ไขข้อสงสัย! ทำไมวัคซีนโควิด-19 สำหรับ “เด็ก” ยังไม่มี?

แม้ว่าทั่วโลกทยอยฉีดวัคซีน COVID-19 ให้กับประชาชนกันแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่ายังมีประชาชนอยู่กลุ่มหนึ่งที่ไม่มีสิทธิ์ฉีดวัคซีนไม่ว่าจะอยู่ในประเทศใดก็ตาม นั่นก็คือกลุ่มเด็ก ๆ ที่มีอายุไม่ถึง 16 ปีนั่นเอง

ทั้งนี้ เป็นเพราะในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับเด็กออกมา ซึ่งที่ผ่านมาการทดลองทางคลินิกของบริษัทผลิตวัคซีนต่าง ๆ ทดลองเฉพาะกับอาสาสมัครที่เป็นผู้ใหญ่เท่านั้น

ทำไมถึงผลิตวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่ก่อน

ดร.Frank Esper ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อในเด็ก เผยว่าจริง ๆ แล้ว ทั้งผู้ใหญ่และเด็กต่างก็จำเป็นต้องได้รับวัคซีน เพื่อจะได้กลับไปใช้ชีวิตกันอย่างปกติสุขอีกครั้ง

ส่วนสาเหตุที่เด็กยังไม่ได้มีส่วนร่วมในการทดลองทางคลินิกเหมือนกับผู้ใหญ่นั้น เป็นเพราะอาการป่วยรุนแรงจากโควิด-19 มักเกิดขึ้นกับผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ แต่ยังไม่เห็นอาการป่วยรุนแรงแบบเดียวกันนี้ในเด็ก ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเด็กมีภูมิคุ้มกันโควิด-19 เพียงแต่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้เร็วกว่าเมื่อเกิดการติดเชื้อขึ้นมา

นอกจากนี้ การที่หลายบริษัทมุ่งเน้นการผลิตวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่ก่อนเป็นลำดับแรก เป็นเพราะการทดลองทางคลินิกกับเด็กจะต้องมีกระบวนการป้องกันที่ซับซ้อนหลายชั้นมากขึ้น และเด็กเองก็ไม่สามารถตัดสินใจเรื่องเหล่านี้ด้วยตนเองได้

ทั้งนี้ ในการผลิตวัคซีนชนิดใดก็ตาม เรื่องความปลอดภัยถือเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นสำคัญ จึงทำให้การผลิตวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่ทำได้รวดเร็วกว่ามาก เพราะไม่มีข้อจำกัดหรือความเสี่ยงมากเหมือนเด็ก แต่เวลานี้ก็มีผู้ผลิตวัคซีนหลายรายทำการวิจัยและทดลองทางคลินิกเพื่อหาวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับเด็กกันแล้ว

ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กแตกต่างจากผู้ใหญ่

การผลิตวัคซีนโควิด-19 สำหรับเด็กนั้นถือว่ามีความซับซ้อนมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันในเด็กมีความแตกต่างกันไปตามช่วงอายุ อาทิ เด็กในวัย 16 ปี ก็จะมีระบบภูมิคุ้มกันที่แตกต่างกันมากเมื่อเทียบกับเด็กวัย 16 เดือน ทำให้ต้องมีการศึกษาข้อมูลและการวิจัยเพิ่มเติมในการผลิตวัคซีนสำหรับเด็กโดยเฉพาะ

ด้วยความที่เด็กเป็นวัยที่ยังมีการเติบโตและมีพัฒนาการ จึงมีช่วงอายุที่กว้างมากกว่าผู้ใหญ่ ทำให้ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าระบบภูมิคุ้มกันของเด็กจะเหมือนกันในทุกช่วงอายุ ยกตัวอย่างเช่น ทารกอายุ 6 เดือน จำเป็นต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี แต่สำหรับเด็กที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไปจนถึง 8 ปี อาจต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2 ครั้ง (ได้รับวัคซีน 2 โดส) เพื่อให้การป้องกันโรคได้ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ดัวยเหตุนี้ การผลิตวัคซีนสำหรับเด็กจึงมีความซับซ้อนมากกว่า และต้องใช้เวลาในการพัฒนาวัคซีนที่เหมาะกับเด็กในแต่ละช่วงวัย ซึ่งต่างจากการผลิตวัคซีนสำหรับผู้ใหญ่ที่จะแบ่งแค่ 2 ช่วงอายุเท่านั้น คือ ช่วงอายุระหว่าง 18-65 ปี กับอายุ 65 ปีขึ้นไป จึงทำให้พัฒนาวัคซีนได้ง่ายกว่า

Pfizer และ Moderna เริ่มทดลองวัคซีนเด็กแล้ว

แม้ขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนโควิด-19 สำหรับเด็กออกมาใช้อย่างเป็นทางการ แต่ผู้ผลิตวัคซีน 2 เจ้าดัง อย่าง Pfizer และ Moderna ลงมาจับวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปแล้ว โดยอยู่ระหว่างทดลองทางคลินิกและคาดว่าน่าจะทราบข่าวดีกันในช่วงกลางปีนี้เกี่ยวกับผลการทดลองว่าได้ผลเป็นอย่างไร ขณะที่ผู้ผลิตวัคซีนเจ้าอื่นอย่าง Johnson & Johnson, Novavax และ AstraZeneca ก็มีข่าวว่าวางแผนจะทดสอบวัคซีนในเด็กด้วยเช่นกัน

สื่อดังอย่าง New York Times รายงานด้วยว่า Pfizer ทดลองทางคลินิกระยะ 3 มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2020 โดยมีอาสาสมัครที่เป็นเด็กอายุระหว่าง 12-15 ปี เข้าร่วมการทดลองดังกล่าว จำนวน 2,259 คน ซึ่งข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) ระบุว่าวัยรุ่นมีแนวโน้มในการติดเชื้อโควิด-19 มากกว่าเด็กที่อายุน้อยกว่าประมาณ 2 เท่า

ส่วนการทดลองวัคซีนในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปีนั้น Keanna Ghazvini โฆษกของ Pfizer ระบุว่าจะต้องมีการศึกษากันใหม่ และอาจมีการปรับเปลี่ยนสูตร รวมถึงตารางการฉีดวัคซีนในแต่ละโดสด้วย ซึ่งการทดลองทางคลินิกคาดว่าจะมีขึ้นในปีนี้

อ้างอิงข้อมูล : health.clevelandclinic.org/ nytimes.com