พระแม่กาลี ผู้ทำลายล้างพลังชั่วร้าย

ความเชื่อในพลังอำนาจที่มองไม่เห็น แต่สามารถทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ได้ เป็นความเชื่อพื้นฐานของมนุษย์ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ เกิดขึ้นเพราะมนุษย์มีความกลัว เริ่มต้นด้วยความเชื่อในพลังอำนาจหลังความตาย ต่อมาเป็นเรื่องของเทพเจ้า และกลายมาเป็นความเชื่อทางศาสนา เช่นเดียวกับในเมืองไทยตั้งแต่ก่อนพุทธกาลนั้นมีการนับถือผี ต่อมาเป็นพราหมณ์ และค่อยเปลี่ยนมาเป็นพุทธ และศาสนาอื่นที่เดินทางเข้ามาตามคนที่เข้ามาตั้งรกราก

ทั้งนี้ความเชื่อในปัจจุบันเริ่มมีมากขึ้นตามความเปราะบางของสังคมที่ไร้ที่พึ่งพิง รวมไปถึงเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ทำให้คนต้องการที่ยึดเหนี่ยว และส่งผลให้มีรูปเคารพที่มีเรื่องเล่าแบบแต่งเติมขึ้นมามากมาย และเป็นรูปเคารพที่มีความน่ากลัวเพื่อสร้างให้คนยำเกรง

ทั้งนี้รูปเคารพของเทพ เทวีที่มีความน่ากลัวนั้นมีอยู่ และเป็นรูปเคารพที่ยึดเหนี่ยวอยู่กับศาสนา และได้รับความศรัทธาเป็นสากล ดังนั้น หากคิดจะยกมือเพื่ออธิษฐานขอพรรูปเคารพเพื่อให้เกิดบารมี หรือขอพรให้กับตนเอง ควรจะเลือกรูปเคารพที่มีที่มาที่ไป และมีความเชื่อที่ถูกต้อง ดังเช่น พระแม่กาลี ซึ่งเป็นปางหนึ่งของพระแม่อุมาเทวี เป็นรูปเคารพที่อาจมีความน่ากลัว หากแต่ในบันทึกทางศาสนานั้น พระแม่กาลี คือ ผู้ทำลายล้างพลังชั่วร้าย

พระแม่กาลี ได้รับการขนานนามว่าเป็นเทวีที่มีพลังอำนาจยิ่งใหญ่มหาศาล คอยปราบปรามสิ่งไม่ดี ความชั่วร้ายต่าง ปกป้องคุ้มครองความดี และเป็นเลิศด้านความกล้าหาญและเด็ดขาด เป็นเทวีในศาสนาฮินดู ผู้นำของมหาวิทยา กลุ่มตันตรเทวีสิบองค์ซึ่งเป็นปางต่าง ๆ ของพระแม่ปารวตี

ปางดั้งเดิมของพระแม่กาลีคือเป็นผู้ทำลายล้างพลังชั่วร้าย และถือกันว่าพระนางเป็นศักติองค์ที่มีพลังอำนาจมากที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในสี่กาวลมรรค ตามธรรมเนียมตันตระของลัทธิไศวะ ความเชื่อพื้นฐานคือพระนางเป็นผู้ทำลายความชั่วร้ายและปกป้องผู้บริสุทธิ์ ในยุคถัด ๆ มา มีการเคารพบูชาพระแม่กาลีในสถานะต่าง ๆ ทั้งในฐานะเทวีสูงสุด, พระมารดาแห่งเอกภพ, อาทิศักติ หรือ อาทิปรศักติ ธรรมเนียมศักตะและตันตระบางธรรมเนียมบูชาพระนางเป็นความจริงสูงสุด

นอกจากนี้ยังถือว่าพระนางเป็นเทวีผู้พิทักษ์บุคคลผู้ที่เข้าสู่โมกษะ (การหลุดพ้น) รูปเคารพทั่วไปของพระแม่กาลีมักแสดงพระนางกำลังยืนหรือร่ายรำอยู่บนร่างกายของพระศิวะ คู่ครองของพระนาง ซึ่งนอนอย่างสงบเสงี่ยมอยู่เบื้องใต้ มีการบูชาพระนางในบรรดาศาสนิกชนของศาสนาฮินดูทั้งในอินเดีย, เนปาลและหลายแห่งทั่วโลก

