ในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมา ใครที่ติดตามข่าวสารวงการยานยนต์ คงจะได้ยินข่าว Apple เตรียมร่วมวงเข้าสู่สายพานการผลิตรถพลังไฟฟ้า (EV) ภายใต้โปรเจค Apple Car มาเป็นระยะนะครับ แต่ถึงวันนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจน ทว่าอีกฝั่งของโลก Huawei ค่ายอุปกรณ์มือถือจีน อยู่ ๆ ก็ชิงเปิดตัวรถแบรนด์ตัวเองขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รายละเอียดของโปรเจ็กต์ Apple Car ที่ผ่านมายังไม่การให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการจะผลิตรถออกมาในรูปแบบใด จะผลิตรถเองใหม่ทั้งคัน หรือเป็นเพียงแต่การพัฒนาซอฟต์แวร์และจับมือกับค่ายรถอื่น ซึ่งผมมองว่าอย่างหลังน่าจะเป็นทางที่ Apple ถนัดกว่า เหมือนกับที่ Huawei เปิดตัวรถยี่ห้อตัวเองไปสด ๆ ร้อน ๆ
ฝั่งของ Huawei เพิ่งประกาศเปิดตัวรถเอสยูวีพลังไฟฟ้า รุ่น Seres SF5 ในงานเซี่ยงไฮ้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต้โชว์ เมื่อ 19 เม.ย. ที่ผ่านมาครับ ด้วยการชูรถรุ่นนี้เป็นธงนำสินค้ารถยนต์รุ่นแรกของค่าย พร้อมมีรายละเอียดและเปิดตัวราคาในจีนเสร็จสรรพ ไม่ต้องให้ลุ้นเหมือน GWM ที่ขอกั๊กราคาขายในบ้านเราเอาไว้ก่อน (ฮา)
แว่บแรกที่ผมเห็นข่าวนี้เด้งขึ้นมาทางฟีดทวิตเตอร์ ถึงกับอุทานในใจว่า “อะไรนะ! ผลิตรถเองเลยเหรอ” แต่พอเข้าไปดูรายละเอียดแล้ว ถึงได้รู้ว่าเป็นการร่วมมือกับ SERES ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยจับมือกับค่ายรถต่าง ๆ มาแล้ว แต่ครั้งนี้ CEO อย่างริชาร์ด ยู ประกาศเลยว่า ที่คือ “ธงนำ” ที่จะพา Huawei รุกตลาดรถยนต์
สำหรับเจ้า Huawei Seres SF5 คันนี้ จริง ๆ แล้วส่วนของตัวรถเปิดตัวมาตั้งแต่ ปี 2019 ครับ แต่ในรอบนี้มีการเพิ่มเติมซอร์ฟแวร์รวมถึงระบบเสียงที่เป็นเทคโนโลยีของ Huawei เพิ่มเข้าไป เป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ให้กำลังรวมสูงสุด 543 แรงม้า ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ที่ใช้ปั่นไฟ
ระบบการทำงานและขับเคลื่อนจะคล้าย ๆ กับ นิสสัน Kicks ที่มีขายอยู่ในบ้านเราเวลานี้ครับ แต่ที่พิเศษกว่านั้น คือมันมีระบบ Plug-in Hybrid ที่เสียบปลั๊กชาร์จได้ด้วย โดยหากขับแบบไฟฟ้าเพียว ๆ จะวิ่งได้ 180 กิโลเมตร แต่หากสั่งให้เครื่องยนต์ปั่นไฟเข้าแบตเตอรี่ขณะขับขี่ด้วย ก็จะวิ่งได้ไกล 1,000 กิโลเมตรเลยทีเดียว
ส่วนราคาเปิดตัวขายในจีน มี 2 รุ่นย่อยครับ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 216,800 หยวน (ประมาณ 1 ล้านบาท) และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคา 246,800 หยวน (ประมาณ 1.2 ล้านบาท) ส่วนในบ้านเราไม่รู้ว่า Huawei จะนำรถเข้ามาทำตลาดหรือไม่ แต่ถ้าเข้ามาจริง บอกเลยคึกคักแน่นอน
ไหนจะ MG ไหนจะ GWM นี่ลองคิดเล่น ๆ ว่า หาก Samsung เกิดจับมือกับค่ายรถเกาหลีแล้วทำแบรนด์รถยนต์ขึ้นมาอีก ค่ายจีน ค่ายเกาหลี คงจะร่วมวงบู๊ในตลาดรถยนต์กับค่ายญี่ปุ่นดุเดือดไม่น้อยครับ