เป็นเวลานานมาก ๆ แล้วที่คอลัมน์ชะนีติดซีรีส์ไม่มีซีรีส์แนวย้อนยุคเลย อันที่จริงต้องบอกว่าแทบไม่มีซีรีส์แนวย้อนยุคในคอลัมน์นี้เลยมากกว่า ซีรีส์แนวซากึก (ย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์) พีเรียดเรื่องเดียวที่เคยมีในคอลัมน์นี้ คือซีรีส์เรื่อง Mr. Queen ที่เคยเขียนเมื่อเกือบจะสองปีแล้ว แต่ความจริงแล้วเรื่องนั้นก็ไม่ใช่พีเรียดเต็มที่เสียทีเดียว เพราะมันเป็นอุบัติเหตุที่ทำให้คนในปัจจุบันมาฟื้นขึ้นในร่างของราชินีในสมัยโชซอนต่างหาก มีช่วงที่ตัดสลับไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบันด้วย ดังนั้น ซีรีส์ย้อนยุคเต็มที่ แบบที่ต้องการเล่าเรื่องราวในสมัยนั้น ๆ ไม่เคยมีในคอลัมน์นี้มาก่อน
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอกที่คอลัมน์นี้ไม่เน้นพีเรียด แต่จงใจข้ามซีรีส์ย้อนยุคไปเกือบหมด เพราะการจะหยิบจับประเด็นอะไรในซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวย้อนไปเป็นร้อย ๆ ปี มันอาจนำมาอิงตามบริบทในยุคปัจจุบันไม่ได้ อีกอย่างประวัติศาสตร์มันเป็นเรื่องที่มีคนบันทึกไว้ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วในช่วงนั้น เหตุการณ์มันจริงเท็จแค่ไหน ที่อ้างว่าเกิดขึ้นจริง คนในยุคเราต่างก็อ้างตามตำราที่ยกหลักฐานมาอ้างเหมือน ๆ กัน ไม่ได้เห็นกับตาหรือสัมผัสจากประสบการณ์ร่วม อาจจะมีใครสักคนที่แต่งเรื่องเก่งมาก ๆ ปรับแต่ขึ้นมาก็ได้ เลยไม่อยากจะวิพากษ์วิจารณ์เรื่องประวัติศาสตร์เท่าไรนัก คอลัมน์นี้ควรสงวนไว้สำหรับป็นพื้นที่เม้าท์มอยสนุก ๆ และชื่นชมผู้ชายงานดีในซีรีส์มากกว่า อย่าได้เครียดขนาดนั้นเลย

แต่แล้วทุกอย่างมันจำเป็นต้องมีจุดเริ่มต้น จากที่ไม่เคยดูซีรีส์ย้อนยุคเพื่อเขียนงานเลย แต่กับเรื่องนี้คืออดไม่ไหวจริง ๆ มันน่าดูมากทั้งเนื้อเรื่อง ที่ตอนแรกกะดูเพราะอ่านเรื่องย่อแล้วมันขายขำ แต่หลังจากที่ซีรีส์ออนแอร์แล้วเลยไปหาอ่านสปอยล์มา สรุปซีรีส์เกามันไม่ตรงปกอีกแล้ว มันไม่ได้ขายขำแบบเรื่องย่อ เพราะกลิ่นความประสาทแ_กแรงมาก นอกจากนี้ ไลน์อัปนักแสดงที่รวม “ตัวแม่” เอาไว้เยอะมาก แถมลูก ๆ ของตัวแม่ก็งานดีมากเช่นกัน ไม่เคยเห็นซีรีส์เรื่องไหนใช้ผู้ชายเปลือง มีนักแสดงชายเยอะขนาดนี้มาก่อน น่าจะราว ๆ 10 คนเห็นจะได้ แบบนี้จะไม่ดูได้ยังไงก่อน
