จุดหมายในดวงใจนักท่องเที่ยว
ที่ผ่านมาไม่ว่าจะมีการจัดอันดับเมืองในดวงใจนักท่องเที่ยวกี่หน จากกี่สำนัก “ลอนดอน” เมืองหลวงของอังกฤษเป็นได้เข้าไปติดอยู่ในอันดับต้นๆอยู่เสมอ มีหลายครั้งที่ผมแอบสงสัยว่าเพราะเหตุใด?
กรุง “ลอนดอน” มิได้มีศิลปะแปลกประหลาดและอยู่ติดทะเลเหมือน “บาร์เซโลน่า” มิได้มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่เฉกเช่น “โรม” ไม่มีพิพิธภัณฑ์หรือความโรแมนติคเหมือน “ปารีส” ไม่มีเมืองเก่าที่ซุกซ่อนตัวอยู่อย่าง “เสียมราฐ” อากาศก็หนาวฝนตกตลอดเวลา แต่ทำไมเมืองนี้จึงอยู่ในใจของคนทั่วโลก แน่นอนรวมนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยของเราหลายคนด้วย
การจัดอันดับของ Travellers’ Choice 2017 ปรากฏว่า “ลอนดอน” เข้าป้ายเป็นอันดับสองรองจาก “บาหลี” เท่านั้น ในการเป็นจุดหมายในใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก เหนือกว่า ปารีส โรม และ นิวยอร์ค เสียด้วยซ้ำ ถ้านับเฉพาะคนไทยก็น่าจะเป็นที่หนึ่ง และถ้าให้ผมที่พอจะมีโอกาสไปเยือนที่นั่นอยู่บ้างนึกเหตุผลว่าทำไม ก็คงมีสาเหตุประมาณนี้
1. ที่นั่นการเดินทางค่อนข้างสะดวก ระบบขนส่งที่วางโครงข่ายเอาไว้ดี ทำให้นักท่องเที่ยวมีทางเลือกทั้ง รถไฟฟ้าใต้ดิน (tube) รถเมล์ ที่สามารถใช้ตั๋วบริการร่วมกัน หรือ แท็กซี่
2. อาหารอร่อย มีให้เลือกหลากหลาย (อาหารจีน, เม็กซิกัน, สแปนิช, ญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งไทย ก็มีที่ดังๆอยู่หลายร้าน อาหารพื้นถิ่นเองถ้าปรับลิ้นได้ก็พอไหวอยู่ อย่างเมนูเอกลักษณ์ที่นั่นอย่าง ฟิชแอนด์ชิปส์ ถ้าเจอร้านดีๆ ได้ปลาค็อด หรือปลาเทราต์ สดๆ ก็ยิ่งเข้าท่า)
3. ช็อปสนุก มีร้านสรรพสินค้าหลายห้างที่โดนใจคนไทยอย่าง Harrods หรือ Selfridges
4. ไม่ต้องใช้ภาษาที่ 3
5. เป็นเมืองหลวงของคนบ้าบอล มีทีมดังๆอย่าง เชลซี – สเปอร์ส ซึ่งปีนี้มีลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกทั้งคู่ รวมทั้ง อาร์เซนอล ฯลฯ และเป็นต้นทางต่อไปยังเมือง ลิเวอร์พูล หรือ แมนเชสเตอร์ได้อีกด้วย (อย่างที่ทราบกันว่าคนไทยชอบฟุตบอลอังกฤษมากที่สุด เดี๋ยวนี้เดินทางไปชมกันเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเดือนเมษา-พฤษภา แบบนี้ )
นอกเหนือจากนั้นอาจจะเป็นเหตุผลที่อธิบายได้ยาก เป็นเรื่องทางความคิดหรือความรู้สึก อย่างเช่น ความมีมนต์ขลังของเมือง การออกแบบสิ่งต่างๆที่เป็นต้นกำเนิดและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนเป็นที่ติดตาติดใจของคนทั่วโลก เช่น หอนาฬิกาบิ๊กเบน, อาคารรัฐสภา, ตู้โทรศัพท์, รถเมล์ รถแท็กซี่ ผับ ฯลฯ
พูดถึงผับ (Pub) แล้ว ทุกครั้งที่มีโอกาสไปลอนดอน ผมจะต้องหาโอกาสเข้าไปซุกตัวอยู่ในนั้น นึกถึงบรรยากาศเก่าๆ นั่งชมฟุตบอลถ่ายทอดสด ฟังแฟนบอลบริภาษผู้ตัดสินหรือนักเตะคู่แข่ง ได้อารมณ์มันไปอีกแบบ ไม่แพ้ไปดูในสนามจริงๆ
สิ่งเหล่านี้กระมังครับที่ทำให้นักท่องเที่ยวไป “ลอนดอน” กี่ครั้งก็ไม่เคยอยากจะปฏิเสธ ใครที่ได้ไปช่วงนี้ก็ขอบอกไว้เลยว่าผมอิจฉา555
สุดท้ายคงต้องจบด้วยประโยคที่เขียนกี่ที พูดกี่ครั้งก็ไม่เคยหน่ายของ Samuel Johnson “when a man is tired of London, he is tired of life”
“ผู้ใดเบื่อลอนดอน ผู้นั้นเบื่อชีวิต”