เพราะเขาได้ยินมาจากนกอินทรีซึ่งธรรมบาลกุมารนั้นฟังภาษานกออก ท้าวกบิลพรหมจึงตรัสเรียกธิดาทั้งเจ็ดมาประชุมพร้อมกัน แล้วบอกว่าเราจะตัดเศียรบูชาธรรมบาลกุมาร แต่ถ้าจะตั้งไว้ยังแผ่นดินไฟก็จะไหม้โลก ถ้าจะโยนขึ้นไปบนอากาศฝนก็จะแล้ง ถ้าจะทิ้งในมหาสมุทรน้ำก็จะแห้ง
จึงให้ธิดาทั้งเจ็ดนำพานมารองรับ แล้วก็ตัดเศียรให้นางทุงษะเทวีผู้เป็นธิดาองค์โต จากนั้นนางทุงษะก็อัญเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหม เวียนขวารอบเขาพระสุเมรุ 60 นาที แล้วเก็บรักษาไว้ในถ้ำคันธุลี เขาไกรลาศ จากนั้นมาทุกๆ 1 ปี ธิดาของท้าวกบิลพรหมทั้ง 7 ก็จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาทำหน้าที่ อัญเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหมแห่ไปรอบเขาพระสุเมรุ เป็นเวลา 60 นาที แล้วประดิษฐานตามเดิม
พระธิดาของท้าวกบิลพรหม หรือนางสงกรานต์ทั้ง 7 องค์ ได้แก่
ทุงษะเทวี – นางสงกรานต์ประจำวันอาทิตย์ : ทัดดอกทับทิม มีปัทมราค (แก้วทับทิม) เป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ อุทุมพร (มะเดื่อ) อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ ขวาถือจักร พระหัตถ์ซ้ายถือสังข์ เสด็จไสยาสน์เหนือปฤษฎางค์ครุฑ
คำทำนายบอกว่า : ถ้าวันอาทิตย์เป็นวันมหาสงก
โคราตะเทวี – นางสงกรานต์ประจำวันจันทร์ : ทัดดอกปีป มีมุกดาหาร (ไข่มุก) เป็นเครื่องประดับภักษาหาร คือ เตละ (น้ำมัน) อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายถือไม้เท้า เสด็จประทับเหนือพยัคฆ์ (เสือ)
คำทำนายบอกว่า : ถ้าวันจันทร์เป็นวันมหาสงกร
รากษสเทวี – นางสงกรานต์ประจำวันอังคาร : ทัดดอกบัวหลวง มีโมรา (หิน) เป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ โลหิต (เลือด) อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ขวาถือตรีศูล พระหัตถ์ซ้ายถือธนู เสด็จประทับเหนือวราหะ (หมู)
คำทำนายบอกว่า : ถ้าวันอังคารเป็นวันมหาสงกร
มณฑาเทวี – นางสงกรานต์ประจำวันพุธ : ทัดดอกจำปา มีไพฑูรย์ (พลอยสีเหลืองแกมเขียว) เป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ นมและเนย อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ ขวาถือเหล็กแหลม พระหัตถ์ซ้ายถือไม้เท้า เสด็จไสยาสน์เหนือปฤษฎางค์คัสพะ (ลา) คำทำนายบอกว่า : ถ้าวันพุธเป็นวันมหาสงกรานต
กิริณีเทวี – นางสงกรานต์ประจำวันพฤหัสบดี : ทัดดอกมณฑา (ยี่หุบ) มีมรกตเป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ ถั่วและงา อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายถือปืน เสด็จไสยาสน์เหนือปฏษฎางค์ชสาร (ช้าง)
คำทำนายบอกว่า : ถ้าวันพฤหัสบดีเป็นวันมหาสง
กิมิทาเทวี – นางสงกรานต์ประจำวันศุกร์ : ทัดดอกจงกลนี มีบุษราคัมเป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ กล้วยและน้ำ อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ขวาถือพระขรรค์ พระหัตถ์ซ้ายถือพิณ เสด็จประทับยืนเหนือมหิงสา (ควาย)
คำทำนายบอกว่า : ถ้าวันศุกร์เป็นวันมหาสงกรา
มโหทรเทวี – นางสงกรานต์ประจำวันเสาร์ : ทัดดอกสามหาว (ผักตบชวา) มีนิลรัตน์เป็นเครื่องประดับ ภักษาหาร คือ เนื้อทราย อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ขวาถือจักร พระหัตถ์ซ้ายถือตรีศูล เสด็จประทับเหนือมยุราปักษา (นกยูง)
คำทำนายบอกว่า : ถ้าวันเสาร์เป็นวันมหาสงกรา
นางสงกรานต์ ประจำปี 2562 ทรงนามว่า “ทุงสะเทวี”
ฝ่ายโหรพราหมณ์ กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ออกประกาศสงกรานต์ปี 2562 ว่า “ปีกุน (มนุษย์ผู้หญิง ธาตุน้ำ) เอกศกจุลศักราช 1381 ทางจันทรคติเป็นปกติมาสวาร ทางสุริยคติเป็นปกติสุรทิน วันที่ 14 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 5 เวลา 15 นาฬิกา 3 นาที 3 วินาที
นางสงกรานต์ ทรงนามว่า ทุงสะเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกทับทิม อาภรณ์แก้ว-ปัทมราค ภักษาหารอุทุมพร พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงสังข์ เสด็จนั่งมาเหนือหลังครุฑ เป็นพาหนะ วันที่ 16 เม.ย. เวลา 19.12 น. เปลี่ยนจุลศักราชใหม่เป็น 1381 ปีนี้ วันจันทร์ เป็นธงชัย วันเสาร์ เป็นอธิบดี วันอาทิตย์ เป็นอุบาทว์ วันจันทร์ เป็นโลกาวินาศ
ปีนี้ วันพฤหัสบดี เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 500 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 50 ห่า ตกในมหาสมุทร 100 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 150 ห่า ตกในเขาจักรวาล 200 ห่า นาคให้น้ำ 3 ตัว เกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ 2 ชื่อ วิบัติ ข้าวกล้าในภูมินาจะเกิดกิมิชาติ (ด้วงกับแมลง) จะได้ผลกึ่งเสียกึ่งเกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีปถวี (ดิน) น้ำงามพอดี”