Under The Queen’s Umbrella หรือชื่อไทยว่า “ใต้ร่มราชินี” เห็นไหมล่ะ แค่ชื่อเรื่องก็เรียกแขกไม่ไหวละ เป็นซีรีส์แนวย้อนยุคที่มีความตลกร้ายเป็นกิมมิก (แต่ตอนโปรโมตนี่เน้นขายขำเต็มที่เลย) เล่าถึงเรื่องราวความขัดแย้งของคู่กรณีจำนวนนับไม่ถ้วนในวังหลวงสมัยโชซอน กษัตริย์ที่มีเมียหลายคน และบรรดาเมียต่างก็มีลูกชายเพื่อที่จะหวังพึ่งพาให้ตนเองได้มีอำนาจต่อรอง จึงพยายามที่จะปลุกปั้นลูก ๆ ของตนเองให้ได้ขึ้นเป็นใหญ่เป็นโต ความหวังสูงสุดในเวลานี้ คือ ตำแหน่งองค์รัชทายาท ซึ่งก็คือผู้ที่จะมีสิทธิ์ในบัลลังก์คนต่อไป หากลูกชายของตนได้ขึ้นเป็นผู้ปกครองอาณาจักรจริง ๆ แล้วล่ะก็ ตนเองก็จะมีอำนาจในฐานะพระพันปีด้วย

สำหรับองค์ชายที่มีอยู่นับสิบคนนี้ คนที่กระหายอำนาจ ทะเยอทะยานอยากจะเป็นผู้ปกครองมันก็มี คนที่แค่อยากใช้ชีวิตของตัวเองแบบปกติสุขธรรมดา ๆ มันก็มี แถมผู้ที่รั้งตำแหน่งองค์รัชทายาทองค์ปัจจุบันก็ไม่ใช่คนที่จะกระชากลงมาได้ง่าย ๆ สมบูรณ์แบบเพียบพร้อมในการขึ้นเป็นกษัตริย์ทุกประการ เพราะฉะนั้นการจะปั้นเหล่าองค์ชายจอมพยศของตนเองให้เป็นองค์ชายผู้มีคุณสมบัติที่สมบูรณ์แบบเพียบพร้อมที่จะขึ้นเป็นองค์รัชทายาทนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะกับเหล่าน้องชายสายตรงทั้ง 4 ขององค์รัชทายาท ที่ปลาบปลื้มกับตำแหน่งที่พี่ชายยืนอยู่แล้ว เลยไม่สนใจที่จะไขว่คว้าความเป็นใหญ่อะไรอีก ขอใช้ชีวิตสนุก ๆ ของตัวเองก็พอ
แต่นับวันการแก่งแย่งแข่งขันนี้ก็ยิ่งหนักข้อและเหิมเกริมขึ้นเรื่อย ๆ องค์รัชทายาทที่สมบูรณ์พร้อมก็ดันมีปัญหาสุขภาพอย่างร้ายแรง ที่ถ้าสู่ขิตเมื่อไร วังหลวงได้ลุกเป็นไฟแน่ ๆ ใครจะขึ้นเป็นองค์รัชทายาท และปัญหาการเมืองต่าง ๆ จะตามมา หนักสุดคือถึงขั้นฆ่าแกงกัน พระมเหสีอิมฮวารยอง ซึ่งเป็นราชินีองค์ปัจจุบันจึงต้องวางแผนบีเพื่อรับมือกรณีที่ลูกชายคนโตของนางไม่อาจฝืนธรรมชาติของโรคได้ เกิดเป็นภารกิจของคนเป็นแม่ที่ต้องเปลี่ยนองค์ชายเจ้าปัญหาที่ก่อเรื่องชวนปวดเฮดทุกวี่วัน ให้กลายเป็นองค์รัชทายาทผู้เหมาะสมที่จะครองบัลลังก์ในอนาคตให้จงได้
