ข้อควรระวัง หากคิดจะหารายได้จากการลงทุนคริปโตฯ

ณ เวลานี้ ตลาดสกุลเงินดิจิทัลและเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ใคร ๆ ก็เริ่มพูดถึงการลงทุนในเหรียญคริปโตฯ และหันมาให้ความสนใจกับการศึกษาการลงทุนในเหรียญคริปโตฯ กันเป็นวงกว้าง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเห็นนักลงทุนที่อยู่ในวงการอยู่เดิมได้รับผลกำไรที่สูงมาก อีกทั้งยังสามารถทำเงินได้แบบ Passive Income แค่ลงทุนและได้รับผลตอบแทน

การบอกต่อในลักษณะนี้ทำให้การลงทุนในวงการคริปโตฯ ดูง่าย ซึ่งหลาย ๆ ก็คนมองเห็นตลาดคริปโตฯ เป็นแบบนั้นจริง ๆ ในเวลานี้ โดยเฉพาะคนที่เพิ่งรู้จักคริปโตฯ ใหม่ ๆ และสนใจจะหารายได้จากวงการนี้

แต่…การลงทุนในคริปโตฯ เพื่อหวังจะหารายได้เป็นกอบเป็นกำ ไม่ใช่สิ่งที่คิดจะทำแล้วกระโดดเข้าไปในวงการได้เลย ในขณะที่ยังมีความรู้ไม่มากพอ อย่างที่ใคร ๆ ก็เตือนว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง” ฉะนั้น จะมองแค่ว่ามันเป็นหนทางในการเก็งกำไรเพียงอย่างเดียวไม่ได้ มันมีปัจจัยอื่นที่มีผลต่อความเสี่ยง ซึ่งการหาเงินด้วยวิธีการที่มีความเสี่ยงสูง ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก และที่สำคัญอาชญากรรม เกิดขึ้นได้กับทุกวงการ หากเราเชื่อคนง่ายและขาดการไตร่ตรอง รวมถึงหลายครั้งก็อาจเกิดจากความผิดพลาดหรือความไม่ชำนาญของตัวเราเอง

คนที่อยู่ในวงการจนเจนจัดในการลงทุน พวกเขารู้ดีอยู่แล้วว่าต้องระวังอะไร แต่สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่กำลังคิดที่จะก้าวเข้าสู่วงการนี้ มีข้อควรระวังเล็กน้อยที่ต้องตระหนักให้มากและย้ำให้ฟังอีกสักที

1. การลงทุนมีความเสี่ยง ควรศึกษาเรื่องการลงทุนให้มากก่อนตัดสินใจ

“การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน” เป็นคำเตือนที่เรามักจะได้ยินอยู่เสมอในโลกของการลงทุน เพื่อย้ำว่าจะลงทุน ก็ต้องศึกษาถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นและต้องยอมรับให้ได้ แต่เวลานี้ การลงทุนคริปโตฯ มันกลายเป็นเทรนด์การหาเงินรูปแบบใหม่ไปแล้ว หลายคนก็เข้าใจว่าแบบนี้จริง ๆ เห็นว่ารวยเร็ว แถมการพูดถึงในวงกว้างก็ทำให้มันดูไม่ได้เล่นยากอย่างที่คิด ก็เลยกระโดดเข้าวงการมาโดยที่ยังไม่ได้ศึกษาให้รอบคอบ เข้ามาแบบงู ๆ ปลา ๆ รอปรึกษาคนอื่น บอกเลยว่ายิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้กับตัวเอง

หมายความว่าถ้าเจอคนดีก็โชคดีไป แต่ถ้าเจอคนไม่ดีล่ะ? การหวังปรึกษาคนอื่นก็อาจถูกหลอกด้วย อะไรก็ตามที่เป็นเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ มือใหม่อย่าเพิ่งใจร้อน และอย่าเพิ่งรีบอยากจะทำกำไรเร็ว ๆ เพราะมันอาจได้ไม่คุ้มเสีย นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลการลงทุนให้เข้าใจอย่างถี่ถ้วนก่อน พยายามโฟกัสที่ภาพใหญ่ของตลาด เพราะมันมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาด ทำให้ตลาดผันผวนสูง จำไว้ว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยงอยู่เสมอ หากไม่เคยลงทุนในหลักทรัพย์มาก่อน ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ

