หากพูดถึงนักธุรกิจในวงการลูกหนังแล้ว ชื่อของ อแมนด้า สเตฟลีย์ อาจจะไม่คุ้นหูนัก แต่คุณรู้หรือไม่ว่านักธุรกิจหญิงรายนี้ เคยมีส่วนร่วมกับหนึ่งในดีลการซื้อขายทีมฟุตบอลที่เปลี่ยนแปลงธุรกิจลูกหนังไปตลอดกาล
และตอนนี้ ชื่อของสเตฟลีย์กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง เมื่อมีข่าวว่าเธอกำลังจะเข้ามา เทคโอเวอร์สโมสรในพรีเมียร์ลีก โดยมี 2 ทีมดังตกอยู่ในข่ายที่เป็นไปได้
ส่วนเธอเป็นใคร มาจากไหน และคิดจะซื้อทีมอะไร เราจะมาเช็คประวัติของนักธุรกิจจากเมืองผู้ดีรายนี้กัน
จากวงการการเงินสู่ธุรกิจลูกหนัง

อแมนด้า หลุยส์ สเตฟลีย์ อดีตนางแบบ และนักธุรกิจการเงินชื่อดังของเกาะอังกฤษ ปัจจุบันเธอเป็นเจ้าของบริษัท PCP Capital Partners ซึ่งมีหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนให้กับราชวงศ์ต่างๆ ในตะวันออกกลาง
โดยดีลใหญ่ๆที่เธอมีส่วนร่วม คือการอยู่เบื้องหลังการลงทุนของราชวงศ์จากประเทศกาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กับธนาคาร Barclays เมื่อปี 2008 ก่อนที่เธอจะก้าวเข้าสู่ธุรกิจลูกหนังด้วยการทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและตัวแทนให้กับ บริษัท อาบูดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป ของชีคมานซูร์ เมื่อครั้งเข้ามาเทคโอเวอร์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2008
และอย่างที่ทราบกันว่าการเทคโอเวอร์ครั้งนี้ ทำให้ทีมระดับกลางตารางจากเมืองแมนเชสเตอร์ ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในทีมระดับหัวแถวของโลก ด้วยการใช้จ่ายเงินอย่างมหาศาล และสร้างปรากฏการณ์ให้เหล่าเศรษฐีจากตะวันออกกลางหันมาลงทุนในวงการฟุตบอลมากขึ้น
เล็งสโมสรไหนไว้บ้าง
หลังจากที่ทำหน้าที่เป็นตัวแทนให้กับราชวงศ์จากหลายๆประเทศในตะวันออกกลาง ล่าสุด เดลี่ เทเลกราฟ รายงานข่าวว่า สเตฟลีย์ ในวัย 44 ปี สนใจที่จะเข้ามาลงทุนกับหนึ่งในสองสโมสรในพรีเมียร์ลีก ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด สืบเนื่องจากการที่ ไมค์ แอชลีย์ เจ้าของทีมสาลิกาดง ประกาศความจำนงในการขายทีม ซึ่งการที่เธอได้เข้ามาร่วมชมเกมที่ เดอะ แม็กพายส์ เปิดบ้านเสมอกับลิเวอร์พูลนั้น ทำให้แฟนๆสาลิกาดง มีความหวังที่จะได้เจ้าของทีมคนใหม่ในเร็ววัน
แต่การเข้ามาชมเกมของนักธุรกิจสาวรายนี้ ว่ากันว่าอาจเป็นการมาดูลาดเลาเพื่อซื้อลิเวอร์พูลแทนก็เป็นได้ โดย เดลี่ มิร์เรอร์ มองว่าหากมีการซื้อขายจริง จะเป็นดีลสะท้านฟ้าอีกหนึ่งดีล
ทั้งนี้ เป็นเพราะเจ้าของปัจจุบันอย่าง Fenway Sports Group (FSG) เคยปฏิเสธข้อเสนอของสเตฟลีย์ และ Everbright Limited กลุ่มทุนจากจีนมาแล้วเมื่อปี 2016 โดยทาง FSG ระบุว่าจะยอมขายทีมก็ต่อเมื่อพวกเขาได้ราคาที่เหมาะสม เพราะต้องการผลกำไรจากการขายทีมนั่นเอง แต่สเตฟลีย์เองอาจจะต้องการเทคโอเวอร์ลิเวอร์พูลมากกว่า เนื่องจากมีข่าวว่าเธอเป็นสาวกหงส์แดงด้วยเช่นกัน
และหากดีลประสบความสำเร็จ เธอจะเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่มีอิทธิพลต่อวงการลูกหนังมากที่สุดคนหนึ่ง ต่อจากผู้บริหารหญิงหลายๆคน อาทิ คาร์เรน เบรดี้ ที่ตอนนี้ทำหน้าที่เป็นรองประธานบริหารของทีมขุนค้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ บาร์บาร่า แบรร์ลุสโคนี่ ลูกสาวของซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่ อดีตเจ้าของทีมเอซี มิลาน ที่ก่อนหน้านี้เธอเป็น CEO ของทีมรอสโซเนรี่ ก่อนจะผันตัวมาเป็นประธานมูลนิธิ Milan Foundation หลังจากที่กลุ่มทุนจากจีนเข้ามาซื้อทีมจากคุณพ่อของเธอ