ใครที่ชอบมีอาการ “jet lag” (เจ๊ตแล็ก) หรือสภาพร่างกายยังปรับตัวไม่ได้ จากการเดินทางไปประเทศที่มีเวลาต่างจากบ้านเรามาก หรืออยู่คนละไทม์โซนกัน วันนี้ Tonkit 360 มีผลการศึกษาที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยเซอร์รีย์ของอังกฤษมาฝากกัน
จากการทดลองของนักวิจัย ซึ่งนำโดยดอกเตอร์โจนาธาน จอห์นสตัน พบว่า การรับประทานอาหารให้ตรงกับเวลาของประเทศที่กำลังจะเดินทางไป สามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวได้ หลังจากทดลองให้อาสาสมัครกินอาหาร 3 มื้อ ประกอบด้วย มื้อเช้า กลางวัน และมื้อค่ำ ในเวลาที่แตกต่างกัน
โดยช่วงแรกของการทดลอง ทีมวิจัยให้อาสาสมัครกินมื้อเช้าหลังพักจากการเดินออกกำลังเป็นเวลา 30 นาที จากนั้นให้กินมื้อต่อๆ ไป โดยทิ้งช่วงห่างกัน 5 ชั่วโมง ส่วนช่วงที่ 2 ให้อาสาสมัครกินอาหารมื้อแรกหลังจากเดินไปแล้ว 5 ชั่วโมง ซึ่งทั้ง 2 ช่วง จะมีการเก็บตัวอย่างเลือดจากอาสาสมัครด้วย
จากผลการทดลองดังกล่าว ดอกเตอร์โจนาธาน ระบุว่า การเลื่อนเวลากินอาหารออกไปเท่ากับเป็นการเลื่อนระดับน้ำตาลในเลือด(ที่มาจากอาหารที่เรารับประทาน) ไปด้วย จึงเป็นการพิสูจน์ได้ว่า การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดจากการการปรับเปลี่ยนเวลาในการกินอาหารนั้น ส่งผลต่อนาฬิกาชีวิตที่อยู่ในร่างกายของเราได้เช่นกัน
ดังนั้น หากปรับนาฬิการ่างกายให้เข้ากับเวลาของประเทศที่จะเดินทางไปก่อนเป็นการล่วงหน้า ก็จะช่วยให้ไม่เกิดอาการเจ๊ตแล็กได้ ซึ่งวิธีนี้ได้ผลดีทั้งก่อนเดินทางไป และก่อนเดินทางกลับ
ที่มา : www.independent.co.uk