“ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว” ถือเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่เน้นการเรียนและฝึกฝนด้านการต่อสู้และการป้องกันตัว โดยในปัจจุบันได้มีการศึกษากันอย่างแพร่หลาย ทั้งในเชิงด้านการกีฬา หรือเพื่อออกกำลังกาย
สำหรับหลาย ๆ คนที่กำลังมองหากิจกรรมการออกกำลังกายที่ช่วยพัฒนาในเรื่องของความสามารถในการดูแลตัวเองหรือเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกาย วันนี้เราจะมาแนะนำศาสตร์แห่งการป้องกันตัวที่คุณก็สามารถเรียนได้ค่ะ
1. มวยไทย
เป็นศิลปะการต่อสู้เก่าแก่ของไทย ที่มีความโดดเด่นทั้งการตั้งรับและตอบโต้ สำหรับการต่อสู้ที่ใช้ร่างกายเป็นอาวุธ โดยเป็นที่รู้จักว่าเป็น “นวอาวุธ” ซึ่งประกอบด้วยการโจมตีจากร่างกายทั้ง หมัด, ศอก, เข่า และเท้า
ในปัจจุบัน กีฬามวยไทยได้รับความสนใจจากกลุ่มคุณผู้หญิงที่รักสุขภาพเป็นอย่างมาก เพราะได้ประโยชน์ทั้งออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก และยังสามารถนำทักษะมวยไทยมาประยุกต์ใช้เพื่อป้องกันตัวอีกด้วย
2. คาราเต้
เป็นสุดยอดวิชาศิลปะการต่อสู้ประชิดที่ชาวประเทศญี่ปุ่นคิดค้นขึ้นมา โดยเน้นการใช้อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย อาทิ กำปั้น, เท้า, สันมือ, นิ้ว และศอก ในการจัดการคู่ต่อสู้ แต่ต่อมา “คาราเต้” ได้ถูกดัดแปลงให้เป็นกีฬา จึงได้มีการกำหนดให้ใช้เพียงมือและเท้าในการต่อสู้เท่านั้น
3. ยูโด
ถือเป็นศิลปะการป้องกันตัวอีกประเภทหนึ่งที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น โดย “ยูโด” ถูกพัฒนามาจาก “ยูยิตสู” (Jiujitsu) วิชาที่เน้นการต่อด้วยมือเปล่าและเน้นทำลายจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ ต่อมา ได้มีการดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขยูยิตสูจนกลายมาเป็นกีฬายูโดในปัจจุบัน โดยเน้นการฝึกเพื่อป้องกันตัวเอง และบริหารร่างกายเพื่อให้เกิดความแข็งแรง ทั้งยังเป็นการฝึกสมาธิให้มั่นคง
4. Mixed Martial Arts (MMA)
จัดเป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบผสม คือ การต่อสู้ที่รวมเอาศิลปะการต่อสู้หลายแขนงเข้าไว้ด้วยกัน อาทิ มวยไทย, มวยสากล, ยูโด, มวยปล้ำ, คาราเต้, แชมโบ และบราซิลเลี่ยน ยูยิสสู มาไว้ด้วยกัน โดยนักสู้ MMA จะนำข้อดีของแต่ละศิลปะวิชาการต่อสู้มาผสมผสานเพื่อให้ใช้ร่วมกันได้อย่างลงตัวในการตู่อสู้
5. คราฟ มากา (Krav Maga)
เป็นศิลปะการต่อสู้จากอิสราเอลที่ได้รับการพิสูจน์ว่าใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันและในสงครามได้เป็นอย่างดี จึงได้ถูกปัจจุบันหลักสูตรการต่อสู้มือเปล่าของหน่วยราชการตำรวจทหาร ทั้งอเมริกาและยุโรป
สำหรับการคราฟ มากา จะเน้นการฝึกซ้ำ ๆ เพื่อให้เกิดการตอบรับอัตโนมัติของร่างกายต่อสภาวะคับขันต่าง ๆ และเปลี่ยนจากผู้ตั้งรับมาเป็นฝ่ายจู่โจมได้อย่างรวดเร็ว
6. บราซิลเลี่ยน ยูยิสสู (Brazilian Jiu-Jitsu)
ถือว่า เป็นศิลปะการต่อสู้สมัยใหม่ที่ถือกำเนิดในประเทศบราซิล โดยผู้เล่น “บราซิลเลี่ยน ยูยิสสู” จะเน้นเล่นงานการทรงตัวของคู่ต่อสู้ เพื่อให้สามารถล็อคตัวคู่ต่อสู้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และเวลาต่อสู้ผู้เล่นจำต้องคิดอยู่ตลอดเวลา คล้าย ๆ กับการเล่นหมากรุก เพียงแค่ใช้ร่างกายแทนหมากในการต่อสู้เท่านั้น
เรียกได้ว่า บราซิลเลี่ยน ยูยิสสู เป็นศิลปะการต่อสู้ที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังช่วยฝึกไหวพริบของผู้เล่นให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์ป้องกันตัวแบบจริงจังมากที่สุด
7. เทควันโด้
เป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบไม่ใช้อาวุธของชาวเกาหลี ใช้มือและเท้าในการต่อสู้และป้องกันตัวเท่านั้น เหมาะฝึกเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของร่างกาย และป้องกันตนเองในยามฉุกเฉิน
8. หวิงชุน (wing chun)
คือ ศิลปะการต่อสู้จีนแขนงหนึ่งในแบบกังฟู แต่ “หวิงชุน” จะแตกต่างจากกังฟูแบบอื่นอย่างชัดเจน เนื่องจากมวยหวิงชุนไม่ต้องใช้แรงปะทะกับคู่ต่อสู้มากนัก จึงเหมาะสมกับสรีระของผู้หญิงที่มีร่างกายอ่อนกว่าผู้ชาย โดยมวยหวิงชุนจะเน้นในการป้องกันตัวและจู่โจมในระยะสั้น