2. เป็นตลาดที่มีความผันผวนสูง

ใครที่อยู่ในวงการนี้มานาน จะรู้ดีว่าตลาดคริปโตฯ มีความผันผวนสูงมากแค่ไหน อีกอย่างมันก็มีข่าวด้านบวกและด้านลบสลับสับเปลี่ยนไปทุกวัน ซึ่งมีผลในเรื่องของราคาและความเชื่อมั่นในการลงทุน ทำให้มีโอกาสผันผวนได้ตลอดเวลา ถ้าสามารถขึ้นได้สุด ก็สามารถลงได้สุดเช่นกัน การที่ตลาดเปิด 24 ชั่วโมง แถมไม่มีเพดานราคา ไม่ได้มีการห้ามซื้อขายเหรียญบางเหรียญในบางเวลา และยังเปิดซื้อขายกับนักลงทุนทั่วโลก จึงควรลงทุนในสัดส่วนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพราะมีโอกาสที่จะสูญเสียเงินลงทุนทั้งก้อน

3. ต้องทันเหตุการณ์

คิดจะเป็นนักลงทุนในตลาดคริปโตฯ ต้องเป็นคนที่หมั่นเสพข่าวให้ทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ ถึงจะมีแต้มต่อในการมองเกมได้ขาด จะเห็นว่ามีบางเหตุการณ์หรือความเคลื่อนไหวของคนดังที่เป็นผู้ทรงอิทธิพลในวงการหลายคนที่มีผลต่อความไม่แน่นอนของตลาด ข่าวสารหรือการคาดการณ์เรื่องต่าง ๆ ในวงการนี้ สามารถสร้างความสับสน และความไม่แน่นอน และจะไปอย่างรวดเร็วมากในโซเชียลมีเดีย คนดังเหล่านี้สามารถแกว่งมูลค่าของเหรียญขึ้น ๆ ลง ๆ ได้อย่างชัดเจน หากเกิดความไม่เชื่อมั่น ความสับสนและความกลัวของนักลงทุน

4. อย่าโลภ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณา โอกาสถูกโกงสูง

เมื่อเราสามารถทำกำไรกับมันได้ครั้งหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะอยากได้มากขึ้นเรื่อย ๆ บางคนโลภจนขาดสติ ลงทุนก้อนใหญ่เพราะหวังผลกำไร แต่ในครั้งต่อไปมันอาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้ เพราะมันมีปัจจัยหลายอย่างที่กำหนดความผันผวนของตลาด ที่สำคัญ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาของใครง่าย ๆ เพราะในช่วงเวลานี้การเทรดคริปโตฯ กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก เรียกคนอยากรวยหน้าใหม่เข้ามาในวงการ ก็เรียกความสนใจจากพวกอาชญากรได้เช่นกัน การฉ้อโกงสามารถเกิดขึ้นได้ทุกวงการ อาจตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพที่ชักชวนให้ลงทุนเงินดิจิทัล จนสูญเสียเงินหลักแสนหลักล้าน โดยเฉพาะการเชิญชวนในลักษณะของการระดมทุน แลกกับได้ผลตอบแทนสูง มุกเดียวกับแชร์ลูกโซ่

5. ธนาคารกลางส่วนใหญ่ยังไม่รับรอง และไม่สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายไทย

ธนาคารแห่งประเทศไทยยังไม่รับรองการทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินคริปโตฯ พูดง่าย ๆ ก็คือ ยังไม่มีสถานะทางกฎหมาย ที่สามารถนำมาชำระหนี้ได้อย่างถูกกฎหมาย คริปโตฯ ก็เลยอยู่ในสถานะที่ไม่ใช่เงินตามกฎหมายไทย ยังสามารถใช้เป็นสื่อกลางในการชำระเงินและไม่ถูกใช้เป็นหน่วยกำหนดราคาสิ่งของ อย่างไรก็ดี การที่ภาคเอกชนไทยรับชำระและซื้อของด้วยคริปโตฯ นั้น ถือว่าทำได้ หากเป็นการตกลงทำธุรกรรมร่วมกันโดยทั้งสองฝ่าย แต่ไม่สามารถบังคับให้ซื้อขาย รับชำระเงินด้วยคริปโตฯ ได้ เพราะกฎหมายยังไม่รับรอง

ที่สำคัญ ปัจจุบันสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ก็ให้ความคุ้มครองนักลงทุนที่เทรดคริปโตฯ กับแพลตฟอร์มไทยที่ขึ้นทะเบียนกับทาง กลต. ภายใต้ พรก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561 เท่านั้น หากไปลงทุนกับแพลตฟอร์มนอกเหนือจากนั้นแล้วโดนโกงขึ้นมา กลต. ไม่คุ้มครองใด ๆ ทั้งสิ้น และยังถือว่าเป็นตลาดมืดที่ผิดกฎหมาย