ด้วยภารกิจนั้น ทำให้นางไม่สามารถที่จะรักษาความสำรวมให้เหมาะสมกับสถานะของตนเองเท่าไรนัก นางกลายเป็นคนใจร้อนและมีความอ่อนไหวทางอารมณ์ถึงขีดสุดอยู่เสมอ หลุดสบถ เผลอด่าคำหยาบอยู่บ่อยครั้ง เดินกรีดกรายช้า ๆ ประสานมือที่หน้าตักอย่างกุลสตรีไม่ได้หรอก แต่ต้องถกฮันบกวิ่งอยู่เสมอ ๆ เพื่อไปตามล่าเหล่าองค์ชายตัวปัญหา ทุกวันในชีวิตเต็มไปด้วยบททดสอบ ต้องเจอภัยรอบด้านจากบรรดาแม่ ๆ คนอื่นอีก น่ากลัวสุดก็อาจจะเป็น “แม่ผัว” หรือพระพันปีด้วยซ้ำ ที่ขนาดกับหลานของตนเองก็คงฆ่าได้ ถ้าทำให้บัลลังก์ลูกชายนางต้องแปดเปื้อน

องค์ราชินีจึงต้องอดทนยืนหยัดเพื่อลูก ๆ ของนาง ต้องยอมลดศักดิ์ศรีของตน ยอมเสียความสง่างาม จะโดนด่าตรง ๆ หรือโดนแซะจิกกัดนางก็ไม่สน เพื่อดิ้นรนสร้างองค์ชายอีก 4 คนของตนให้เป็นองค์ชายที่สมบูรณ์แบบ ในขณะที่ต้องทำหน้าที่ราชินีและปกป้องลูกชายคนโตจากความตาย ด้วยการสืบเรื่องราวคล้าย ๆ ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตไปด้วย นี่คือแผนการที่จะปกป้องตำแหน่งรัชทายาทไว้ ปกป้องบัลลังก์ ปกป้องตัวนางเอง และเหนืออื่นใด คือปกป้องเด็กน้อยทุกคนของนางให้ปลอดภัย
ข้าไปทุกที่ไม่ได้…ข้าไม่ได้มีสิบร่างสักหน่อย
เริ่มที่ด้านฮา ๆ ของซีรีส์กันก่อนแล้วกัน คือเปิดเรื่องมาแทนที่จะได้เห็นราชินีปฏิบัติหน้าที่ในฐานะแม่ของแผ่นดินอย่างสง่างาม ก็นะอุตส่าห์ได้แม่ “คิมฮเยซู” มารับบทนี้ ความสามารถและออร่าของเธอมันได้กับตำแหน่งนั้นมาก ๆ แต่กลายเป็นว่าต้องมาดูองค์ราชินีวิ่งสู้ฟัดซะอย่างนั้น ส่วนต้นเรื่องของปัญหาก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นเหล่าลูกชายตัวแสบของเธอนั่นเองที่สร้างเรื่องก่อกวนประสาทไม่เว้นวัน นางก็เลยจำเป็นที่จะต้องละทิ้งกฎความเป็นหญิงฐานันดรสูงในราชวงศ์ที่จะต้องสำรวมทั้งกายและใจ มาเป็นราชินีที่ต้องวิ่งเข้า ๆ ออก ๆ วังเพื่อไปลากลูกชายตัวดีกลับมา

ที่บอกว่าวิ่งสู้ฟัดนี่ไม่เกินจริง ๆ นะ เพราะนางถึงขั้นที่ต้องถกกระโปรงชุดฮันบกวิ่งจ้ำหน้าตั้งจริง ๆ เห็นแต่ละฉากแล้วก็แบบเอ็นดูคุณแม่เลย ขนาดนางมอบหมายให้ซังกุงรับใช้ทำหน้าที่แทนก็ไม่ได้เรื่อง ราชินีต้องวิ่งตามตัวลูก ๆ เองทั้งหมด แล้วนางก็มีลูกชายเยอะถึง 5 คนด้วยนะ แม้ว่าคนโตจะรั้งตำแหน่งองค์รัชทายาทให้พอเบาใจได้แล้ว แต่อีก 4 คนที่เหลือนี่สิโคตรจะแสบ ไม่สงสารเสด็จแม่ที่วิ่งวุ่นทั่ววังเลยล่ะ 555
