เชื่อหรือไม่ว่าบางทีคนเราไม่มี ความสุขเพราะนิสัยของตนเอง การปรับเปลี่ยนนิสัย และ ทัศนคติเพียงไม่กี่ข้อก็ สามารถทำให้คุณพบกับความสุข และ ความพึงพอใจในชีวิตได้ ถ้าเช่นนั้นมาดูกันว่า นิสัยอะไรบ้างที่เราควรเลิกเพื่ อให้ตนเองมีความสุขอย่างที่ ควรจะเป็น
1. เปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
ทุกวันนี้โซเชียลมีเดีย ทำให้คนทั่วไปรู้สึกว่าตนเองต่ำ ต้อยกว่าคนอื่นได้ตลอดเวลา เพราะในโซเชียลมีเดียส่วนใหญ่ผู้ คนมักจะโชว์ชีวิตดีๆผ่านภาพ หรือคลิป แต่เอาเข้าจริงแล้วคุณไม่รู้ เลยว่าชีวิตจริงของพวกเขาสุขอย่ างที่เห็นในภาพหรือไม่ ดังนั้นควรเลิกเปรียบเที ยบตนเองกับผู้อื่นและหันมาโฟกั สกับเป้าหมายในชีวิตตนเองก้มหน้ าก้มตาทำไป เพื่อไปให้ถึงจุดหมาย ถึงเวลานั้นคุณจะรู้สึกว่าชีวิ ตของคุณดีขึ้นเอง
2. รอเวลาที่คิดว่าพร้อม
ความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งของคนทั่ วไป เวลาจะลงมือทำอะไรสักอย่าง มักจะรอเวลาที่คิดว่าใช่ รอเวลาที่คิดว่าพร้อม ทั้งที่ความเป็นจริงนั้น ถ้าคุณคิดจะทำอะไรก็ควรลงมื อทำเลย เพราะตัวเราเองนั้นรู้ศั กยภาพของตนเองดี ไม่มีช่วงเวลาที่เหมาะสม หรือ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดอยู่จริง มีแต่ช่วงเวลาที่ลงมือทำจริง เมื่อทำไปแล้วผลที่ได้จะบอกคุ ณเองว่าต้องทำอย่างไรต่อไป มัวแต่รอมัวแต่เงื้อว่า “จะทำ” คุณจะไม่มีวันได้ทำ
3.เลือกงานโดยดูที่รายได้เป็ นหลัก
สิ่งสำคัญในการเลือกงานที่ จะทำไม่ใช่ตัวเลขเงินเดือน หรือ ค่าตอบแทน แต่ต้องดูด้วยว่างานที่จะทำนั้ นทำให้คุณก้าวหน้าเพียงใด และ เมื่อคุณได้เข้าไปเป็นพนั กงานแล้วคุณจะทำงานโดยที่ไม่รู้ สึกว่าถูกบังคับให้ลุกขึ้ นจากเตียงเพื่อไปทำงาน แต่รู้ว่าอยากไปทำงานทุกวัน ดังนั้นการเลือกงานโดยเอาเงิ นเป็นตัวตั้งอาจไม่ใช่คำตอบสุ ดท้ายของการทำงานอย่างแท้จริง
4. เก็บเอาความรู้สึกด้านลบไว้ มากเกินไป
ชีวิตไม่ได้มีแต่ความขมขื่ นตลอดไป ชีวิตนั้นมีทั้งหวานและขม ดื่มด่ำไปกับทุกรสชาติจะดีกว่ าปล่อยให้ชีวิตของคุณตกอยู่แต่ ในความขมขื่น ความรู้สึกด้านลบไม่ว่าจะเป็น ความอิจฉา ความโกรธ หรือ ความไม่พอใจ อารมณ์แบบนี้เมื่อสะสมรวมกั นมากเข้าจะทำให้คุณรู้สึกว่าทุ กสิ่งรอบข้างไม่น่าพิสมัยเอาเสี ยเลย แถมยังทำให้คุณกลายเป็นคนคิดมาก กลัดกลุ้มได้แม้เรื่องเล็กน้อย ดังนั้นอย่าไปเสพติดความคิดด้ านลบเพียงด้านเดียว เอาความหวานเข้าชีวิตให้มี ความสุขบ้างก็จะเป็นการดี
5. วิตกกังวล หรือ เครียดมากจนเกินไป
มีคนจำนวนไม่น้อยที่ตกเป็นเหยื่ อความคิดมากของตนเอง คิดไปทั้งที่ยังไม่มีมูลเหตุให้ เรื่องที่คิดนั้นเป็นจริงได้ ในภาพยนตร์เรื่อง สตาร์วอร์ส นั้นอาจารย์โยดาพูดไว้ว่า “ความกลัว นำไปสู่ความโกรธ ความโกรธ นำไปสู่ความเกลียด และ ความเกลียดนำไปสู่ความสูญเสีย” ดังนั้นการเก็บเอาความวิตกกังวล ไว้กับตัวเองมากเกินไป จะทำให้คุณไม่กล้าที่จะตัดสินใจ หรือก้าวไปสู่เรื่องที่ยิ่งใหญ่ กว่าในชีวิต
