หลาย ๆ คนมีเป้าหมายในชีวิตว่าอยากจะเป็นคนที่มีอายุยืน พร้อม ๆ กันกับที่มีสุขภาพดีด้วย การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงและอายุยืนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้
Blue Zones เป็นชื่อที่ใช้เรียกพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ของโลก เป็นที่ที่มีผู้ที่อายุตั้งแต่ 100 ปีขึ้นไปอาศัยอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเพื่อนและญาติ ๆ ของคนเหล่านั้นต่างก็มีอายุยืนด้วย พวกเขามีสุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพใจไม่เครียด และมีมีโอกาสเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมน้อยกว่าผู้สูงอายุในแถบอื่น ๆ
Blue Zones พบในที่ต่าง ๆ ทั่วโลก พบมากในแถบชายฝั่งทะเลเตอร์เรเนียน เช่น ที่เกาะอีคารีอา ในกรีซ, ซาร์ดิเนียของอิตาลี และยังพบที่โอกินาวา ของญี่ปุ่น, แถว ๆ คอสตาริกา บนคาบสมุทรนิโคยา และโลมาลินดา ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งเคล็ดลับอายุยืนของผู้คนใน Blue Zones คือ พวกเขาอยู่ร่วมกันในลักษณะที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ออกกำลังกายด้วยกิจกรรมการเดินหรือเดินป่า และกินอาหารที่หาได้ตามฤดูกาล
Nick Buettner หนึ่งในผู้บริหารของ Blue Zones กล่าวกับสำนักข่าว TODAY ว่า “โครการที่เรากำลังทำกับ Blue Zone คือ การแสดงให้เห็นว่าเราสามารถสร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับสุขภาพอย่างไร เพื่อให้คนตัดสินใจที่จะดูแลสุขภาพของตนเองและไม่บ่ายเบี่ยงที่จะทำด้วย” และ Buettner ยังได้อธิบายต่อว่า “คนอเมริกันมักให้ความสำคัญกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย”
มีนิสัยอะไรดี ๆ ต่อสุขภาพบ้างที่เราได้เรียนรู้จากบรรดาผู้สูงอายุที่มีอายุยืนมากกว่า 100 ปี ในพื้นที่ Blue Zone นิสัยที่จะปกป้องและรักษาสุขภาพของเราได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงที่เกิดภาวะโรคระบาด
1. ป้องกันตัวเองป่วยเป็นโรคเรื้อรัง
ผู้ที่มีโรคประจำตัวมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากกว่าคนที่มีสุขภาพดี โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคอ้วนและโรคปอด แต่ชาว Blue Zones ที่อายุยืนทั้งหลายนั้นห่างไกลจากโรคประจำตัวเหล่านี้ ก็เพราะวิธีการเลือกกินอาหารและการออกกำลังกายของพวกเขา อาหารจำพวกเนื้อสัตว์หรือขนมหวาน พวกเขาจะกินกันในโอกาสพิเศษ เช่น เฉลิมฉลองหรือเทศกาล และไม่กินหลังอาหารเย็น ส่วนการกินโปรตีน ก็เลือกโปรตีนจากพืชแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ นี่ทำให้คนใน Blue Zones ได้รับวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ และไฟโตนิวเทรียนท์เพื่อป้องกันโรคสูงมาก
ถั่ว เป็นอาหารที่ชาว Blue Zone และชาวอเมริกันบริโภคกันเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 ด้วยเหตุผลที่ดีว่า ถั่วมีความหลากหลายของสารอาหาร ง่ายต่อการกิน อาจใส่ในอาหาร หรือกินเป็นของว่าง มีใยอาหาร ช่วยลดคอเลสเตอรอล ซึ่งถั่วมีราคาไม่แพงและเก็บง่าย ดังนั้น การมีถั่วอยู่ในตู้กับข้าว จะช่วยให้เราไม่จำเป็นต้องออกไปซื้ออาหารนอกบ้านบ่อย ๆ
2. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
