Born to be แหวน-ฐิติมา

ภาพจาก FB : แหวน ฐิติมา สุตสุนทร

2505: 4 กันยายน 2505 เด็กหญิงฐิติมา สุตสุนทร บุตรคนที่ 2 ของพันโทนายแพทย์ สมภพและนางสุภาภรณ์ สุตสุนทร ลืมตาดูโลกที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

2510: ครอบครัว สุตสุนทร ย้ายมาอยู่กรุงเทพมหานคร และ เด็กหญิงฐิติมาได้รับการศึกษาในระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนราชินี และจบระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนสตรีวิทยา

2522 : แหวน – ฐิติมา สุตสุนทร สอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้สำเร็จ ครั้งนั้นมีเรื่องเล่าจากความทรงจำของ ดร.สุรพล วิรุฬหรักษ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งคณบดีในขณะนั้นว่า “ได้สัมภาษณ์นิสิตหญิงใหม่ที่เพิ่งสอบเข้ามาได้ว่า ‘จบแล้วจะไปทำอะไร” เธอตอบสวนทันทีว่า “จะเป็นดาราค่ะ” นิสิตใหม่คนนั้นคือ แหวน- ฐิติมา สุตสุนทร

2522-2524 : แหวน ฐิติมา สุตสุนทร ฉายแววความโดดเด่นทั้งภายในและนอกคณะ เป็นนักแสดงละครเวทีของมหาวิทยาลัย เป็นนักร้องในวงลูกทุ่งนิเทศศาสตร์ เป็นดรัมเมเยอร์ของมหาวิทยาลัยในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์

2524 : แหวน ฐิติมา ได้เข้าประกวดร้องเพลงมณเฑียรทอง แล้วได้รับรางวัลชนะเลิศ จึงได้ร้องเพลงประจำอยู่ที่โรงแรมมณเฑียร ให้กับวงโอเรียลเต็ลฟังค์ ของเต๋อ เรวัต พุทธินันทน์ นอกจากนี้ยังได้ร่วมร้องให้กับวงอื่นๆที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น

2526 : ได้ย้ายมาร้องประจำที่เบียร์สิงห์เฮ้าส์ และได้เข้าเป็นนางเอกละครโทรทัศน์กับค่ายกันตนา กับละครเรื่อง “สวนทางเถื่อน” และ “พยัคฆ์น้อย” เมื่อเธอกำลังจะจบการศึกษา พรีเมียร์มาร์เก็ตติ้งหรือแกรมมี่ในเวลาต่อมา ได้ทาบทามแหวนให้ออกผลงานกับทางบริษัท หลังรับปริญญาแหวนมาร้องประจำอีกแห่งที่โรงแรมบางกอกพาเลซ เต๋อติดต่อให้เธอมาบันทึกเสียงเพลง “จากวันนั้นถึงวันนี้” ประกอบภาพยนตร์เรื่อง “วัยระเริง”

2527 : แหวน “ฐิติมา สุตสุนทร” เริ่มเข้าสู่วงการเพลงจากการร้องเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องวัยระเริงจากนั้นเต๋อ เรวัต พุทธินันทน์ ให้มาเซ็นสัญญาเป็นนักร้องในสังกัด แกรมมี่ และเป็นนักร้อง ลำดับที่ 4 ของแกรมมี่ โดยคนแรกคือ แพทย์หญิงพันทิวา คนที่สอง คือ เต๋อ เรวัต คนที่สาม คือ ตู่ นันทิดา และแหวน ฐิติมา คือลำดับที่สี่

2527 : งานเพลงชุดแรกของแหวน ฐิติมา มีขึ้นในปี 2527 ชุด ฉันเป็นฉันเอง มีเพลงฮิต เช่น ไดอารี่สีแดง ผู้หญิงคนนี้ เชิ้ตแขนยาวไทสีเทา และงานชุด แหวน ฉันเป็นฉันเอง ประสบความสำเร็จด้านยอดขายอย่างมาก

2529 : อัลบั้มที่ทำให้แหวน ฐิติมา รู้จักไปทั่วไปเทศคือ “เรามีเรา” ในปี 2529 และเพลง “เรามีเรา” กลายเป็นเพลงอมตะที่เมื่อคนพูดชื่อแหวน ฐิติมา ต้องนึกถึงเพลงนี้ควบคู่กันไป

2530 : หลังความสำเร็จจาก “เรามีเรา” ทำให้ภาพลักษณ์ของแหวน ฐิติมา ในช่วงเวลานี้จะเป็นนักร้องที่ร้องเพลงในแนว Easy Listening อัลบั้มชุด “คนที่รู้ใจ” ก็ยังถือว่าเดินตามรอยของ “เรามีเรา”