“เดี๋ยวนะ ข้าไปทุกที่ไม่ได้ เลยมอบหมายให้พวกเจ้าไปช่วยจัดการแต่ละตำหนัก แค่นี้พวกเจ้ายังทำไม่ได้อีกหรือ ข้าไม่ได้มีสิบร่างสักหน่อย ไม่เคยมีวันที่สงบสุขเลย” ใช่แล้ว คุณแม่ที่ไม่ได้มีสิบร่างได้แต่บ่น แต่สุดท้ายก็ต้องวิ่งวุ่นไปทุกที่ที่คิดว่าลูกชายตัวเองจะอยู่ สมกับเป็นมนุษย์แม่ที่พลังความเป็นแม่มาเต็มมาก มันเห็นถึงความรักความทุ่มเทที่นางมีต่อลูก ความเคี่ยวเข็ญนี้ อันที่จริง ถ้าดูช่วงแรก ๆ อาจจะแอบตำหนินางว่าเลี้ยงลูกยังไงถึงไม่ค่อยจะเอาอ่าวแบบจนต้องมาถูลู่ถูกังลากไปเรียนทุกเช้าแบบนี้ แต่พอดูมาถึงช่วงกลาง ๆ อีพีที่ 2 จะค่อย ๆ จับต้นชนปลายได้ว่าทำไมองค์ชายอีก 4 คนที่เหลือถึงทำตัวไม่ค่อยรักดีเท่าไร ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เก่ง แต่ไม่ตั้งใจจะทำให้มันดีมากกว่า

เป็นเพราะเหล่าองค์ชายทั้ง 5 รักพี่น้องของตัวเองมากแหละ ซึ่งเห็นว่าเวลานี้พี่ใหญ่ก็อยู่ในจุดที่เพียบพร้อมทุกอย่างแล้ว ทั้ง 4 เลยทำตัวแบบเกรงใจพี่ชาย ไม่ทำตัวให้เก่งกล้าสามารถเสมอพี่ แล้วเลือกที่จะทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่ได้ทะเยอะทะยาน ไม่ได้มักใหญ่ใฝ่สูง ก็บัลลังก์มีคนที่สมบูรณ์แบบดูแลอยู่แล้ว มันก็เลยไม่ใช่หน้าที่ของพวกเขาที่จะต้องมาทำตัวซีเรียสอะไรอีก แต่ด้วยไม่รู้สถานการณ์ขององค์ชายตำหนักอื่นที่กำลังพยายามอย่างหนักที่จะกระชากพี่ชายของพวกเขาลงจากตำแหน่งรัชทายาท นี่ก็เลยเชื่อว่าช่วงหลัง ๆ หากเหล่าองค์ชายทั้ง 4 ที่รู้แล้วว่าทำไมแม่ต้องเคี่ยวเข็ญพวกเขาขนาดนี้ คงจะพยายามปกป้องแม่ ปกป้องพี่ชาย และปกป้องบัลลังก์ให้มากขึ้นเองแหละ
หากเจ้าไม่มีความมั่นใจพอที่จะวิจารณ์ต่อหน้าก็ไม่ควรวิจารณ์ลับหลัง
ซีรีส์ที่ขาดตัวร้ายน่ะมันไม่สนุกหรอกบอกเลย แต่ก็ไม่คิดว่าตัวร้ายจะร้ายกันเบอร์นี้เหมือนกัน ตอนที่ซีรีส์เรื่องนี้ยังไม่ออนแอร์ แล้วต้องมาตัดสินใจว่าน่าตามหรือไม่น่าตามจากการอ่านเรื่องย่อเอานั้น พูดตรง ๆ ว่าไม่คิดว่ามันจะเดือดขนาดนี้ เข้าใจนะว่าซีรีส์ซากึกอิงประวัติศาสตร์มันต้องมีศึกชิงบัลลังก์อยู่แล้ว แต่ดันแอบเข้าใจว่ามันคงเป็นซีรีส์ขายขำที่มาแนวเดิม