ในตำนานกล่าวว่า ในอดีตมียักษ์หรืออสูรร้ายตนหนึ่งนามว่า มาธู หรือทารุณ ที่ยากจะเอาชนะได้ แต่พระแม่อุมาเทวีที่มีจิตใจกล้าหาญอาสาที่จะปราบอสูรตนนั้น จากนั้นพระแม่กาลีไปบำเพ็ญตบะและขอพรจากพระศิวะให้มีพลังอิทธิฤทธิ์เพื่อให้สามารถเอาชนะอสูรตนนี้ได้ พระแม่อุมาเทวีจึงอวตารเป็น พระแม่กาลี

พระแม่กาลีมีลักษณะที่ผิวพรรณดำขลับ พระพักตร์ดุดัน มี 10 พระกรที่ถืออาวุธสังหาร แลบลิ้นยาวถึงทรวงอก มีเลือดไหลออกจากปาก สวมพวงกะโหลกที่คอ แต่ภายใต้รูปลักษณ์ที่น่าเกรงขามนั้น แท้จริงแล้วพระแม่กาลีเป็นผู้ที่มีจิตใจเมตตาอารีดั่งมหาสมุทร มอบความรักและความกรุณาให้กับมวลชนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด คอยปกปักรักษาเหล่าสรรพสิ่งที่ประพฤติดี และทำลายล้างสิ่งชั่วร้ายให้หมดสิ้น จนได้รับยกย่องว่าเป็นพระแม่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งจักรวาล  โดยพระแม่กาลีสามารถเปรียบได้กับเจ้าแม่กวนอิมปางพันมือ ซึ่งเป็นปางที่ปราบมารและสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ

ตามความเชื่อของชาวฮินดูนั้นการบูชาพระแม่กาลีจะเสริมสร้างจิตใจให้แข็งแกร่ง ฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรคของชีวิตไปได้ และสามารถต่อสู้กับสิ่งชั่วร้าย ทำลายอำนาจไม่ดีทั้งหลาย รวมทั้งพระแม่กาลีจะประทานความกล้าหาญ ความเข้มแข็ง และอำนาจให้

อีกทั้งยังคุ้มครองผู้บูชาจากภยันตรายและอุบัติเหตุ ขจัดศัตรูในชีวิต ปราบมารในใจเรา โดยมารในที่นี้หมายถึงลักษณะนิสัยที่ไม่ดีของเราที่เราอยากจะปรับเปลี่ยน และสำหรับใครที่ทำคุณกับคนไม่ขึ้น เช่น ทำดีกับใคร เขาไม่ดีตอบ พระแม่กาลีจะช่วยให้คนที่ทำดีได้รับสิ่งดี ๆ รวมทั้งหากใครกำลังเดือดร้อน มีภาระที่ต้องดูแลครอบครัว พระแม่กาลีก็จะช่วยคลายปัญหาให้

นอกจากนี้หากใครที่กำลังประสบเคราะห์กรรม อาถรรพ์ชั่วร้าย และสิ่งอวมงคล พระองค์จะช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดีเหล่านั้นให้หายไป และจะบันดาลความสุขและความเจริญรุ่งเรืองให้กับผู้ที่บูชา อีกทั้งยังช่วยบรรเทาโรคภัย และความเจ็บป่วยต่าง ๆ ส่งเสริมด้านโชคลาภ โภคทรัพย์ และเกื้อหนุนด้านยศฐาบันดาศักดิ์

ด้วยความที่พระแม่กาลีมีพลังอำนาจมหาศาล คนจึงนิยมบูชาพระองค์ เนื่องจากหากผู้ที่บูชามีจิตใจศรัทธาอันแรงกล้าและประพฤติดี ทั้งกาย วาจา และใจ พระองค์จะประทานพรให้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะขอพรมากเท่าไร ก็จะสำเร็จดั่งใจหวังทุกประการ