เหยียบคนอื่นด้วยคำวิจารณ์ไม่ทำให้เราสูงกว่าใคร

ภาพจาก Pixabay

สังคมปัจจุบันนี้เต็มไปด้วยนักวิจารณ์ และ นักอยากวิจารณ์นะคะ เวลาอ่านความคิดเห็นในโลกโซเชียลในปัจจุบันผู้เขียนรู้สึกได้ถึงความแรงที่เก็บกดอยู่ภายในของคนในสังคม และ พร้อมจะปลดปล่อยเพื่อความสบายใจของตนเองตลอดเวลา เห็นแบบนี้แล้ว ผู้เขียนนึกไปถึง ตัวละครที่ชื่อ แอนตัน อีโก้ ในภาพยนตร์อนิเมชั่นของ วอลท์ ดิสนีย์ เรื่อง Ratatouille

แอนตัน อีโก้ ในเรื่อง Ratatouille คือนักวิจารณ์อาหารผู้หยิ่งยโส ผู้ทำให้พ่อครัวทั่วทั้งปารีส ต้องตกประหม่าเมื่อ นักชิมและนักวิจารณ์รายนี้เดินเข้ามาในร้าน เพราะไม่ว่าอาหารจะใช้วัตถุดิบชั้นเลิศ แค่ไหนหากรสชาติไม่ดีพอกับลิ้นของ แอนตัน อีโก้ ร้านอาหารร้านนั้นเตรียมปิดกิจการได้เลย และด้วยความที่เจ้าตัวรู้สึกเหมือนได้กุมชะตาคนเอาไว้ ความเป็นแอนตัน อีโก้ ก็เป็นไปตามชื่อของเขา ที่หลงในภาพมายาและคิดว่าโลกทั้งโลกอยู่ใต้ปากกานักวิจารณ์ของตนเอง

จนกระทั่งวันหนึ่ง แอนตัน อีโก้ ได้กิน Ratatouille (สตูว์ผัก) อาหารจานธรรมดาที่รสชาติไม่ธรรมดาเพราะคนปรุงได้ใส่ความเป็น “รสมือแม่” ลงไป ของแบบนี้คงไม่ต้องบอก เพราะอาหารรสมือแม่คือจานที่ไม่ได้กินแค่เอาอิ่มแต่เราได้กินความรักของแม่เข้าไปด้วย และรสมือแม่ก็ทำให้เราไม่ลืมว่าตนเองเป็นใครมาจากไหน

และ Ratatouille จากร้านที่แอนตัน อีโก้ หมายมั่นจะเขียนวิจารณ์ให้ตายคาแป้นพิมพ์ดีดไปเลย กลับกลายเป็นร้านที่ทำให้เขาเปลี่ยนมุมมองงานวิจารณ์ของตนเอง และนับเป็นวรรคทองจากอนิเมชั่นเรื่องนี้ ที่ผู้เขียนขออนุญาตแปลตั้งแต่ต้นจนจบ ซึ่งแอนตัน อีโก้ เขียนไว้ว่า

“หากมองกันตามจริงแล้ว การเป็นนักวิจารณ์ แล้วเที่ยวเขียนวิจารณ์คนอื่นนั้น ไม่ใช่เรื่องยากอะไรสักเท่าไร อาจจะมีความเสี่ยงบ้างเล็กน้อย แต่ ก็ได้สนุกกับการที่คนให้ความเคารพเราในฐานะนักวิจารณ์ เพราะงานของนักวิจารณ์นั้นเหมือนได้มีอำนาจเหนือคนอื่น ได้ตัดสินคนอื่น

ยิ่งเราเขียนวิจารณ์ในเชิงลบมากขึ้นเรื่อยๆ มันก็ยิ่งสนุกทั้งคนเขียนและคนอ่าน แต่รู้ไว้เถอะว่ามันกลับกลายเป็นความขมขื่นของผู้ที่ถูกวิจารณ์ เพราะบางครั้งงานเขียนที่ไม่เข้าท่าของกลับกลายเป็นงานที่มีความหมายต่อจิตใจของคนที่ถูกวิจารณ์ และในโลกของความเป็นจริงนั้น คนที่มีโอกาสดีกว่า มีพรสวรรค์มากกว่า หรือ เป็นนักสร้างสรรค์ที่หาตัวจับได้ยากต่างก็ต้องการพื้นที่ของตนเอง หากแต่ต้องจำไว้อย่างว่า บรรดานักสร้างหน้าใหม่เหล่านี้ ต่างก็ต้องการเพื่อน”

อ่านแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้างคะ ความคิดของ แอนตัน อีโก้ ที่หลุดจากตัวตนที่สร้างขึ้นมาเอง และ กลับคืนสู่โลกแห่งความเป็นจริง ในฐานะนักชิมและนักวิจารณ์อาหาร ที่ทำงานในฐานะผู้บอกต่อ มิใช่เจ้าชีวิตของใครอีกต่อไป

แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