หลายคนที่ชมฟุตบอลเยอรมนี คือศึกบุนเดสลีกาที่กลับมาเตะเย้ยโควิดก่อนใครเพื่อน คงอดตั้งคำถามไม่ได้ว่าพี่ ๆ ไปกินดีหมีหัวใจเสือมาจากไหน ลีกอื่นเขายังปิดเงียบอยู่เลย
ผมเป็นคนหนึ่งที่ดูเกมไปแล้วมีคำถามเกิดขึ้นในหัวมากมาย เช่น พวกเอ็งได้ซ้อมทีมก่อนลงสนามกันสักกี่ครั้ง เพราะมีข่าวมาตลอดว่า ต้องแยกซ้อมเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มเล็ก ๆ แค่ 2-3 คน กลับมาเตะรวมกันคงต้องใช้เวลาสักนิดมั้งเพื่อสร้างความคุ้นชิน
พอยิงประตูได้จะเผลอกอดกันเหมือนแต่ก่อน ยามขัดใจคำตัดสิน จะลืมตัวเข้าไปโวยใกล้ ๆ ท่านเปาเลยหรือไม่ แล้วตอนอยู่ในห้องแต่งตัวจะเป็นยังไงกัน มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือกันหรือไม่
อาจเป็นเพียงความสงสัยของชายวัยกลางคนก็ได้มั้งครับ กลัวโควิดจะระบาดแล้วก็ต้องหยุดกันอีก แต่สิ่งที่น่าห่วงสุดคือสภาพความฟิตของนักเตะแต่ละคน ดูไปก็ลุ้นไปไม่อยากให้มีอาการกระตุก หรือบาดเจ็บขึ้นมากลางคัน
สุดท้ายพวกเขาแข่งกันไปจนเสียงนกหวีดสุดท้ายดัง ต้องปรบมือให้กับความกล้าหาญ และเสียสละของผู้เล่นและกลุ่มสตาฟโค้ชทุกคน ขณะที่ลีกอื่นยังงอแง ขอต่อรองยืดเวลา ต้นเดือนมิถุนายังอาจไม่ได้กลับมา กล้า ๆ กลัว ๆ กันอยู่เลย
หลังจากนี้บุนเดสลีกา จะเป็นต้นแบบการ Restart ฤดูกาลให้กับลีกดังอื่น ๆ อย่าง ลาลีกา พรีเมียร์ลีก หรือแม้กระทั่ง กัลโช่ เซเรียอา ได้ศึกษาวิธีการ ดูข้อดี-ข้อเสีย แล้วนำมาปรับใช้ในการกลับมาลงเตะฤดูกาลโควิดนี้ให้มันจบสิ้นได้ผลลัพธ์สมบูรณ์ แม้จะเป็นแบบไม่มีคนดูในสนาม ได้เพียงแค่ชมการถ่ายทอดสดอยู่ทางบ้านก็ตามที
นับเป็นการแก้ปัญหาฝ่าวิกฤติโควิดของฟุตบอลเยอรมัน ส่วนจะตัดสินว่าเร็วไปหรือไม่นั้น ต้องบอกเพียงว่า มันไม่ได้มีทางเลือกอะไรมากนัก
ถ้าหยุดนานกว่านี้ สภาพความฟิตของนักเตะจะเป็นอย่างไร สภาพการเงินของแต่ละสโมสรจะไหวหรือไม่ สัญญาต่าง ๆ ของนักฟุตบอลที่จะหมดลงในฤดูกาลนี้จะส่งผลอะไรบ้าง และถ้ารอต่อไปนาน ๆ เข้า จะมีคนชวน “ตัดจบ” ให้มันเกิดปัญหาตามมารึเปล่า ไหนจะมีโปรแกรมซีซั่นหน้ารออยู่อีก
นั่นคือเหตุผลว่าทำไม บุนเดสลีกา จึงต้องรีบผ่าทางตัน!
ส่วนลีกอื่น ๆ รวมทั้ง “ไทยลีก” จะมากลับมาเตะเมื่อไหร่ คงต้องติดตามข่าวกันต่อไป ก็หวังว่าจะเป็นเร็ว ๆ นี้หรือเร็วที่สุด เพราะโลกที่ไร้ฟุตบอลเตะนั้น มันช่างไร้สีสันสิ้นดี.