ไฟต์หยุดโลก “ฟลอยด์-คอเนอร์” วัดพลังมวยต่างสายพันธุ์

เพียงแค่วันแถลงข่าวก็เรตติ้งกระฉูดแล้วสำหรับคู่มวย ระหว่าง ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ยอดนักชกไร้พ่ายชาวอเมริกัน กับ คอเนอร์ แม็คเกรเกอร์ ซูเปอร์สตาร์ชาวชาวไอริชจากเวทีลูกกรง 8 เหลี่ยม หรือ UFC ที่ว่ากันว่านี่คือไฟต์หยุดโลกแห่งยุค 2017 อะไรทำให้มวยคู่นี้เรตติ้งพุ่งปรี๊ดขนาดนี้ Tonkit360 มีคำตอบมาฝากกัน

ฟลอยด์-แม็คเกรเกอร์ พร้อมดวลกำปั้น 26 ส.ค.นี้ (ภาพจาก forbes.com)

มวยสากลอาชีพ vs มวยในกรง
ใครจะไปคิดว่าจุดเริ่มเพียงแค่การทำสงครามน้ำลายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของ 2 นักชกต่างสายพันธุ์ จะกลายเป็นไฟต์หยุดโลกที่กำลังจะเกิดขึ้นจริงในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ ที่สำคัญนี่ถือเป็นครั้งแรกที่แฟนมวยจะได้เห็นการสู่กันของ กำปั้นไร้พ่ายชาวอเมริกัน รีเทิร์นจากการแขวนนวม ตะบันหน้ากับ นักสู้ศิลปะป้องกันตัวแบบผสมผสานจากค่าย UFC (Ultimate Fighting Championship) ภายใต้กติกาแบบมวยสากลอาชีพ บนเวทีรูปสีเหลี่ยมผืนผ้า สวมนวมขนาด 10 ออนซ์ ที่าคัญห้ามฟันศอก , แทงเข่า หรือจับล็อกเป็นอันขาด

พิกัดน้ำหนัก 154 ปอนด์
พิกัดที่ทั้งคู่จะชกกันในเดือนสิงหาคมนี้ กำหนดเอาไว้ที่รุ่นไลท์ มิดเดิลเวท 154 ปอนด์ หรือราว 70 กิโลกรัม ซึ่งเป็นน้ำหนักที่ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ขึ้นยกครั้งล่าสุดในปี 2015 ฉะนั้น “เดอะ มันนี่” จะต้องทำน้ำหนักลงมาพอสมควร ส่วนแม็คเกรเกอร์ พิกัดส่วนใหญ่ทีชกอยู่ใน UFC จะอยู่ที่ 155 ปอนด์ ซึ่งจะทำให้ไม่ต้องลดน้ำหนักลงมามากนัก และน่าจะเป็นจุดเด่นของนักชกไอริชเหนือฟลอยด์ในประเด็นนี้

มวยเกมรับ ปะทะ มวยเกมบุก

ตลอดระยะเวลาการทำสถิติไรพ่าย 49 ไฟต์ ของ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ เขาสร้างชื่อจากสไตล์การชกที่เน้นการป้องกันเป็นหลัก โดยเฉพาะความว่องไวในการหลบหมัดคู่ต่อสู้และหาจังหวะดักชกทำคะแนน มีเพียงนักชกไม่กี่คน อาทิ เชน มอสลีย์ และ มาร์กอส ไมดาน่า ที่โจมตีฟลอยด์แบบถึงเนื้อถึงตัวได้ ซึ่งการมาเจอกับมวยในสไตล์บู๊แหลกแบบแม็คเกรเกอร์ น่าสนใจว่ากำปั้นจากไอร์แลนด์จะทำได้สมคำคุยโวที่จะน็อกฟลอยด์ในการชกยกที่ 4 ได้หรือไม่

ไฟต์แห่งการทำเงิน
ตามรายงานระบุว่าทั้งฟลอดย์และแม็คเกรเกอร์ จะทำรายได้มหาศาลจากการขึ้นชกในครั้งนี้ โดยฟลอยด์ จะได้รับส่วนแบ่งสูงถึง 150 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 5,100 ล้านบาท ขณะที่แม็คเกรเกอร์จะได้รับเงินไม่น้อยหน้า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 4,300 ล้านบาท ขณะเดียวกันมูลค่ารวมในไฟต์นี้จะเทียบเท่าไฟต์หยุดโลกในปี 2015 ระหว่างฟลอยด์ กับ แมนนี่ ปาเกียว ที่มูลค่า 600 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 20,400 ล้านบาทเลยทีเดียว

“นวม” อาจเป็นตัวแปร!
บางทีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอย่างเรื่องของ “นวม” อาจกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการชี้ชะตาผู้ชนะในไฟต์นี้ เพราะอย่าลืมว่า น้ำหนักของนวมในการชก UFC ของแม็คเกรเกอร์ในช่วงที่ผ่านมา กำหนดเอาไว้ให้น้ำหนักของนวมไม่เกิน 6 ออนซ์ ส่วนในมวยสากลอาชีพไฟต์ระหว่างฟลอยด์-ปาเกียว ในปี 2015 ในตอนนั้นทั้งคู่ใช้นวมขนาด 8 ออนซ์ขึ้นเวลา ทว่าครั้งนี้ การที่กติกากำหนดน้ำหนักนวมไว้ที่ 10 ออนซ์ ทำให้เกจิวงการมวยโลกกังวลกันว่า พลังหมัดอันหนักหน่วงของแม็คเกรเกอร์อาจถูกบั่นทอนจากขนาดและน้ำหนักของนวมในครั้งนี้ แม้กระทั้งบริษัทรับพนันแบบถูกกฎหมายในลาส เวกัส ก็ยังยกให้ ฟลอย์ด มีภาษีดีกว่าในไฟต์มวยต่างสายพันธุ์ครั้งนี้

ข้อมูล
foxsports.com
torontosun.com

ภาพจาก
forbes.com