ปัจจุบัน กระแสการทำธุรกิจร้านกาแฟหรือเปิดคาเฟ่ยังคงได้รับความนิยมอยู่มากทีเดียวสำหรับคนที่อยากจะมีธุรกิจส่วนตัวเป็นเจ้านายตัวเอง ร้านกาแฟ คาเฟ่มีอยู่แทบจะทุกมุมถนน ร้านเปิดติด ๆ กันเพื่อแข่งกันเอง ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปช่วงหนึ่งแล้ว เราจะพบว่ามันคงไม่ใช่ทุกร้านที่จะอยู่ได้และไปต่อได้ มีหลายปัจจัยที่ทำให้ร้านเหล่านี้อยู่ได้ไม่นานนัก ดังนั้น เหล่าบรรดาเจ้าของร้านจึงต้องแข่งขันกันสูงมาก โดยเฉพาะเรื่องของไอเดีย
ต้องบอกว่าในสังคมยุคที่ Content is king แบบนี้ หากร้านคุณมีไอเดียแปลกแหวกแนวมากเท่าไร ผู้คนในยุคนี้ก็ไม่พลาดที่จะไปลองเพื่อทำคอนเทนต์ อานิสงส์จากคอนเทนต์ที่ลูกค้าทำ อาจกลายเป็นไวรัลที่เป็นกระแสโด่งดังในโลกออนไลน์ และก็จะมีผู้คนที่อยากรู้อยากลองของแปลกใหม่ตามไปลองอีกมากมาย หรือจริง ๆ แล้ว คุณอาจจะทำคอนเทนต์นำเสนอร้านของตนเองไปในทิศทางที่แปลกและแหวกแนวไม่เหมือนใคร ก็ใช้เป็นจุดขายเรียกลูกค้าให้ตามมาลองได้เหมือนกัน
เหมือนอย่างช่วงที่ผ่านมา หลาย ๆ คนอาจจะได้เห็น “เค้ก” ที่ถูกออกแบบให้เป็นรูปลักษณ์ของสัตว์ที่น่าสะพรึงอย่างคางคก ตุ๊กแก ตัวเงินตัวทอง แม้กระทั่งตัวเห็บสุนัข เป็นไวรัลอยู่ในโลกออนไลน์ เห็นทีแรกอาจดูน่าขยะแขยงเพราะมันเหมือนมากจนน่าขนลุก รายละเอียดยิบย่อยแค่ไหนก็ไม่ถูกมองข้าม ชนิดที่ว่าหากซื้อเค้กนี้ไปเซอร์ไพรส์วันเกิดเพื่อน ก่อนที่เพื่อนจะรู้ว่ามันคือขนมเค้ก อาจโดนเพื่อนโกรธได้เลยที่เราแกล้งเอาสัตว์พวกนี้ไปให้ แต่ข้อเท็จจริงก็คือ ไอเดียแปลก ๆ แบบนี้นี่แหละที่ขายได้และขายดีด้วยในสังคมยุคนี้ เค้กหน้าตาน่าเกลียดน่าชังเช่นนี้ ฮิตมากขนาดที่ทำขายกันไม่ทันเลยทีเดียว
ดังนั้น บทสัมภาษณ์คนต้นคิดในวันนี้จะพาคุณผู้อ่านไปทำความรู้จักกับเจ้าของเค้กรูปสัตว์สุดสะพรึงที่กำลังโด่งดังเป็นไวรัล อีกทั้งยังเป็นเจ้าของคาเฟ่ไอเดียสุดปัง “ร้านเวทย์มนต์” ที่ยกเอาโลกเวทมนตร์เหนือจินตนาการมาไว้ที่โลกจริง เจ้าของร้านคือ “คุณเบสท์ ชลิต กุลสารี” จากจุดเริ่มต้นที่มีความชอบเวทมนตร์ โลกเหนือจินตนาการ และเปิดเพจขายของเล่นแปลก ๆ ทางออนไลน์มาก่อนหน้า จึงหันมาเนรมิตคาเฟ่ธรรมดา ๆ ให้เป็นดินแดนพ่อมดแม่มด ต้อนรับทั้งเหล่าผู้วิเศษและมักเกิลให้เข้าไปลองสัมผัสเมนูแปลก ๆ ที่เขาคิดค้นขึ้นเอง และผลงานชิ้นโบว์แดง มิติใหม่ของการทำเค้กขาย ไม่เน้นหน้าตาน่ากิน แต่เน้นเหมือนจริงจนน่าขนลุก ความแปลกแหวกแนวนี้ได้แต่ใดมานะ!
