ไม่นานมานี้ เคยมีเพื่อนชะนีนางหนึ่งที่เป็นคอซีรีส์เกาหลีด้วยกัน ถามว่า “นางเอกซีรีส์เกาหลีคนไหนที่เธอดูผลงานแล้วประทับใจในฝีมือการแสดงมากที่สุดเหรอ” ก่อนอื่นต้องบอกว่าเราสองคนนั้นมีบุคลิกภายนอกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ชอบที่จะเอาซีรีส์ที่ดูแล้วชอบ ดูแล้วสนุก หรือพระเอก-พระรองหล่อ มาแชร์มาป้ายยาใส่กันอยู่บ่อย ๆ เคยมีโอกาสคุยลึกขนาดที่พากันวิเคราะห์ตอนต่อไปของซีรีส์เลยก็มี แต่ไม่ค่อยบ่อยเท่าไร เพราะเราดูซีรีส์เรื่องเดียวกันในช่วงเวลาเดียวกันน้อยเรื่องมาก ถึงจะจดลิสต์ให้กัน ส่วนใหญ่จะดองไว้ก่อน บางเรื่องป้ายยานางไปเป็นชาตินางเพิ่งจะมีเวลาเปิดดู หรือนางแนะนำเรื่องที่นางชอบมา นี่ก็ไม่มีอารมณ์ร่วมกับเรื่องนั้น เลยมักจะคุยเรื่องสัพเพเหระกันมากกว่า
แต่คำถามที่นางถามมา มีชื่อของนักแสดงหญิงคนหนึ่งที่เราสองคนเห็นตรงกันว่าการแสดงของเธอนั้นเฉียบมาก เล่นดี เล่นเก่ง ซีรีส์ก็ปัง แถมยังมีรางวัลการันตีฝีมืออีกไม่น้อย ชื่อนั้นก็คือชื่อของนักแสดง “พัคอึนบิน” จากการที่เราทั้งสองได้ดูซีรีส์เรื่อง Extraordinary Attorney Woo เหมือนกัน (แต่ดูกันคนละช่วงเวลา นี่ดูเรียลไทม์ ส่วนนางดูหลังจากซีรีส์จบไปแล้ว) เพราะบทบาทของคนที่เป็นออทิสติกนั้นเล่นไม่ง่าย แถมในเรื่องยังมีอาชีพเป็นทนายที่ต้องรับมือกับความขัดแย้งมากมาย และจากซีรีส์เรื่องนี้ “พัคอึนบิน” ก็ได้รับรางวัลแดซัง (Grand Prize) ของเวที BaekSang Arts Awards ครั้งที่ 59 ไปครอง ซึ่งก็สมมงจริง ๆ ไม่ค้านสายตา และไม่รู้สึกสงสัยอะไร
หลังจากซีรีส์เรื่องนั้น ในปี 2023 นี่มีโอกาสได้ดูซีรีส์เรื่องใหม่ที่เธอเล่น คือเรื่อง Castaway DIVA กับบทบาทของเด็กสาวที่ติดเกาะอย่างโดดเดี่ยวคนเดียวอยู่นานถึง 15 ปี เรื่องนี้เธอก็ปล่อยสุดเหมือนกัน แม้เรตติ้งในเกาหลีจะไม่ถึงเลข 2 หลัก แต่ตัวเลขก็ไม่ใช่ขี้หมูขี้หมา ตอนจบเรตติ้งทำลายสถิติตัวเองทั้งหมดด้วย ส่วนนี่คือซีรีส์เรื่องล่าสุดในปี 2025 ที่เราจะสามารถคาดหวังกับการแสดงของเธอได้อีกครั้ง และเธอก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ เพียงแต่เรื่องนี้อาจจะวัดผลด้วยเรตติ้งไม่ได้ เพราะเป็นงานออริจินัลของสตรีมเจ้า Disney+ แต่จากที่ได้เห็นฟีดแบ็กและการพูดถึงในโซเชียลมีเดีย ซีรีส์เรื่องนี้อาจทำให้เธอมีโอกาสคว้ารางวัลอะไรสักอย่างติดมือมาอีกก็ได้