ๆ แบบที่เหล่าผู้หญิงในวังจับคู่กันแลกหมัดเพื่อแย่งชิงตำแหน่งความเป็นใหญ่เหมือนเรื่องอื่น ๆ มากกว่า เช่น คู่ของราชินีกับเหล่าสนมที่มีอยู่เรือนสิบ คู่แม่ผัวลูกสะใภ้อย่างพระพันปีกับราชินี หรือเมียตำแหน่งอื่นของกษัตริย์องค์ก่อนที่จิกกัดราชินีปัจจุบัน ปรากฏว่าไม่ใช่เลยจ้า มันล้ำไปกว่านั้นอีก จนตอนนี้ข้ามไม่ได้แล้วเรื่องนี้

ตอนนี้ก็เลยเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมเรื่องนี้ถึงต้องใช้นักแสดงเด็กหนุ่มที่เป็นรุ่นลูกมากขนาดนี้ เพราะมันกลายเป็นว่าผู้หญิงในวังไม่ได้มาจิกกัดกันเพื่อแสวงหาอำนาจให้ตัวเองเป็นหลัก แต่มันเป็นการทำเพื่อลูกชายของตัวเอง “แม่ที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อลูก” อย่างราชินีที่มีโอรสอยู่ถึง 5 คน แน่นอนว่าตำแหน่งองค์รัชทายาทต้องเป็นของลูกคนโตที่คุณสมบัติคู่ควรอยู่แล้ว ถ้าสิ้นลูกชายคนโต ตามสายตรงก็ต้องเป็นลูกชายในระดับถัด ๆ มา แต่จะทำยังไงล่ะ เพราะเหล่าสนมในวังก็อยากให้บรรดาพระโอรสของตัวเองได้ดิบได้ดีบ้างเหมือนกัน แล้วเป้าหมายสูงสุดจะเป็นอะไรได้ล่ะถ้าไม่ใช่บัลลังก์กษัตริย์ ยิ่งเหตุการณ์ในอดีตมันเคยเป็นแบบนี้มาแล้ว ราชินีอยู่เฉยไม่ได้หรอก
สนมที่น่ากลัวสุดก็คงเป็นสนมที่เคยเป็นตัวเต็งอันดับหนึ่งสมัยเลือกพระมเหสี นางเป็นคนที่งามทั้งกายใจอากัปกิริยา มีคุณสมบัติคู่ควรที่จะนั่งตำแหน่งราชินีทุกประการ แต่กลับโดนปาดหน้าเค้กเพราะการเลือกคนมานั่งตำแหน่งราชินีมันไม่ใช่แค่ความรัก แต่มีเหตุผลเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งบารมีนางไม่มากพอที่จะอยู่ในตำแหน่งนั้น ก็เลยชวดตำแหน่งมเหสี ที่จะขึ้นเป็นราชินีของอาณาจักรไปอย่างน่าเสียดาย ทีนี้พอมีลูก เหมือนนางจะส่งต่อความคับแค้นใจนี้ให้ลูกนางด้วย บวกกับความทะเยอทะยานของเด็กเองที่เข้าใจว่าตัวเองคู่ควรกับตำแหน่งรัชทายาทมากกว่า

นี่ก็เลยชอบตอนที่นางสอนลูกชายที่ไปสร้างเรื่องโดยการนินทาพระราชินีต่อหน้าโอรสของเธอจนโดนอัดหน้ากลับมา ว่าให้รู้จักอับอายเสียบ้าง ถ้าไม่กล้าพอที่จะวิจารณ์ต่อหน้า ก็ไม่ควรที่จะวิจารณ์ลับหลัง มันยิ่งทำให้รู้เลยว่านางไม่ได้ปล่อยวางจากเรื่องในอดีต และในฐานะที่เป็นแม่นางก็ย่อมอยากให้ลูกได้ดี ประเด็นคือนางไม่ได้สอนลูกว่าไม่ควรจะนินทาหรือวิจารณ์คนอื่นหากไม่ได้รู้เรื่องอะไร แต่กลายเป็นว่านางยิ่งสุมไฟแค้นและความทะเยอทะยานใส่อกลูกตัวเอง ว่าถ้าอยากจะวิจารณ์ก็ต้องทำตัวให้มีคุณสมบัติเหนือกว่าคนที่จะวิจารณ์ก่อน ถ้าอยู่เหนือคนอื่นแล้วถึงจะทำอะไรก็ได้