จุดเริ่มต้นของ “ร้านเวทย์มนต์” กับคอนเซปต์โลกเวทมนตร์
ก็ปกติเราขายของออนไลน์อยู่แล้วครับ ของที่ขายก็พวกสิ่งมหัศจรรย์ เวทมนตร์ ของแปลก อะไรประมาณนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วครับ แล้วหลังจากเจอพิษโควิด-19 ก็เลยมาเริ่มต้นใหม่โดยการเปิดคาเฟ่ดู ให้มันเข้ากับคอนเซปต์ของร้านครับ ก็ออกมาในลักษณะโลกเหนือจินตนาการประมาณนี้ครับ ส่วนหนึ่งก็อิงมาจากนวนิยายแฟนตาซีเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ เราเกิดมาพร้อม ๆ กันครับ ดูตั้งแต่เด็กเลย แต่ก็ไม่ได้ชอบแค่แฮร์รี่ พอตเตอร์นะครับ ชอบทุกอย่างที่เกี่ยวกับเวทมนตร์ โลกเหนือจินตนาการ เวทมนตร์คาถา พวกดิสนีย์ก็ด้วยครับ
จากนั้นก็เริ่มมาเปิดหน้าร้านครับ เพิ่งเปิดมาได้ 2 เดือน ตอนนี้เข้าเดือนที่ 3 ครับ ส่วนที่ขายออนไลน์อยู่ก็เพจร้านเวทย์มนต์นี่แหละครับ จริง ๆ ตัวเพจเปิดมานานแล้ว 6 ปีย่างปีที่ 7 แล้วครับ ซึ่งถ้าถามผม ผมมองว่าต้องหาตัวตนของตัวเองให้เจอครับ ถ้าเจอมันก็จะไปได้อย่างเร็วเลย ซึ่งมันต้องมีบ้างแหละครับคนที่จะชอบในสิ่งที่เราคิดว่ามันน่าจะไปต่อได้ แต่มันอาจมีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ ก็จะต้องดูว่าตรงไหนเป็นจุดเด่นของเรา เราก็จะดึงจุดเด่นของเราออกมาได้ดีที่สุด ผมทำร้านนี้ก็เริ่มมาคนเดียวเลยครับ แต่จะมีผู้จัดการที่เป็นตัวเรียกเสียงหัวเราะในร้านด้วยอีกคนครับ
ร้านเวทย์มนต์ ร้านที่เสกสรรทุกสรรพสิ่งที่คุณต้องการ
อย่างที่บอกครับว่าเราขายของแปลกอยู่แล้ว แรก ๆ ส่วนใหญ่เราก็จะขายนาฬิกาครับ นาฬิกาเวทมนตร์ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของร้านเวทย์มนต์ ก่อนหน้านี้ก็จะมีการนำเข้าไม้กายสิทธิ์ของแฮร์รี่ พอตเตอร์เข้ามาขายด้วย พวกชุดคอสเพลย์ต่าง ๆ ช่วงพักหลังก็จะขายแต่ของแปลกครับ
พอเปิดเป็นคาเฟ่ เมนูเด่น ๆ ก็จะเป็นพวกเครื่องดื่มเลยครับ มีกาแฟ สมูตตี้ ชาเขียว แล้วก็เป็นเครื่องดื่มที่แบบจัดเต็มอะครับ ใส่คอนเซปต์แบบโลกเวทมนตร์เลย พวกน้ำยาต่าง ๆ ที่อยู่ในหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์ ก็มีน้ำยาสรรพรส น้ำยาขนนกฟินิกส์ เลือดยูนิคอร์น ประมาณนี้ครับ โดยอันดับแรกเราจะดูสีก่อน ว่าสีของน้ำยาตัวนี้ควรจะเป็นประมาณไหน เช่น เลือดยูนิคอร์น คือเห็นตามในหนังมันก็จะเป็นสีเทา ๆ เงิน ๆ มีกลิตเตอร์ เราก็เอานู่นเอานี่มาปรุงแล้วก็ใส่กลิตเตอร์ลงไปให้มันได้สีเทา ให้มันออกมาเป็นอย่างนั้น พูดง่าย ๆ ก็คือครีเอตไปตามจินตนาการอีกทีครับ