Hyper Knife เป็นซีรีส์แนวการแพทย์-อาชญากรรม-ระทึกขวัญ เล่าเรื่องราวความสัมพันธ์สุดตึงเครียดระหว่างอาจารย์ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทที่เก่งที่สุดในประเทศ และมีฝีมืออยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลก กับลูกศิษย์สาวสุดอัจฉริยะ ที่ครั้งหนึ่งเธอ “เคยเป็น” ศิษย์เอกหนึ่งเดียวของอาจารย์ ถึงขนาดที่ว่าเธอได้รับการถ่ายทอดความรู้ทุกอย่างที่อาจารย์มีแบบไม่มีกั๊ก อาจเพราะอาจารย์เห็นศักยภาพในตัวเธอว่าเธอเป็นแพทย์ศัลยแพทย์ระบบประสาทที่มีพรสวรรค์ชนิดหาตัวจับยาก มีความรู้เกี่ยวกับสมองมนุษย์แบบสมบูรณ์แบบ ทั้งนี้ทั้งนั้น พรแสวงของเธอก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะเธอมุ่งมั่นและทุ่มเทชีวิตให้กับสมองและการทำงานในห้องผ่าตัดอย่างที่สุด ถึงขั้นยอมตายในห้องผ่าตัด
ศักยภาพและความอัจฉริยะที่อาจารย์เห็นในตัวเธอ การันตีได้เลยว่าเธอจะเป็นศัลยแพทย์ระบบประสาทที่มีอนาคตไกลอย่างแน่นอน การผ่าตัดที่ยากและซับซ้อนแค่ไหนเธอก็ไม่เคยทำผิดพลาด ไม่เคยล้มเหลว และเธอไม่เคยลังเลที่จะลงมือ เธอคือความภาคภูมิใจของอาจารย์ แต่แล้ววันหนึ่งก็ดันเกิดเรื่องขึ้นไม่คาดฝันขึ้น มันไม่ใช่ความผิดพลาดในห้องผ่าตัดที่เกิดกับเคสผู้ป่วย แต่เป็นความผิดส่วนตัวระหว่างทั้งสอง เธอโดนไล่ออกมาจากห้องผ่าตัดในระหว่างที่กำลังผ่าตัด พร้อมทั้งถูกเพิกถอนใบประกอบโรคศิลป์ นั่นหมายความว่าอนาคตกับการเป็นหมออย่างถูกกฎหมายของเธอนั้นเป็นอันจบลง แต่เธอไม่ยอมแพ้ จากศัลยแพทย์อนาคตไกล เธอจึงกลายไปเป็นหมอเถื่อนอยู่ในโลกใต้ดิน

เธอพยายามใช้ชีวิตต่อไปด้วยความรู้และทักษะที่ตัวเองมี แต่เพราะความทะเยอทะยาน และเบื้องหลังอันดำมืดที่เกิดจากการที่เธอควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ เธอจึงก่อเรื่องขึ้นบ่อย ๆ โดยมีลูกกระจ๊อกคนหนึ่งที่เธอช่วยชีวิตไว้จากการผ่าตัดสมองคอยตามล้างตามเช็ดให้ แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เธอกลับต้องมาเผชิญหน้ากับอาจารย์ที่เคยเป็นทั้งแรงบันดาลใจและคนที่เธอเกลียดที่สุดอีกครั้ง จากการที่อาจารย์มาขอร้องให้เธอผ่าตัดสมองให้เขา ความแค้นและความลับต่าง ๆ ของคนทั้งคู่ที่เคยปกปิดมานานจึงเริ่มปะทุขึ้นจากสงครามประสาทที่ทั้งคู่ทำใส่กัน คนหนึ่งทำเพื่อกดดันให้อีกคนยอมมาผ่าตัดให้ ส่วนอีกคนกลับปฏิเสธ และอยากเห็นชีวิตของอีกคนล่มจม เพราะเขาทำลายชีวิตเธอ
ฉันเดิมพันชีวิตของฉันไว้กับสิ่งนี้แล้วค่ะ
