คล็อปป์ หรือ พอช ใครจะช้ำต่อ

ช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายนนี้ ตามเวลาบ้านเรา จะได้รู้กันแล้วว่า ลิเวอร์พูลจะคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 ได้หรือไม่ หรือ สเปอร์สจะสร้างประวัติศาสตร์ซิวถ้วยหูใหญ่เป็นสมัยแรก นอกจากนี้ยังจะเป็นการวัดกันว่า คล็อปป์ หรือ โปเช็ตติโน่ ใครจะปลดล็อกคว้าแชมป์แรก ของการคุมทีมในอังกฤษได้ก่อนกัน

หากพูดถึง ‘เจเค’ เจอร์เก้น คล็อปป์ และ ‘พอช’ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ แน่นอนว่านี่คือกุนซือหัวแถวของพรีเมียร์ลีกในชั่วโมงนี้ มีประสบการณ์พาทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกกันมาแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า นับตั้งแต่รับงานคุมทีมในอังกฤษ ทั้งคล็อปป์ และ พอช ยังไม่เคยพาทีมคว้าแชมป์ได้สักรายการเดียว

ฝั่งของคล็อปป์ นี่คือการพาลิเวอร์พูลเข้าชิงฟุตบอลถ้วยเป็นครั้งที่ 4 หลัง 3 ครั้งก่อนหน้านี้ ‘หงส์แดง’ แพ้รวด เริ่มจากเป็นดับเบิลรองแชมป์บอลถ้วย (ลีกคัพ และยูโรป้า ลีก) ในฤดูกาล 2015-16 และความพ่ายแพ้ในรอบชิงยูซีแอลนี้ เมื่อหนึ่งปีที่แล้วต่อเรอัล มาดริด

ส่วนโปเช็ตติโน่ เคยมีประสบการณ์พาสเปอร์สเข้าชิงบอลถ้วย 1 ครั้ง ในรายการลีกคัพฤดูกาล 2014-15 ซึ่งผลคือ ‘ไก่เดือยทอง’ แพ้เชลซีไป 0-2 ซึ่งถือเป็นประสบการณ์นัดชิงครั้งแรกและครั้งเดียว ก่อนนำทีมเข้ามาถึงนัดสุดท้ายของถ้วยยูซีแอลที่กรุงมาดริดสุดสัปดาห์นี้

สถิติที่ผ่านมาคล็อปป์ และพอช คุมทีมลิเวอร์พูลและสเปอร์สเจอกันมาทั้งหมด 9 ครั้ง ปรากฎว่า คล็อปป์ ถือสถิติข่มอย่างชัดเจน โดยลิเวอร์พูลชนะ 4 ครั้ง สเปอร์สชนะได้แค่ครั้งเดียว และอีก 4 ครั้งเสมอกันไป น่าสนใจว่าการเจอกันภาคที่ 10 ของทั้งคู่ ผลจะลงเอยอย่างไร

บริษัทรับพนันแบบถูกกฎหมายในยุโรปทุกสำนัก ยกให้ลิเวอร์พูลเป็นต่อสเปอร์สอยู่หลายขุม และคิดว่า ลูกทีมของคล็อปป์น่าจะเช็คบิลล์สเปอร์สในเวลา 90 นาทีได้ไม่ยาก ซึ่งถ้าเป็นอื่นนอกเหนือไปจากนี้ ถือว่าพลิกล็อก

ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา พอช ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เกมนี้ไม่ใช่การสู้กันระหว่างเขา กับ คล็อปป์ หรือว่าการสู้กันในแง่แท็คติกแต่อย่างใด แต่เกมนัดนี้มันเกี่ยวข้องกับอารมณ์ล้วนๆ!

นั่นหมายความว่า ใครควบคุมสติได้ดีกว่า ก็น่าจะมีความได้เปรียบในการคว้าแชมป์ไปครอง แต่จะเป็นเช่นนั้นหรือไม่คงต้องรอดูกัน

แต่ที่แน่ๆ หลังจบเกมนี้ ไม่ คล็อปป์ ก็ พอช จะมีหนึ่งคน ที่ทำสถิติแพ้ 100 เปอร์เซนต์ในนัดชิงฟุตบอลถ้วยต่อไปครับ

เครดิตภาพจาก twitter.com/lfc และ twitter.com/spursofficial