เมนูเด่นของร้านก็เป็นบัตเตอร์เบียร์ครับ ซึ่งก็จะเป็นเบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ทำมาจากคาราเมล วานิลลา แล้วก็ครีมชีสครับ แล้วก็จะมีพวกฮันนี่โทสต์ต่าง ๆ แต่ส่วนใหญ่เขาก็จะมาเสพบรรยากาศของร้านมากกว่าครับ แล้วก็สั่งเมนูเครื่องดื่มที่เป็นพวกน้ำยาต่าง ๆ หรือไม่ก็จะเป็นพวกเมนูที่นมที่มีการจัดตกแต่งแก้วแบบจัดเต็มอลังการงานสร้างครับ ก็จะสั่งเอามาถ่ายรูปคู่กับบรรยากาศของร้าน
ราคาเครื่องดื่มที่คาเฟ่ เริ่มต้นที่ 49 บาทครับ ก็จะเป็นนมปั่น แพงสุดก็จะเป็นเมนูน้ำยาต่าง ๆ ครับที่จะ 99 บาท เครื่องดื่มมีไล่ราคาเลยครับตามการใช้วัตถุดิบ แต่เบสิกก็คือ 49 บาท ช่วงนี้ลูกค้าแน่นร้านครับ ยิ่งมีข่าวคนยิ่งแน่น เพราะว่าร้านตั้งแต่เปิดมานี่เป็นข่าว 2 รอบ ตั้งแต่เปิดร้านมาก็เป็นข่าวเลย แล้วก็มารอบหลังก็คือตัวเค้กนี่แหละครับ
อะไรคือไอเดียในการเพิ่มมูลค่าให้กับเค้กด้วยการทำเค้กเป็นสัตว์แปลก ๆ
ถ้าสมมติเคยดูพวกหนังที่เกี่ยวกับโลกเวทมนตร์นะครับ ก็จะเห็นว่ามันจะมีพวกขนมที่แปลก ๆ อยู่ในเรื่องด้วย อะไรพวกนี้ในโลกเวทมนตร์มันไม่ได้ดูแปลกหรอก แบบลูกอมรสแมลงสาบ หรือขนมกลิ่นขี้มูก กลิ่นถุงเท้า อะไรแบบนี้ เราก็เลยลองทำดูครับ ตัวแรกที่ทำก็คือเค้กคางคกครับ ทำตัวคางคกมาก่อน แล้วก็มาตัวที่สองก็เริ่มจากการเหลือบไปเห็นโมเดลที่ทางร้านของเราขายอยู่แล้ว มันเป็นโมเดลตัวเห็บหมาครับ คือตัวโมเดลนี้เราขายเพื่อความสนุกสนานเฮฮาในเพจอยู่แล้ว ก็เลยลองเอามาทำเป็๋นเค้กดู ปรากฏว่าคนให้การตอบรับดีมากครับ ดีเกินคาดเลยด้วยซ้ำ
แรกเลย เขาก็น่าจะซื้อไปรีวิวทำคอนเทนต์ของเขาครับ แบบเห็นจากในข่าวแล้วมันแปลกดีก็เลยน่าซื้อมาลอง บ้างก็ซื้อไปเป็นเค้กวันเกิดเพื่อนนี่แหละ แต่ตั้งใจแกล้งเพื่อนด้วย อะไรประมาณนี้ หรือว่าซื้อมาลองชิมดูว่ารสชาติเป็นยังไง ซึ่งก่อนที่ชิมรสชาติเนี่ย เขาก็จะหยึย ๆ แหยง ๆ รูปลักษณ์มันก่อนทุกคนครับ เพราะมันเหมือนมาก อย่างตัวเห็บเนี่ยจะคล้ายมากเลย