เลิกได้หรือยัง ความเชื่อ “โยนเหรียญ” เพื่อ “อายุที่ยืนยาว” เหมือนเต่า

เมื่อเดือนที่แล้ว ข่าวเต่าตนุที่ถูกทิ้งไว้ในบ่อเลี้ยง ซึ่งปิดกิจการไปแล้วในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก เนื่องจากเต่าตัวนี้กินเหรียญเข้าไปจำนวนมาก จนมีอาการป่วย จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาชีวิตไว้ เพราะไม่เช่นนั้นจะเกิดการอุดตันจนไม่สามารถกินอาหารและขับถ่ายได้

ล่าสุด เต่าเพศเมีย อายุประมาณ 25 ปีตัวนี้ ซึ่งถูกตั้งชื่อว่า “ออมสิน” ได้รับการผ่าตัดเป็นผลสำเร็จแล้ว โดยทีมสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ และคณะสัตวแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ต้องใช้เวลาผ่าตัดนานเกือบ 7 ชั่วโมง ในการนำเหรียญออกจากท้อง


จากการผ่าตัดพบว่ามีเหรียญกษาปณ์อยู่ในท้องเจ้าออมสินมากถึง 915 เหรียญ น้ำหนักรวมถึง 5 กิโลกรัม ซึ่งมีทั้งเหรียญบาทและเหรียญจากสกุลอื่นๆ นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่าบางเหรียญมีการหลอมรวมกันแล้ว โดยหลังจากนี้ เต่าออมสินต้องงดอาหารเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ และคาดว่าต้องใช้เวลาพักฟื้นอีกราวครึ่งปี กว่าจะกลับไปว่ายน้ำได้อีกครั้ง

ที่มาของ “เหรียญ” ซึ่งเกือบจะคร่าชีวิตของเต่าทะเล ล้วนมาจากฝีมือของมนุษย์ทั้งสิ้น เพียงเพราะ “ความเชื่อ” ที่ว่าการโยนเหรียญลงไปในบ่อ จะช่วยให้ตนเองมีอายุที่ยืนยาวได้เหมือนเต่า แต่กลับลืมคิดไปว่า นั่นอาจทำให้เต่าที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มีอายุยืนที่สุดในโลก ต้องจบชีวิตก่อนอายุขัยของมัน

อย่างไรก็ตาม คงต้องยอมรับว่า “ความเชื่อ” หลายอย่าง เป็นสิ่งที่บอกต่อกันมาตั้งแต่รุ่นของปู่ย่าตายาย การจะลบความเชื่อใดๆ ที่เคยยึดถือกันมา ก็ดูจะทำได้ยาก แต่หากไม่อยากให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นอีก คงต้องปรับทัศนคติกันเสียใหม่

เพราะเต่าตนุ เป็นสัตว์ที่กินพืชเป็นหลักจำพวกหญ้าทะเล สาหร่ายทะเล รวมถึงกินแมงกะพรุนและปลาตัวเล็กเท่านั้น ซึ่งตามอายุขัย พวกมันสามารถอยู่ได้ถึง 80 ปี และเต่าตนุก็เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ด้วย

หากความเชื่อเปลี่ยนกันได้ยาก ก็คงต้องปลูกฝังความเชื่อใหม่เข้าไปแทน เพราะ“ถ้าอยากอายุยืนเหมือนเต่า” ก็ไม่ควรฆ่ามันให้ต้อง “อายุสั้น” ก่อนเวลาอันควร!”