หลายคนไม่รู้ว่า “ลำไส้” มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าการเป็นอวัยวะในระบบทางเดินอาหาร เพราะลำไส้มีความสัมพันธ์กับระบบภูมิคุ้มกันของสุขภาพ โดยลำไส้จะทำงานร่วมกับจุลินทรีย์ชนิดมีประโยชน์นับล้าน ๆ ตัวที่อยู่ในร่างกายของเรา
จุนลินทรีย์เหล่านี้สามารถป้องกันเราจากการติดเชื้อโรคต่าง ๆ และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคบางโรคได้ด้วย คนใน Blue Zones กินอาหารประเภทพืชผักกว่า 90-100 เปอร์เซ็นต์ของจานอาหาร โดยอาหารที่ชาว Blue Zone นิยมบริโภคเพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายก็เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว และเมล็ดธัญพืช ซึ่งอาหารเหล่านี้นับเป็นอาหารชั้นดีให้กับแบคทีเรียชนิดดีต่อสุขภาพที่อยู่ในร่างกายของเรา
3. ปลูกผัก ทำสวน
คนใน Blue Zones มักจะปลูกพืชผักผลไม้กินเอง ซึ่งนอกจากจะประหยัดเงิน ได้กินผักและผลไม้ที่สดสะอาด ไม่ผ่านกระบวนการผลิตอะไรมากมายแล้ว ยังสามารถเก็บพืชผักเหล่านั้นไปแบ่งปันให้กับผู้อื่นได้ด้วย นอกเหนือจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าการปลูกฝัก ทำสวนสามารสร้างความสุขได้ ขณะเดียวกันก็ได้ออกกำลังกายไปในตัว Buettner กล่าวว่า ชาว Blue Zones ทั่วโลกชอบปลูกผัก ทำสวน เพราะพวกเขารู้สึกว่าเป็นการได้ขยับเขยื้อนร่างกาย ทำให้คนเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องไปวิ่งเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงเลยด้วยซ้ำ
4. ทำและแบ่งปันสูตรอาหาร
ผู้คนใน Blue Zones ส่วนใหญ่มีสูตรอาหารประจำบ้านของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีอาหารท้องถิ่นที่แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่ใช้วัตถุดิบที่ราคาไม่สูง หาซื้อง่าย จัดเก็บง่าย และเมื่อทำเสร็จแล้วก็สามารถนำไปแบ่งปันบ้านใกล้เรือนเคียงได้ แม้ว่าโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถนัดเจอใคร ๆ หรือกินข้าวร่วมโต๊ะกันได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีทางออก เพราะพวกเขาสามารแลกเปลี่ยนสูตรอาหาร หรือกระทั่งทำอาหารไปพร้อม ๆ กันผ่านวิดีโอคอล!
5. ใส่ใจเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ
ช่วงที่โควิด-19 ระบาด พบว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเครื่องดื่มที่คนนิยมดื่มกันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในคนที่มีความวิตกกังวล ซึมเศร้า หรืออาการทางจิตอื่น ๆ ใน Blue Zones ก็เช่นกัน แต่คนเหล่านี้เลือกดื่มไวน์แดงในปริมาณที่เหมาะสมพร้อมมื้ออาหาร (แต่ถ้าปกติแล้วคุณเป็นคนไม่ดื่มก็ไม่จำเป็นต้องดื่ม) แต่คนใน Blue Zones ก็ยังเลือกดื่มน้ำเปล่า ชา และกาแฟเป็นส่วนใหญ่ และจำกัดการดื่มน้ำอัดลม
6. ใกล้ชิดและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
นอกเหนือจากพฤติกรรมสุขภาพอย่างการใส่ใจเรื่องอาหารและการออกกำลังกาย คนที่อายุยืนส่วนใหญ่จะแวดล้อมไปด้วยครอบครัวครอบครัวที่อบอุ่น รายล้อมไปด้วยเพื่อนฝูงวัยเดียว หรืออยู่ในชุมชนที่เอื้อต่อการมีสุขภาพจิตที่ดี และมีกิจกรรมที่ส่งส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งอาจเป็นแรงบันดาลใจให้ลุกขึ้นไปทำพฤติกรรมกับผู้อื่นเพื่อสุขภาพที่ดีบ้าง
ข้อมูลจาก Today