2531 : ภาพลักษณ์ของแหวน ฐิติมา มาถูกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ในปี 2531 กับอัลบั้ม “สัญญิงสัญญา” และทำให้เธอถูกนักวิจารณ์ยกย่องให้เป็นร็อกเกอร์ หญิงของเมืองไทยและนับเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่งของ แหวน ฐิติมา ด้วยยอดขายเกือบหนึ่งล้านตลับ ขณะที่เพลงฮิตในอัลบั้มนี้กลับเป็นเพลงช้าอย่าง “ฟ้ายังมีฝน” ที่ยังคงมีนักร้องในปัจจุบันนำกลับมาร้องใหม่อย่างสม่ำเสมอ

2532 : หลังมีภาพลักษณ์เป็นร็อกเกอร์ สาวทำให้อัลบั้มต่อจาก “สัญญิงสัญญา” เนื้อหาและเสียงร้องของแหวน มีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ อัลบั้มแหวน … (จุด จุด จุด) ที่มียอดจำหน่ายสูงเกินกว่า 700,000 ตลับ มีเพลงที่คนในยุค 80 รู้จักกันดีอย่าง “อาจจะเป็นคนนี้”, “ดีกว่าเสียใจ, หรือ “ลืมได้เลย”

2534 : อัลบั้มสุดท้ายของ แหวน ฐิติมา กับแกรมมี่ ก่อนโบกมืออำลากันคือ อัลบั้มหัวแม่โป้ง มียอดจำหน่ายเกินครึ่งล้านตลับ และยังคงมีเพลงที่แสดงความเป็นร็อกเกอร์ของเธออย่าง “ใครจะเป็นรายต่อไป” แม้จะมีทำนองจากเพลงต่างประเทศแต่เสียงของ แหวน ฐิติมา ก็ยังคงเป็นมีเสน่ห์อยู่เสมอ ขณะที่เพลงฮิตติดหูของอัลบั้มนี้กลับกลายเป็นเพลงจังหวะสนุกอย่าง “เจ็บกระดองใจ”

2537 : หลังย้ายมาอยู่กับสังกัดใหม่ กับค่ายวอร์เนอร์เธอออกอัลบั้มใหม่ชื่อว่า “จู่โจม” ได้รับการวิจารณ์ในเชิงบวก แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จด้านยอดขายนักแต่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่แหวน ได้แสดงความเป็นตัวเองออกมาอย่างชัดเจน สำหรับอัลบั้มนี้ดูแลการผลิตโดย จิรพรรณ อังศวานนท์

2541 : หลังจากสมรสกับ บรรเจิด กฤษณยุธ หรือ ปุ๊ กรุงเกษม แหวนกลับมาอยู่กับแกรมมี่ อีกครั้ง และมีผลงานอย่าง แหวน On The Rock ไปจนถึง แหวน 1999 จากนั้นจะเป็นอัลบั้มรวมเพลงฮิต และ เพลงประกอบละครที่ยังพอทำให้แฟนเพลงได้หายคิดถึงเสียงของเธอบ้าง

2553 : ชื่อของ แหวน ฐิติมา สุตสุนทร ได้รับความสนใจจากสื่ออีกครั้ง เมื่อลูกสาวคนเดียว เต็มฟ้า กฤษณายุธ กลายเป็นแชมป์ราชินียิมนาสติกและนักกีฬาดีเด่น จากการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ และหลังจากนั้น เต็มฟ้า ก็ได้เข้าร่วมการแข่งขันในนามทีมชาติไทย รวมไปถึงได้ชิมลางในวงการบันเทิง ก่อนที่จะหันไปให้ความสำคัญกับการเรียนเป็นหลัก ซึ่งเต็มฟ้า นับเป็นความภาคภูมิใจของ แหวน ฐิติมา และ สามีเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะผลการเรียนที่จบเกียรตินิยมจาก ปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หลักสูตรนานาชาติ (EBA Program) (เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง)

2560 : หลังจากเคยตรวจพบเชื้อมะเร็งที่เต้านมและรักษาจนอาการดีขึ้น ได้มีการตรวจพบเชื้ออีกครั้ง และครั้งนี้เชื้อมะเร็งได้ลามไปถึงกระดูก แหวน ฐิติมา สุตสุนทร เสียชีวิตอย่างสงบที่โรงพยาบาล ศิริราช ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2560 ด้วยวัย 54 ปี