ถึงเราจะจินตนาการเอา แต่ก็พยายามทำให้มันมีความหยึย ๆ แบบผิวหนังของเห็บจริง ๆ แล้วจิ้มลงไปก็จะเจอตัวซอสสตรอว์เบอร์รีที่เราฝังไว้ มันก็จะแตกโป๊ะออกมา เหมือนกับเราบีบเห็บจริง ๆ เลย แล้วก็จะมีไข่ของน้องเห็บด้วยอยู่ข้างใน เวลากินเข้าไปก็ได้ความกรุบ ๆ เคี้ยวเข้าไปก็จะรู้สึกเหมือนกินไข่เห็บไปด้วยในตัว
สำหรับเค้กที่เป็นสัตว์แปลก ๆ แบบนี้ เริ่มทำจริง ๆ เลยก็ช่วงสงกรานต์ครับ น่าจะประมาณวันที่ 12-13 เมษายนนี่แหละครับ รายได้ตอนนี้ก็หลักแสนครับ ลูกค้ามีทั้งออนไลน์แล้วมาซื้อที่หน้าร้านก็เยอะ ส่วนหนึ่งเลยครับ ส่วนใหญ่ก็จะขายออนไลน์ คนที่ซื้อไปก็มีหลายวัตถุประสงค์เลยครับ มีคนที่ซื้อไปรีวิวบ้าง ซื้อตามกระแสบ้าง หรือไม่ก็ซื้อให้เพื่อนเป็นของขวัญวันเกิดแบบนี้ครับ พวกเพื่อน ๆ เขาจะแกล้งกันเพื่อความสนุกสนาน ประมาณนี้ครับ
ที่เห็นว่าเป็นสัตว์หน้าตาดูน่าขยะแขยงแบบนี้ แต่ออเดอร์เค้กมีคนสั่งจองเข้ามาประมาณ 50-100 ชิ้นต่อวันเลยครับ สำหรับราคาของเค้ก ถ้าเป็นเค้กเห็บ ราคาอยู่ที่ 290 บาท เค้กคางคก 390 บาท เค้กอึ่งอ่าง 390 บาท เค้กแมลงสาบ 490 บาท เค้กตุ๊กแก 890 บาทครับ เพราะใช้ระยะเวลาทำนาน แล้วก็เค้กตัวเงินตัวทองนี่ 1,390 บาทครับ ซึ่งตอนนี้มีไอเดียจะทำสัตว์อื่น ๆ อีกครับ ก็จะทำเรื่อย ๆ ตามรีเควสลูกค้าครับ
การทำเค้กเป็นสัตว์ต่าง ๆ เหล่านี้ ความยากอยู่ที่ตรงไหน
ต้องบอกก่อนครับว่าก่อนหน้านี้ก็มีฝึกทำเค้กมาบ้างครับ แบบฝึกทำด้วยตัวเองมาบ้าง แล้วก็มีที่ทำเป็นของขวัญวันเกิดให้แม่ แต่ว่ารอบนี้ก็เลยลองเอามาทำดู ทำตามรูปลักษณ์ของสัตว์ที่เราเห็นดู ลองคลุมฟองดองท์ดู แล้วก็ลองตกแต่งดูว่ามันจะเหมือนไหม เหมือนแค่ไหน แล้วก็เอามาประกอบกัน ซึ่งเราก็มีทักษะทางด้านการแต่งหน้าเค้กอยู่แล้ว ก็เลยลองแต่งดู ทำเป็นงานศิลปะครับ แต่บางอย่างมันก็ทำให้เหมือน 100 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้เหมือนกันครับ เพราะมันเป็นเค้ก ก็พยายามทำออกมาให้ดีที่สุด