จากความสัมพันธ์ของอาจารย์และลูกศิษย์ที่อบอวลไปด้วยความเคารพ การนับถือในความสามารถของแต่ละฝ่าย ความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ทุกอย่างพังลงด้วยเหตุการณ์การถูกลากออกจากห้องผ่าตัดในระหว่างที่กำลังผ่าตัดในวันนั้น แถมเธอยังโดนเพิกถอนใบประกอบโรคศิลป์ จนทำให้เธอไม่สามารถที่จะเป็นหมอในระบบได้อีกต่อไปแม้ว่าเธอจะเก่งแค่ไหนก็ตาม หญิงสาวพยายามตั้งคำถามกับตัวเองมาตลอดว่าเธอทำอะไรผิด เธอถึงถูกปฏิบัติเช่นนั้น เรื่องค่อย ๆ เฉลยให้เห็นว่าเธอทำอะไรบางอย่างที่มัน “ผิดแผน” อาจารย์ของเธอ เธอรู้ดีเกินไป และอ่านใจอาจารย์เก่งเกินไป

ตัวละคร “จองเซอ๊ก” คือคนที่ยอมแลกทุกอย่างเพื่อที่จะได้เป็นหมอผ่าตัดสมองที่มีฝีมือดีที่สุด เธอชื่นชมและนับถือในความสามารถของอาจารย์ “ชเวด็อกฮี” อย่างมาก อ่านงานวิจัยของเขาทุกเล่มจนแทบจะท่องจำได้ หมกมุ่นเรียนรู้ส่วนที่ลึกลับและซับซ้อนทุกส่วนของสมองจนเชี่ยวชาญช่ำชอง เธอรอจะพบกับอาจารย์ที่เธอนับถือตั้งแต่เขายังอยู่ต่างประเทศ และเธอเป็นคนก้มหัวขอร้องให้เขาสอนทุกสิ่งอย่างที่เขารู้ให้กับเธอ เรียกได้ว่าเธอเดิมพันอนาคตของการเป็นศัลยแพทย์ระบบประสาทไว้กับอาจารย์ทั้งหมด เพียงแค่สอนเธอทุกอย่างเท่านั้น และเพราะความมุ่งมั่นนั้นนั่นแหละ ที่ทำให้อาจารย์ประทับใจ และยอมมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในหัวของตัวเองเพื่อลูกศิษย์ที่อุตส่าห์มาขอร้อง

แต่การเดิมพันของเธอถูกทำลายลงเพราะอาจารย์ของเธอเอง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเคยทำได้ดีมาตลอดพังทลายหายไป เท่ากับเป็นการจบชีวิตในฐานะหมอของเธอเลย เป็นเหตุให้เธอเคียดแค้นเขาอย่างมากจนเกือบจะฆ่าเขาตายคามือตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องแล้วด้วยซ้ำ แต่เพราะความรู้ทุกอย่างอยู่ในสมองของเธอ ต่อให้เธอจะถูกพรากใบประกอบวิชาชีพไปแล้ว ทว่าเธอยังคงเป็นหมอต่อไปได้ด้วยความรู้และทักษะที่เธอมี เธอจึงเดินหน้าที่จะเป็นแพทย์ต่อไปตามแนวทางของตัวเอง ยังคงมุ่งมั่นที่จะช่วยชีวิตคนที่เจ็บป่วยด้วยโรคทางสมองอย่างเปี่ยมล้น และก็เพราะความรู้ทุกอย่างที่อาจารย์เป็นคนประสาทให้เธอมา วันนี้เขาจึงต้องกลับมาอ้อนวอนขอร้องให้เธอกลับไปผ่าตัดให้เขา
มนุษย์ก็เลวทรามกันทุกคนนั่นแหละ มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์
เชื่อได้เลยว่าใครก็ตามที่เปิดซีรีส์เรื่องนี้ขึ้นมาดู คุณจะไม่รู้สึกแปลกใจหรือสงสัยอะไรเลยที่ว่าทำไม “พัคอึนบิน” ถึงเป็นเจ้าของรางวัลแดซังจากบทบาทของทนายอูยองอู จากเรื่อง Extraordinary Attorney Woo เพราะเธอแสดงให้เห็นแล้วว่านักแสดงอย่างเธอสามารถแสดงเป็นได้ทุกอย่างจริง ๆ แล้วก็ทำดีทำถึงชนิดที่ว่าลบลืมคาแรกเตอร์เรื่องก่อนหน้าของเธอไปได้เลยด้วย อย่างเรื่องนี้เธอไม่ได้เป็นศัลยแพทย์อัจฉริยะธรรมดา ๆ แต่ยังเต็มไปด้วยความความทะเยอทะยานที่เกินควบคุม ใครก็ตามที่ขวางทางเธอแม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน เธอจัดการได้หมด

