#บุพเพสันนิวาส ให้อะไรมากกว่าที่คิด

กลายเป็นปรากฏการณ์ที่ปลุกกระแสนิยมให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก สำหรับละครข้ามภพย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์ “บุพเพสันนิวาส” ที่ออกอากาศทุกคืนวันพุธ-พฤหัส เวลา 20.20 น. ทางช่องฟรีทีวี 3HD หมายเลข 33 ซึ่งขณะนี้บุพเพสันนิวาสก็โกอินเตอร์ดังไกลไปถึงเมืองจีน และเกาหลีใต้เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีแฟนละครไทยในต่างประเทศได้ทำการแปลซับไตเติลเป็นภาษาต่างๆ เพื่อให้ผู้ชมในชาตินั้นๆ ได้รับชมด้วย

ทั้งนี้บุพเพสันนิวาสยังสร้างความฟีเวอร์ ด้วยคำพูดยอดฮิตที่ใครหลายคนจะต้องคุ้นชินติดหูกันแล้วแน่นอน กับคำว่า “ออเจ้า” ที่หมายถึง เธอหรือเจ้านั่นเอง โดยในสมัยอยุธยาเอาไว้ใช้เรียกผู้ที่มีอายุน้อยกว่า และนอกจากความแปลกใหม่ของบทละครที่ทำให้มีผู้ชมติดตามอย่างล้นหลาม บุพเพสันนิวาสยังปลุกกระแสต่างๆ อีกมากมาย วันนี้ Tonkit360 จึงจะมาสรุปปรากฏการณ์บุพเพสันนิวาส ฟีเวอร์หนักมากให้ทุกคนได้ทราบกันว่าจริงๆ แล้วละครเรื่องนี้ให้อะไรกับคนดูบ้าง

1.ปลุกกระแสการท่องเที่ยวตามโบราณสถาน

ภาพจาก gangbeauty.com

บุพเพสันนิวาส เป็นละครข้ามภพย้อนยุคไปในสมัยอยุธยา โดยแต่ละตอนที่ออกอากาศจะมีฉากวัดประกอบมากมาย เช่น วัดไชยวัฒนาราม, วัดพุทไธศวรรย์, วัดพระคริสตประจักษ์ เกาะใหญ่, วัดพระราม เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ผู้ชมเกิดความอยากจะไปท่องเที่ยว ศึกษาประวัติศาสตร์ ตามโบราณสถานต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในละคร จนล่าสุดก็เกิดกระแสตามรอยละครบุพเพสันนิวาสขึ้นจริงๆ และแน่นอนว่าถือเป็นเรื่องที่ดีทั้งต่อการท่องเที่ยวรวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วยเช่นกัน

2.ทำให้คนดูหันมาสนใจและศึกษาประวัติศาสตร์ไทยมากขึ้น

ภาพจาก twitter.com

นอกจากบุพเพสันนิวาสจะเป็นละครข้ามภพย้อนยุคไปในสมัยอยุธยาแล้ว ละครเรื่องนี้ยังนำบุคคลสำคัญที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ไทยมาเป็นผู้ดำเนินเรื่องราวต่างๆ อีกด้วย ซึ่งถือเป็นทีเด็ดของละครเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ เพราะปกติแล้วในวงการละครไทยจะมีก็แต่ละครที่ปรุงแต่งบทขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ต่างจากบุพเพสันนิวาสที่ฉีกกรอบออกมาได้อย่างลงตัวและดึงผู้ชมไว้ได้แบบอยู่หมัด ซึ่งสามารถวัดได้จากยอดรีทวีตในทวิตเตอร์กับ #บุพเพสันนิวาส ที่มียอดรีทวีตทะลุหลักล้านเลยทีเดียว

3.ทำให้คนดูหันมาสนใจและหัดทำอาหารไทยโบราณ

ภาพจาก today.line.me

ในบทการะเกดหรือเกดสุรางค์ ที่แสดงโดย เบลล่า ราณี ซึ่งเป็นนักแสดงนำหลักและนางเอกของละครบุพเพสันนิวาส จะมีการทำอาหารต่างๆ เข้ามาประกอบการดำเนินเรื่อง เริ่มตั้งแต่การทำมะม่วงน้ำปลาหวาน สั่งตีกระทะหมูกระทะ กุ้งเผาน้ำจิ้มซีฟู้ด และล่าสุดกับเมนูหมูสร่ง อาหารไทยโบราณทำจากเนื้อหมูสับหมักด้วยเครื่องปรุงรส และนำมาปั้นเป็นลูกกลมเล็กพอดีคำแล้วพันด้วยหมี่ซั่ว จากนั้นก็นำไปทอดให้สุกเหลืองน่าทานกินคู่กับน้ำจิ้ม รวมไปถึงตอนที่ซูซี่ สุษิรา ซึ่งรับบทเป็น แม่มะลิ ตองกีมาร์ หรือท้าวทองกีบม้า ได้คิดค้นสูตรทำขนมหวานที่เราเรียกกันว่า ทองหยิบ ทองหยอด และฝอยทอง มาจนถึงปัจจุบันด้วย เรียกได้ว่าแต่ละฉากกระตุ้นต่อมน้ำลายคนดูให้สอไปตามๆ กันเลยทีเดียว

4.ปลุกกระแสการรณรงค์ใส่ชุดไทย

ภาพจาก kapook.com

ละครเรื่องนี้ไม่เพียงแต่ให้ความสนุกและความบันเทิงเท่านั้น แต่เป็นละครที่ใส่ใจในรายละเอียดของการแต่งกายอีกด้วย ทั้งเสื้อผ้า หน้าผม ของแต่ละตัวละครที่จะต้องนำเสนอออกมาให้ดี และตรงตามประวัติศาสตร์ให้มากที่สุด รวมถึงจะต้องดูสง่าสวยงาม นอกจากบุพเพสันนิวาสจะปลุกกระแสนิยมให้ผู้คนหลั่งใหลไปท่องเที่ยวตามโบราณสถานเชิงประวัติศาสตร์แล้ว ยังสร้างปรากฏการณ์ให้คนไทยหรือแม้แต่ชาวต่างชาติหันมาใส่ชุดไทยมากขึ้นจนน่าตกใจ โดยถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพิ่มไปในตัวด้วยอีกหนึ่งข้อ ซึ่งละครน้อยเรื่องนักที่จะทำได้เช่นนี้

5.ทำให้คนดูหันมาสนใจหนังสือประวัติศาสตร์มากขึ้น

บุพเพสันนิวาสดัดแปลงมาจากนวนิยายที่เขียนโดย รอมแพง หรือ จันทร์ยวีร์ สมปรีดา ซึ่งขณะนี้หนังสือก็ขายดิบขายดีจนถึงขั้นต้องสั่งจองกันเลยทีเดียว และนอกจากนิยายต้นฉบับจะได้รับความสนใจจากคนดูบุพเพสันนิวาสและคนที่รักการอ่านแล้ว ก็ยังมีหนังสือที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ในสมัยอยุธยาอีกมากมาย เช่น จดหมายลาลูแบร์, เรื่องเล่าและตำนาน อยุธยา อาณาจักรสยามสมัยรุ่งเรือง, ผู้หญิงอยุธยา, อยุธยาที่ไม่คุ้นเคย, จินดามณี เป็นต้น