ตัวงานที่ยากสุดคือตัวเงินตัวทองครับ ทำตัวนี้ใช้เวลาประมาณตัวละ 5 ชั่วโมงในการทำผิวหนังมันอะครับ ซึ่งเวลาทำเค้กพวกนี้ก็จะยากตรงที่การทำผิวหนังมันนี่แหละครับ ผิวหนังของสัตว์แต่ละตัวจะไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นตัวเห็บมันก็จะเรียบ ๆ ก็แค่มีลายเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าเป็นตุ๊กแกหรือตัวเงินตัวทอง มันก็จะต้องใช้ตัวไอซิ่งครับ มาจุดให้มันขึ้นรายละเอียดทีละนิด ๆ แล้วเรียง ตัวผิวหนังที่แบบนูนขึ้นมาจากตัวที่มันพื้นเรียบอะครับ ลงจุดทีละจุดเลย จุดแล้วค่อยลงสีทีหลังครับ อย่างตัวตุ๊กแกก็ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครับ เพราะมันตัวเล็กกว่าตัวเงินตัวทอง
เค้กเป็นขนมที่ค่อนข้างบอบบางพอสมควร แต่การขนส่งไปยังลูกค้าไม่เป็นปัญหาครับ เพราะเค้กของเราจะใช้ตัวบัตเตอร์เค้กแล้วก็บัตเตอร์ครีมที่แบบแน่น ๆ เลยครับ มันจะเป็นเค้กที่เนื้อแน่น มีความแข็งแรงเวลาที่จัดส่ง ตัวบัตเตอร์ครีมเนี่ย เวลาแช่เย็นมันก็จะแข็งตัว จนไม่เหมือนเค้กอื่น ๆ ทั่วไป เวลาเราเอาเข้าห้องเย็นหรือตู้เย็น มันก็จะแข็งตัว เวลาไปถึงลูกค้าก็ ลูกค้าเอาออกมาจากตู้เย็นประมาณ 1-2 นาที มันก็เริ่มกลับคืนสู่สภาพเดิมครับ แล้วก็เสียยากด้วย
ระยะทางไกลสุดที่เคยส่ง ลูกค้าสั่งให้ส่งไปนราธิวาสครับจากสกลนคร ก็สามารถอยู่ได้ปกติเลยไม่มีปัญหา เพราะว่าตัวบัตเตอร์เค้กนี้ถ้ามันอยู่ด้านนอกเฉย ๆ ในอุณหภูมิปกติ ไม่ต้องแช่เย็นก็สามารถอยู่ได้ 3 วัน แต่ถ้าแช่ตู้เย็นธรรมดา ก็จะอยู่ได้ 10 วัน แต่ถ้าแช่ในช่องฟรีซหรืออุณหภูมิที่มันติดลบ ก็อยู่ได้เป็นเดือนเลยครับ ไม่เสีย
อยากได้เค้กเป็นสัตว์แปลก ๆ สั่งได้เลย
ถ้าใครอยากสั่งเค้ก ก็สามารถสั่งทางออนไลน์ได้เลยครับ หรือจะจองออนไลน์ไว้ก่อนมาหน้าร้านก็ได้ ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ “ร้านเวทย์มนต์” ครับ มีแอดมินดูแลตลอดครับ ตอนนี้ร้านเวทย์มนต์มีสาขาเดียวครับ อยู่ที่สกลนคร ถนนคูเมือง ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมืองสกลนคร แต่ก็กำลังมีแพลนที่จะเปิดที่กรุงเทพฯ ครับ ได้ทำเลแล้ว อยู่แถว ๆ ห้างไอคอนสยามครับ ถ้าอะไร ๆ เสร็จหมดแล้วก็จะลงมาดูเอง ส่วนร้านที่สกลนครก็จะมีแม่คอยดูแลให้ เรื่องเปิดสอนทำเค้กตอนนี้ยังไม่มีแพลนครับ แต่ก็มีที่ทำลงยูทูบอยู่ว่าวันนี้ทำเค้กตัวนั้นตัวนี้ และตอนนี้ก็มีผู้ช่วยครับ รับเป็นพนักงานมาช่วยทำเค้ก เพราะว่าทำเองไม่ทันแล้ว
