To PARIS with LOVE

แม้ว่าน้ำตก NIAGARA จะเป็นสถานที่ซึ่งได้รับการ VOTE ว่าเป็น LANDMARK อันดับหนึ่งสำหรับการ “ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์”

ทว่า ถ้าพูดถึงเมืองที่คู่รักอยากไปเยือนสักครั้งในชีวิต ต้องยกให้ PARIS

PARIS คือเมืองในฝันของหนุ่มสาวทั่วทุกมุมโลก เพราะ PARIS เป็นเมืองที่ได้รับการกล่าวขานมาอย่างยาวนานว่าเป็นเมืองโรแมนติกที่สุด

นอกจาก PARIS จะเป็น LOCATION สำหรับถ่ายทำโรแมนติกในภาพยนตร์หลายสิบเรื่องแล้ว PARIS ยังเป็นฉากหลังของวรรณกรรมนับร้อยเรื่อง นอกจากนี้ PARIS ยังปรากฏอยู่ในบทเพลงอีกนับไม่ถ้วน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลงานศิลปะ ทั้งทัศนศิลป์และประติมากรรม

โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ ที่ชาว PARISIAN กำลังอยู่ในบรรยากาศการเฉลิมฉลองร่วมกับทีมชาติฝรั่งเศสที่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 2 มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่

แฟนๆ Tonkit360 ที่กำลังวางแผนจะไปเยือน PARIS วันนี้เรามีข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยว PARIS มาฝาก

เริ่มจากการตระเตรียมตัวเดินทางด้วยการเตรียม Passport ให้พร้อม และการยื่นขอ VISA

VISA สำหรับเข้า PARIS นั้น จะต้องดำเนินการยื่นขอ Schengen VISA ซึ่งเป็น VISA สำหรับเดินทางเข้ายุโรป หมายถึงว่า นอกจากประเทศอังกฤษแล้ว เราสามารถใช้ Schengen VISA เดินทางไปได้ทั่วยุโรปเลยทีเดียว

แต่มีข้อแม้ว่า หากเราจะไปลงเครื่องบินที่ PARIS ต้องไปยื่นที่สถานทูตฝรั่งเศสเท่านั้น และสามารถยื่นล่วงหน้าก่อนการเดินทางได้นานถึง 3 เดือนด้วยกัน ค่าธรรมเนียมในการขอ Schengen VISA นั้น หากเป็นนักท่องเที่ยวประเภทพำนักระยะสั้น (ไม่เกิน 90 วัน) ค่าธรรมเนียมทั้งหมดโดยรวมจะอยู่ที่ประมาณ 3,500 บาท

เหตุผลที่ Tonkit360 แนะนำให้บริหารจัดการเรื่อง Schengen VISA ก่อนเลยก็คือ หากเราซื้อตั๋วเครื่องบินก่อน แล้ว VISA ไม่ผ่าน ก็จะเป็นการเสียค่าตั๋วไปฟรีๆ นั่นเอง

โดยปัจจุบันเราสามารถเข้าไปลงทะเบียนที่เว็บไซต์ TLS Contact เพื่อทำการนัดหมายล่วงหน้าก่อนเข้าไปสถานทูตได้อย่างสะดวก

ตามมาด้วยการ Survey หาตั๋วเครื่องบิน

แม้ห้วงนี้จะเป็นฤดู SPRING ซึ่งถือเป็น Hi season ช่วงหนึ่งของ PARIS ทว่า ยังมีตั๋วเครื่องบินราคาถูกให้เลือกจับจ่ายใช้สอยกันพอสมควร

เทคนิคสำคัญสำหรับการหาตั๋วถูกก็คือต้องจองตั๋วล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือน ยิ่งอีก 2 เดือนข้างหน้าจะล่วงเข้า FALL และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ WINTER ด้วยแล้ว จะถือเป็น Low Season ของการท่องเที่ยว EURO ZONE ทุกประเทศ ซึ่งมักจะมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจทยอยออกมากันอย่างมากมาย

จากการสำรวจตั๋วเครื่องบินของสายการบินชั้นนำ ปรากฏ 3 สายการบินที่น่าสนใจคือ

Jet Airways ราคาไปกลับประมาณ 18,000 บาท

Oman Air ราคาไปกลับประมาณ 25,000 บาท

Thai Airways ราคาไปกลับประมาณ 36,000 บาท (บินตรง)

ได้ Schengen VISA แล้ว ได้ตั๋วเครื่องบินที่ต้องการแล้ว ทีนี้ เรามาเสาะหาที่พักใน PARIS กัน

เนื่องจาก PARIS เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับ TOP TEN ของโลก ดังนั้น ที่พักต่างๆ จะมีให้เลือกอย่างหลากหลาย ตั้งแต่ Service Apartment สะอาดๆ หรือ Hostel สุดชิค เริ่มต้นที่ประมาณ 1,000 บาทต่อคืน และแน่นอนว่าต้องมีโรงแรมจำนวนมากให้เลือกสรร ตั้งแต่ 1 ดาว ไปจนถึง 5 ดาว โดยถ้าเป็นโรงแรม 3 ดาว เริ่มต้นที่ประมาณ 2,500 บาทต่อคืน

โดยในยุค 4.0 อย่างในปัจจุบัน เราสามารถจองที่พักล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ต่างๆ ที่ประกอบธุรกิจทางด้านนี้ ไม่ว่าจะเป็น agoda.com traveloka.com expedia.co.th หรือ booking.com และแน่นอนกับ airbnb.com

และเมื่อเราไปถึง PARIS แล้ว การเดินทางที่นั่นค่อนข้างสะดวกสบายกับระบบขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟใต้ดิน หรือรถไฟธรรมดา รวมถึงรถเมล์ และรถราง ก็มีให้เลือกใช้บริการที่หลากหลายไม่แพ้โรงแรมที่พักเช่นกัน

ราคารถไฟใต้ดินนั้น ตั๋ว 1 ใบ จะอยู่ที่ราคาประมาณ 80 ส่วนรถไฟธรรมดาหรือ RER นั้นจะเริ่มต้นที่ 70 ถึง 450 บาทต่อเที่ยว (ขึ้นอยู่กับระยะทาง) แต่ที่บรรดานักท่องเที่ยวแนะนำกันก็คือให้ซื้อบัตร Navigo Decouverte ราคาประมาณ 900 บาทต่อสัปดาห์ สามารถเดินทางแบบไม่จำกัดเที่ยวทั้งรถไฟใต้ดิน รถไฟ RER หรือรถไฟธรรมดา รวมถึงรถบัส และรถราง ครอบคลุมการเดินทางไปสนามบิน และ LANDMARK ทั้งหมดของ PARIS

โดยเฉพาะอย่างยิ่งก็คือ “หอไอเฟล” เป็นสถานที่ซึ่งห้ามพลาดเด็ดขาดสำหรับคู่รักนักท่องเที่ยวและชาว tonkit360 ครับ