และนี่คืออีกด้านของ “จองเซอ๊ก” หมอเถื่อนผู้ที่พยายามผ่าตัดสมองช่วยเหลือผู้ป่วยของตัวเองอย่างเต็มที่ แต่อีกด้านหนึ่งที่ดาร์กสุดขั้ว เธอคืออาชญากรที่ฆ่าคนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ศพ (3 ศพ คือที่เรื่องเฉลยแล้ว) และเธอจัดการทุกคนได้อย่างเลือดเย็นที่สุด ไม่รู้สึกผิด ไม่สะทกสะท้าน หัวเราะสนุกสนานและมีความสุข เป็นฆาตกรที่เดินหน้าเข้าไปหาตำรวจได้โดยไม่กลัวอะไรเลย เหมือนเป็นเรื่องน่าสนุกและท้าทายมากกว่า เหมือนมันเป็นเรื่องปกติที่ใคร ๆ ก็ทำกันในชีวิตประจำวัน และที่เหี้ยมที่สุดคือ เธอมองว่ามันคือการรักษาสมดุลของโลก และเธอคือคนทำหน้าที่นั้นเอง เมื่อด้านหนึ่งเธอคือหมอที่ช่วยชีวิตคน 1 คนได้แล้ว ก็ต้องจัดการอีก 1 ชีวิตที่ทำตัวขวางหูขวางตาเธอ

เป็นเรื่องที่น่ากลัวมากนะกับการที่หมอมีทัศนคติแบบนี้ สิ่งที่เธอเป็น ไม่ต่างอะไรกับพวกไซโคพาธเลยสักนิด แบบเลือกเองได้เลยว่าจะเก็บใครไว้ จะฆ่าใครทิ้ง แล้วสายตาที่เย็นชาโหดเหี้ยมคู่นั้นก็ไม่ได้มีความลังเลอะไรเลย แล้วความสนุกแบบทวีคูณของซีรีส์เรื่องนี้ถูกทิ้งท้ายไว้ในอีพีที่ 4 ใบ้ให้ว่าทั้งอาจารย์และลูกศิษย์คู่นี้คือศีลเสมอกันมาก พวกเขามีความลับที่ต่างคนต่างรู้เช่นเห็นชาติกัน และตอนนี้อาจารย์กำลัง “ลงมือ” เพื่อปกป้องลูกศิษย์ ซึ่งก็เดาไม่ยากว่าอาจารย์จะปกป้องลูกศิษย์อาชญากรของตัวเองไปทำไม ถ้าเขาไม่ได้หวังประโยชน์จากเธอ และเขาเองก็ไม่ต้องการให้ความลับของเขาเอง “ถูกขุด” ขึ้นมาด้วย
Hyper Knife เรื่องนี้จึงไม่ใช่ซีรีส์การแพทย์ธรรมดา แต่มันคือมิติใหม่ของซีรีส์เกาหลีที่นำเรื่องราวดาร์ก ๆ ในวงการแพทย์มาผสมผสานให้เข้ากับความลึกลับ ด้านมืด และความระทึกขวัญอย่างลงตัว เดินเรื่องอย่างเข้มข้น คนที่ดูซีรีส์แนวอาชญากรรมสืบสวนสอบสวนบ่อยอาจจะไม่ได้รู้สึกว่ามันหักมุมอะไรเยอะแยะ แต่มันดันกลายเป็นเรื่องที่เราคาดเดาอะไรไม่ได้เลยมากกว่า ที่สำคัญเรื่องนี้ “พัคอึนบิน” แสดงศักยภาพที่น่าชื่นชมมาก จากการที่เธอพลิกคาแรกเตอร์อย่างแรงจนกลายมาเป็นตัวละครที่โคตรจะอันตราย ดูจิต ๆ ฆ่าคนได้โดยไม่มีลังเล บวกกับบรรยากาศที่ชวนหลอนของเรื่อง ก็ชวนลุ้นว่าอาจารย์กับศิษย์คู่นี้จะพากันดำดิ่งสู่โลกใต้ดินไปได้ไกลแค่ไหน🩸