6. ติดอยู่กับอดีต
การติดอยู่กับอดีตที่ผิดพลาด และ โทษตัวเองซ้ำๆ เป็นการกระทำที่จะทำให้คุณตกอยู่ ในความทุกข์ตลอดเวลา ขณะเดียวกันความทุกข์ดังกล่ าวจะส่งผลกับชีวิตในปัจจุบั นของคุณด้วย
7. ลืมที่จะสร้างความสุ ขจากความเติบโตทางด้านจิ ตใจและศักยภาพของตนเอง
ในชีวิตคนเรา สามารถมีความสุขได้ง่ายๆ แต่หลายคนมักจะลืมไปคือการสร้ างความสุขจากสิ่งเล็กๆน้ อยๆรอบตัวไม่ว่าจะเป็นการได้สิ่ งของ หรือ การได้รับน้ำใจ จากเรื่องที่ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก รวมไปถึงการประสบความสำเร็ จตามเป้าหมายเล็กๆในชีวิ ตประจำวัน ขณะที่ความสุขเล็กๆอีกรูปแบบหนึ่ งคือความสุขแบบยั่งยืน เป็นความสุขที่เกิดจากการที่คุ ณได้พัฒนาจิตใจ และ ตัวคุณเองให้ดีขึ้นกว่าในอดีต ความสุขในลักษณะนี้จะส่งผลต่ อการมองโลกที่ดีมากขึ้น ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะหลงลืมไป
8. พยายามสร้างความเปลี่ ยนแปลงแบบทันทีทันใด
ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ ตลอดเวลาด้วยการเริ่มต้นที่ตั วคุณ และความเปลี่ยนแปลงนั้นต้องเป็ นแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่หลายคนไม่อยากอดทนรอ อยากให้เปลี่ยนไปเลยแบบพลิกฝ่ ามือ ซึ่งมีความเป็นไปได้ยาก หรือ เป็นไปไม่ได้เลย เพราะแม้แต่คุณเองก็ยังไม่ สามารถเปลี่ยนตัวเองได้ทันที หากแต่ความเปลี่ยนแปลงนั้นต้ องใช้เวลา และ เริ่มต้นที่ตัวคุณเองก่ อนเพราะถ้าคุณอยากเปลี่ยนแล้ วรอคนอื่นมาเริ่ม ความเปลี่ยนแปลงนั้นไม่มีทางเกิ ดขึ้นได้
9. ใช้เวลาอยู่กับคนที่มีความคิดด้ านลบมากเกินไป
จะมีคนบางจำพวกที่คอยดูดเอาพลั งบวกจากคุณไปโดยที่คุณไม่รู้ตัว คนเหล่านั้นคือคนที่เต็มไปด้ วยพลังทางด้านลบ พวกเขาไม่เคยเห็นว่าใครจะดี ไปกว่าตัวเอง ไม่เคยคิดว่าคุณอื่นดีพอสำหรั บตนเอง และมักจะนำเอาพลังด้านลบมาสู่คุ ณโดยที่คุณเองไม่รู้ตัว เมื่อคุณอยู่กับคนประเภทนี้นานๆ คุณอาจจะรู้สึกว่าได้รับมลพิ ษทางอารมณ์มากจนเกินไป
10. ให้ความสำคัญกับรู ปกายภายนอกมากเกินไป
“อย่าตัดสินหนังสือที่หน้าปก” คือคำจำกัดความของพฤติกรรมที่ ทำให้คุณไม่มีความสุขในข้อสุดท้ าย หลายคนมองคนอื่นที่รูปลักษณ์ ภายนอก หรือ ผ่านโซเชียลมีเดีย จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเปรี ยบเทียบกับตนเอง ให้ความสำคัญกับเปลือกที่เห็ นมากกว่าทัศนคติ หรือ วิถีการใช้ชีวิตของคนคนนั้น ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ วการให้ความสำคัญกับความงามที่ อยู่ภายใน สำคัญมากกว่ารูปกายภายนอกมากนั ก