ภาวะวิกฤติซ้อนวิกฤติโลก บั่นทอนสุขภาวะของพนักงานในปี 2567


ภาวะวิกฤติซ้อนวิกฤติทั่วโลก มีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2567 เนื่องจากสภาพอากาศสุดขั้วและสถานการณ์ความไม่มั่นคงที่ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อองค์กรต่าง ๆ สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เกิดภาวะหมดไฟในกลุ่มพนักงานเพิ่มมากขึ้น

รายงานภาพรวมแนวโน้มความเสี่ยงทั่วโลก ประจำปี 2567 ของอินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส (International SOS Risk Outlook Report 2024) ฉบับล่าสุด ระบุว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ของผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านความเสี่ยงทั่วโลกที่ตอบแบบสำรวจคาดการณ์ว่า ภาวะหมดไฟจะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อธุรกิจในปี 2567 แต่มีเพียง 41 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสำรวจกลุ่มนี้เท่านั้น ที่รู้สึกว่าองค์กรของตนพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว

รายงานยังได้ให้ภาพรวมโดยละเอียดเกี่ยวกับความเสี่ยงสำคัญบางประการที่องค์กรต่าง ๆ ต้องเผชิญในปี 2567 รวมถึงวิกฤตสภาพภูมิอากาศ พลังของปัญญาประดิษฐ์ (AI) การเปลี่ยนแปลงในเรื่องความคาดหวังของพนักงาน และปัญหาความไม่สงบทั่วโลก

วิกฤติสภาพภูมิอากาศ – เมื่อภาวะโลกร้อนมาเยือน

ในช่วงระยะเวลากว่า 2,000 ปี อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่า ความเสี่ยงจากสภาพอากาศนั้นเกี่ยวพันกับธุรกิจทั่วโลกมากเพียงใด องค์กรหนึ่งในสี่เปิดเผยว่า กิจการของตนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และรายงานการแจ้งเตือน (Alerts) จากอินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส ในปี 2566 ชี้ว่า เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว เป็นประเภทของสถานการณ์ที่มีการแจ้งเตือนสูงเป็นอันดับสองของรายงานการแจ้งเตือนจำนวนหลายพันรายงานที่ออกโดยอินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส

ภาวะไร้เสถียรภาพทั่วโลกทวีความรุนแรงขึ้น

ผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่า ในปี 2566 ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เป็นหัวข้อที่ทำให้เกิดความกังวลด้านความปลอดภัยที่สูงเป็นอันดับสอง โดยผู้ตอบแบบสำรวจถึงสามในสี่เชื่อว่า องค์กรของตนจะได้รับผลกระทบอย่างมากในปี 2567 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิกฤติการณ์ที่ยังคงเกิดขึ้นในอิสราเอลและฉนวนกาซา รวมถึงความขัดแย้งที่ยืดเยื้อในยูเครน ส่งผลให้เกิดภาวะไร้เสถียรภาพทั่วโลก

เอไอ – ความเสี่ยงและโอกาส

ปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) มีศักยภาพที่น่าทึ่งในการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน เอไอกลับทำให้งานที่มีความสำคัญอย่างการแยกแยะข้อมูลที่เชื่อถือได้ออกจากข้อมูลเท็จ และข้อมูลที่จงใจบิดเบือนสำหรับธุรกิจนั้น มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น ผู้ตอบแบบสำรวจงานวิจัยภาพรวมแนวโน้มความเสี่ยงระดับโลกมากกว่าสองในห้าระบุว่า รู้สึกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับพนักงานของตนจากข้อมูลทางการแพทย์ที่ไม่ถูกต้องและถูกบิดเบือน และตัวเลขผู้ตอบแบบสำรวจเพิ่มขึ้นเป็นสามในห้าเมื่อถูกถามเกี่ยวกับข้อมูลทางการเมืองที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งประเด็นนี้อาจเป็นสถานการณ์ที่ท้าทายอย่างยิ่งในช่วงที่สหรัฐกำลังจะมีการเลือกตั้งครั้งสำคัญ

สัญญาจ้างแรงงานรูปแบบใหม่

สามในสี่ขององค์กรที่ตอบรับการสำรวจเปิดเผยว่า พนักงานมีความคาดหวังมากขึ้นว่าจะได้รับการดูแลจากบริษัท (Duty of Care) ตัวเลขดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นถึงองค์กรที่ปัจจุบันแบกรับหน้าที่ที่เคยถูกมองว่าเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล เช่น สองในสามขององค์กรที่ระบุว่า องค์กรได้ขยายขอบเขตสวัสดิการพนักงานให้ครอบคลุมการสนับสนุนครอบครัวของพนักงานในยามจำเป็นด้วยเช่นกัน

นับเป็นการตอกย้ำว่า ยุคสมัยแห่งการให้บริการด้านอาชีวอนามัยขั้นพื้นฐานสำหรับพนักงานเพียงอย่างเดียวนั้นได้สิ้นสุดลงแล้ว แม้ว่าบริการด้านอาชีวอนามัยสำหรับพนักงานจะยังคงมีความสำคัญ แต่จำเป็นต้องถูกยกระดับด้วยมาตรการช่วยเหลือและการสนับสนุนที่หลากหลาย เพื่อปกป้องดูแลพนักงานทั่วโลก

ที่มา: International SOS Services (Thailand) Limited