รุ่นใหญ่ไฟกระพริบ


รุ่นใหญ่ไฟกระพริบ

ยามเรายังเยาว์หรือเป็นหนุ่มสาว หัวข้อสนทนาที่มักจะคุยและโอ้อวดกันคงหนีไม่พ้นเรื่อง บ้านเธอมีอะไร หรือใครเคยไปที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง แต่พออายุเริ่มมากขึ้น ประเด็นที่แทรกเสริมเติมเข้ามาเห็นจะหนีไม่พ้นเรื่อง “สุขภาพ” และการดูแลเอาใจใส่ตัวเอง ทั้งหญิงและชายแหล่ะครับ

ผู้ชายรุ่นใหญ่ที่เขามักเรียกกัน “บอส” บ้าง “อาเฮียๆ” บ้าง มักจะวัดกันที่เนินสโลพที่หน้าท้องนี่ล่ะครับเป็นสำคัญ รวมทั้งความสามารถในการประกอบกิจกรรมต่างๆ อาทิ ยังเล่นฟุตบอลไหวมั้ย ตีกอล์ฟไหวรึเปล่า ใครยังไหวก็พอจะสรุปว่ายังเตะ“ปี๊บ”ดัง เป็นพวก “รุ่นใหญ่ไฟกระพริบ” 555

ส่วนของคุณผู้หญิงคงจะเชือดเฉือนกันด้วย “หนังหน้า” ใครสามารถชะลอความชราบนใบหน้า รวมทั้งรักษาหุ่นไม่ให้ผิดจากตอนสาวมากนัก เป็นเรื่องที่น่ายกย่อง คุณๆที่ดูแลตัวเองดี นอกจากจะเอาไว้คุยข่มเพื่อนได้ ยังมีโอกาสจะเป็นคนที่มีคุณค่าของสังคมในระยะยาว

ทุกครั้งที่ไปงานแล้วเห็นผู้ใหญ่ที่ยังมีความคิดดีๆขึ้นมาพูดให้โอวาทให้สติลูกหลาน แล้วรู้สึกมีความสุขและคิดว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่า บุคคลเหล่านี้ล้วนเคยประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และถูกประสบการณ์ชีวิตโบยตีมาแล้วอย่างโชกโชน น่าจะเป็นพี่เลี้ยงให้คนรุ่นหลังต่อไปให้นานหน่อย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

บ้านเราเสียอย่างเดียวคือทัศนคติกับการทำงานของคนสูงวัยและอาชีพที่เตรียมไว้ให้มีน้อย ใครอายุมากแล้วยังทำงาน จะโดนพวกปากหอยปากปูเมาธ์ว่า “เพราะลูกหลานไม่เลี้ยง” เกษียณแล้วเลยหยุด เลิกแล้วเลิกเลย น่าเสียดายจริงจัง เหลือเฉพาะคนระดับท็อปจริงๆที่ยังถูกจ้างในตำแหน่งที่ปรึกษาบริษัทใหญ่ ทั้งๆที่ด้วยการแพทย์และอาหารในปัจจุบัน ทำให้คนอายุ 60-65 สมัยนี้ยังดูกระฉับกระเฉงอยู่

ใครที่เคยไปญี่ปุ่นคงเห็นคนมีอายุยังออกมาทำงานกันมาก ทั้งที่สนามบินช่วยสกรีนเอกสารก่อนผ่านการตรวจคนเข้าเมือง การช่วยดูแลและคิดเงินในร้านอาหาร หรือทำงานที่ไม่ต้องใช้แรงกายอื่นๆอีกมาก นอกจากทำให้ตัวเองไม่เป็นภาระต่อสังคมแล้ว ยังช่วยลดปัญหาแรงงานที่ขาดแคลนในบางตำแหน่ง ที่คนหนุ่มๆสาวๆไม่ค่อยยอมทำได้เป็นอย่างดี

ในอนาคตอันใกล้นี้ประเทศไทยกำลังจะกลายเป็นสังคมของคนสูงอายุ เหลือผู้คนวัยทำงานน้อยลงไป ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะครับว่า ทั้งรัฐและเราได้เตรียมตัวเตรียมใจกับเรื่องนี้แล้วมากน้อยแค่ไหน

แล้วรุ่นใหญ่ไฟพร้อมกระพริบกันรึยังล่ะครับ?