เพราะฉะนั้นก็ไม่แปลกที่ลูกชายของนางจะตีสองหน้าเก่งเหมือนกับนาง ต่อหน้าคนอื่น ๆ เขาคือชายหนุ่มผู้ภูมิฐานไม่ต่างจากองค์รัชทายาท แต่กระเด็นจากตำแหน่งนั้นเพราะแม่ไม่ใช่มเหสี ก็เลยดูน่าสงสารเข้าไปด้วย แต่จริง ๆ คือซ่อนความร้ายกาจเอาไว้ ปฏิบัติต่อคนที่ต่ำต้อยกว่าราวกับไม่ใช่มนุษย์ หยิ่งยโสโอหัง ใจดำอำมหิต เจ้าคิดเจ้าแค้น อาฆาตมาดร้ายเก่ง แล้วคนแบบนี้น่ะเหรอที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์ผู้ปกครองได้ สงสารประชาชนโชซอนเลยว่าปะ?
ก่อนที่พวกเจ้าจะออกจากวังหลวงไป ก็ตั้งใจทำตัวเป็นลูกกตัญญูให้แม่หน่อย
เป็นที่ชัดเจนแหละว่าเหล่าองค์ชายทั้ง 4 โอรสของราชินีนั้นไม่ได้มีความโลภหรือทะเยอทะยานอยากจะแย่งชิงบัลลังก์พ่อหรือพี่ชายตัวเอง พวกเขาคิดว่าพี่ชายที่อยู่ในตำแหน่งองค์รัชทายาทเวลานี้ ก็สมบูรณ์แบบและเพียบพร้อมอยู่แล้ว มันเลยไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องกังวล ความใฝ่ฝันสูงสุดของเหล่าองค์ชายจึงมีแค่อยากให้แม่รีบเสกสมรสให้ ตัวเองจะได้ออกจากวังหลวงไปใช้ชีวิตแบบที่ตัวเองต้องการเสียที แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้แม่ต้องรับมือกับศึกรอบด้านขนาดไหน

คนเป็นแม่ก็หมดหนทางที่จะเกลี้ยกล่อมลูกตัวเองแบบเอาน้ำเย็นเข้าลูบแล้วเหมือนกัน ด้วยความที่เลี้ยงแบบไม่ได้เข้มงวดอะไรมาตั้งแต่แรก ด้วยคิดว่ามีลูกชายคนโตเป็นเกราะกำบังให้ตนเองได้ใช้ชีวิตในวังหลวงอย่างปลอดภัย แต่แล้วเรื่องทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจ เพราะองค์รัชทายาทดันมาป่วยด้วยโรคหายาก อารมณ์แบบว่าพร้อมจะสู่ขิตได้ทุกเมื่อ ขนาดหมดสติทียังหลับข้ามวันข้ามคืนขนาดนั้น ราชินีจึงต้องมีแผนสำรองเพื่อรับมือหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นจริง ๆ ตัวนางบอกความจริงกับลูก ๆ ไม่ได้ จึงต้องยกเรื่องความกตัญญูมาอ้างและยื่นข้อเสนอให้เด็ก ๆ เพื่อที่พวกเขาจะได้ยอมเชื่อฟังและทำตามที่สั่ง
“คิมฮเยซู” เป็นแคสที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ กับบทบาท “แม่-ราชินี” ทุกการแสดงออกของเธอมันทำให้เชื่อได้เลยว่าแม่ก็คือแม่จริง ๆ ที่ผ่านมาที่นางไม่ได้เข้มงวดอะไรกับลูก ๆ เพราะบัลลังก์มีองค์รัชทายาทอยู่แล้ว เด็กคนอื่น ๆ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องถูกกวดขันเรื่องวิชาการหรือวิชาสู้รบอะไรมากมาย เรียนแค่พอเป็นพื้นฐานก็พอ จริง ๆ มันก็มีอยู๋นะที่พี่น้องท้องเดียวกันฆ่ากันเองเพื่อแย่งบัลลังก์ นางคงไม่อยากให้ลูก ๆ 4 คนที่เหลือเก่งกล้าสามารถขนาดนั้นเพื่อไปล้มพี่ชายตัวเองในภายภาคหน้าก็ได้ คนมีความรู้ความสามารถอาจจะก่อกบฏขึ้นมาเมื่อไรก็ได้ แบบนั้นเป็นภัยต่อองค์รัชทายาท

เวลานี้ นางเลยได้แต่อ้างว่าที่ต้องกลับมาเคี่ยวเข็ญเด็ก ๆ ให้สนใจเรื่องเรียน เพื่อที่ตัวนางจะได้เป็นผู้ชนะ คนเป็นราชินีจะแพ้ให้พวกสนมเพราะลูก ๆ ได้ไง เด็ก ๆ จึงต้องให้ความร่วมมือในการกู้หน้าแม่ ทั้งที่ความจริงนางทำไปก็เพื่อปกป้องพวกเขาทั้งนั้น บทเรียนจากมเหสีองค์ก่อนที่สอนนางว่าเรื่องร้าย ๆ จะเกิดขึ้นไม่จบสิ้น หากเกิดเหตุการณ์ที่สูญเสียองค์รัชทายาทไปจริง ๆ ไม่ใช่แค่เสียตำแหน่งรัชทายาทให้กับเหล่าองค์ชายของสนมที่เพียบพร้อมกว่าลูกชายของตัวเอง ไม่ใช่แค่เสียตำแหน่งราชินี ที่อาจถูกปลดเพราะลูก ๆ ไม่ได้ขึ้นเป็นใหญ่ ไม่ใช่ว่านางอยากให้ลูกเป็นใหญ่ขนาดนั้น แต่มันหมายถึงชีวิตด้วย ทุกคนที่น่าจะเป็นภัยอาจถูกเก็บหมด นั่นคือการรักษาอำนาจและบังลังก์
“การตัดสินใจของคนเป็นแม่ที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อปกป้องชีวิตลูก” เป็นพล็อตที่มาไกลจากเรื่องย่อที่โปรโมตแบบเน้นขายขำมากพอสมควรเลยนะ จริง ๆ มันก็น่าขนลุกตั้งแต่การตั้งชื่อเรื่องแล้วแหละ ถ้าตอนนั้นจะคิดกันให้มาก ๆ เข้าหน่อย “ใต้ร่มราชินี” ราชินีที่ต้องถือร่มและกางร่มเพื่อไม่ให้ทุกคนที่อยู่ใต้ร่มต้องโดนแดดและเปียกฝน ต่อให้ตัวเองต้องอยู่นอกร่ม ต้องถูกชี้นิ้วด่าว่าใจแคบ เหลี่ยมจัด หรือต่ำช้าแค่ไหน คนเป็นแม่ก็ยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อปกป้องลูก ๆ ของตนเองให้พ้นภัย ลูกทุกคนจะต้องปลอดภัยหากอยู่ใต้ร่มที่แม่กางให้ ☔