ความสูญเสีย

กลับมารายงานตัวกับท่านผู้อ่านอีกครั้งแบบถอนหายใจโล่งอกที่ผ่านพ้นเทศกาลสงคราม ไม่ใช่สิ สงกรานต์ได้แบบปลอดภัยไม่เจออุบัติเหตุบนท้องถนนบ้านเราที่เต็มไปด้วยคนเมา และเยาวชนนักแว้นส์

ระหว่างเทศกาลเกิดความสูญเสียขึ้นมากมาย บ้างตาย บ้างก็เจ็บ ติดคุกไปก็มี เสียดายอนาคตที่เรียกกลับคืนมาไม่ได้ แง่ดีคือเรื่องการท่องเที่ยว สร้างสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศให้ชาวโลกได้รับรู้และจดจำ แต่หากควบคุมอะไรไม่ได้ก็จะกลายเป็นภาพพจน์ที่เสื่อมเสียให้กับบ้านเมืองได้เช่นเดียวกัน

พูดถึงการสูญเสียในเทศกาลสงกรานต์แล้ว มีข่าวร้ายที่วงการฟุตบอลต้องเสียอดีตนักฟุตบอลระดับตำนานไปอีกหนึ่งคน นั่นก็คือ ทอมมี่ สมิธ อดีตปราการหลังของ “หงส์แดง” โด่งดังในยุค 70-80 เด็กรุ่นนี้อาจจะเกิดไม่ทัน แต่ขอบอกเลยว่านี่คือ “ฮาร์ดแมน” ตัวพ่อ หรือต้นแบบนักเตะที่มีดีเอ็นเอประเภทแข็งแกร่ง เล่นหนัก ไม่ยอมใคร และบางครั้งใช้คำว่า “เถื่อน” ก็อาจจะไม่เกินเลยเท่าไรนัก

ผมทันดูทอมมี่ สมิธ เล่นในช่วงท้ายๆอาชีพของเขากับลิเวอร์พูล คือปี 1977 ยุคนั้นสโมสรนี้สยายปีกครองความยิ่งใหญ่ในเกาะอังกฤษ มีนักฟุตบอลอย่าง เควิน คีแกน, เอียน คัลลาแฮน และ สตีฟ ไฮเวย์ ส่วน เคนนี่ เดลกลิช, แกรม ซูเนสส์ และ เอียน รัช ยังไม่เข้าสู่ทีมด้วยซ้ำ

จำได้ว่าปี 77 “หงส์แดง” ร้อนแรงและมีลุ้นถึง 3 ถ้วย คือ ดิวิชั่น 1 (ลีกสูงสุดในตอนนั้น), เอฟเอ คัพ และ ยูโรเปี้ยนคัพ

ลิเวอร์พูล เขมือบแชมป์ลีกไปครองได้เรียบร้อยแล้ว และลอยลำเข้าชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกมนั้นจะเรียกว่าจุดกำเนิดของ “วันแดงเดือด” ก็คงไม่ผิดนัก และ ทอมมี่ สมิธ อยู่ในทีมชุดนั้นด้วย โดยยืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ เอ็มลีน ฮิวจ์ส กัปตันทีมที่สนามเวมบลีย์

โชคร้ายที่จบเกมการแข่งขัน “หงส์” ปราชัยให้ผีอย่างหวุดหวิด 1-2 แต่อีกเพียง 4 วันให้หลัง พวกเขาก็บุกไปชิงถ้วยยูโรเปี้ยนคัพ หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปัจจุบันที่กรุงโรม กับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค

เที่ยวนี้ สมิธ ลุยขึ้นไปโขกลูกเตะมุมให้ทีมขึ้นนำ 2-1 และว่ากันว่านั่นคือจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมที่ทำให้สุดท้ายแล้ว ลิเวอร์พูลเอาชนะไปได้ 3-1 คว้าถ้วย “บิ๊กเอียร์ส” มาครองได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ควบคู่ไปกับถ้วยดิวิชั่น 1 ด้วย เป็น “ดัลเบิลแชมป์”ในปีนั้น

นั่นคือความทรงจำที่ผมมีกับ ทอมมี่ สมิธ ที่ถึงวันนี้กลายเป็นตำนานผู้ล่วงลับ เป็นดาวอีกหนึ่งดวงที่ร่วงหล่นจากฟากฟ้า

RIP หลับให้สบาย ทอมมี่ สมิธ.