การตลาดกับความรู้สึกถวิลหา


การตลาดกับความรู้สึกถวิลหา

เคยเป็นไหมคะ เวลานั่งคุยกันในกลุ่มเพื่อน พอมีใครเอ่ยคำว่า “จำได้ไหมว่า …” แล้วต่อด้วยเรื่องราวในอดีตที่คนส่วนใหญ่เคยมีประสบการณ์ร่วมกัน จะกลายเป็นการรำลึกความหลังที่ แต่ละคนต่างนำเสนอในมุมมองที่ตนเองสนใจ และต่างก็แย่งจุดพลุความทรงจำให้ส่องประกายย้อนกลับไปยังความสุขในวันวาน

เรื่องแบบนี้ภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า Nostalgia อันหมายถึงอารมณ์หวนไห้ ถวิลหาสิ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกมีความสุขในอดีต อารมณ์แบบนี้แหละค่ะ เอามาทำการตลาดในปัจจุบันได้ดีนักเชียวเพราะสังคมในปัจจุบันนั้นกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยคนที่เติบโตในยุคที่โลกเปลี่ยนผ่านจากอนาล็อก มาสู่ดิจิตอลแม้ว่าจะมีความสะดวกสบาย กับเครื่องมืออันทันสมัยแต่หลายคนก็ยังถวิลหาความประทับใจในอดีตซึ่งส่วนใหญ่แล้วไม่ได้เกิดจากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย หากแต่เป็นประสบการณ์ที่ยังคงติดอยู่ในความทรงจำ

แล้วดูเหมือนว่าอารมณ์ถวิลหาอดีต จะทำให้อดีตค่ายโทรศัพท์ยักษ์จากฟินแลนด์ คิดอะไรขึ้นมาได้ เมื่อหลายคนเริ่มเบื่อกับ เทคโนโลยีการสื่อสารรุ่นใหม่ เมื่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบันที่แสนจะสวยงามหากไม่ตอบสนองความต้องการใช้งานที่แท้จริง เต็มไปด้วยความซับซ้อน หรือบอบบางจนต้อง ทะนุถนอมเป็นพิเศษ ทำให้หลายคนคิดถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่ในอดีตที่ทนทาน ใช้งานง่าย ไม่บอบบาง และมี เกมงู แน่นอนว่าโนเกียได้ยินเสียงเรียกร้องนั้น

และทันทีที่เป็นอิสระจากไมโครซอฟท์ในปี 2016 หลัง FIH Mobile บริษัทจากฟินแลนด์ ได้ซื้อสิทธิในการผลิตโทรศัพท์ยี่ห้อโนเกีย FIH ได้ร่วมกับโนเกียในการพัฒนาแบรนด์โทรศัพท์เคลื่อนที่ให้กลับมาเกิดอีกครั้ง และตัดสินใจนำเอารุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดอย่าง 3310 กลับมาเกิดใหม่

27 กุมภาพันธ์ จึงกลายเป็นเช้าวันวันจันทร์ ที่คนหลายล้านคนทั่วโลกร่วมกันรำลึกความทรงจำกับ 3310 เป็นการำลึกความทรงจำชนิดที่ #Nokia3310 ตัวใหม่ ติดอยู่ในท้อป 10 ของทวิตเตอร์โลก และทำให้เชื่อได้ว่า โนเกีย 3310 ใหม่น่าจะกลับมาอยู่ในใจคนที่คิดถึงได้อีกครั้ง นับเป็นตัวอย่างความสำเร็จของการตลาดด้วยอารมณ์ถวิลหา ท่ามกลางสังคมปัจจุบันที่ไม่ค่อยมีอะไรใหม่ให้ตื่นเต้น ขณะที่ผู้คนเริ่มเบื่อหน่ายกับการทำซ้ำของผลิตภัณฑ์ที่ให้อะไรไม่ได้มากไปกว่าเปลือกนอกที่สวยงาม

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต