“จอนนี่ มาร์ช” เชฟสุดแซ่บ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ “แมนฯ ซิตี้”

ภาพจาก IG: chef_jonnymarsh

นอกจากการฝึกซ้อม แท็คติกของโค้ช และนักเตะที่เก่งกาจแล้ว  อีกหนึ่งปัจจัยสู่ความสำเร็จในวงการกีฬา ก็ขึ้นอยู่กับวิทยาศาสตร์การกีฬา และทีมโภชนาการที่ดูแลนักกีฬาด้วยเช่นกัน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก เป็นสโมสรฟุตบอลที่เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้เช่นกัน จึงลงทุนจ้างเชฟที่เคยผ่านการฝึกระดับมิชลินสตาร์มาแล้วอย่าง จอนนี่ มาร์ช เข้ามาช่วยดูแลเรื่องอาหารการกินให้กับ 3 นักเตะตัวหลักของทีม ทั้ง เควิน เดอบรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน และ ไคล์ วอลก์เกอร์ จน “เรือใบสีฟ้า” ออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ได้อย่างสวยสดงดงาม

ส่วนเคล็ดลับและเมนูเด็ดๆ ที่เชฟหนุ่มวัย 26 ปี ดูแลนักเตะมีอะไรบ้างนั้น เรามาติดตามกันเลย

ปรุงอาหารถึงบ้าน หรือทำส่งตามสั่ง

จอนนี่ มาร์ช (ซ้าย) – เควิน เดอบรอยน์ (ขวา) ภากจาก Mirror.co.uk

มาร์ชเผยว่า ความต้องการของนักฟุตบอลแต่ละคนนั้นจะแตกต่างกันไป เช่น เดอบรอยน์มักจะให้เขาทำอาหารมาส่งที่บ้านสองครั้งต่อสัปดาห์ แต่หากเป็นกุนโดกัน กับวอลก์เกอร์ เชฟหนุ่มก็จะไปทำอาหารสดๆ กันที่บ้านของทั้งสองเป็นประจำ จนบางทีมาร์ชยังเคยคิดกับตัวเองว่า “ผมรู้สึกเหมือนเป็นแม่ของพวกเขาเลย!”

เชฟหนุ่มจากเมืองแมนเชสเตอร์ เล่าด้วยว่า บรรยากาศที่บ้านของกุนโดกันนั้นไม่ได้มีอะไรพิเศษมาก ส่วนใหญ่มิดฟิลด์รายนี้จะนั่งเล่นมือถือ ฟังเพลง พูดคุยกับเพื่อนๆ  แถมมักจะชวนให้มาร์ชอยู่รับประทานอาหารกับเขาด้วยเสมอๆ

เมนูอาหารขึ้นอยู่กับตัวนักเตะ

อิลคาย กุนโดกัน (ซ้าย) กับ จอนนี่ มาร์ช (ขวา) ภากจาก Mirror.co.uk

นอกจากรับหน้าที่ทำอาหารแล้ว มาร์ชยังร่วมมือกับทีมนักโภชนาการของแมนฯซิตี้ในการวางแผนเกี่ยวกับอาหารการกินของนักเตะด้วย เช่น ตอนที่กุนโดกันบาดเจ็บต้องพักยาวถึง 8 เดือน นักโภชนาการของทีมแนะนำให้มาร์ชทำอาหารที่มีขิง กระเทียม และขมิ้นเยอะๆ เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายระหว่างพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บ จนในที่สุดก็ฟิตกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ส่วนอาหารของวอลเกอร์นั้นจะเน้นไปที่การเพิ่มพละกำลังเป็นหลัก ซึ่งจะแตกต่างกับอาหารของกุนโดกันอย่างชัดเจน

แต่ถ้าอาทิตย์ไหน มีเกมกลางสัปดาห์ มาร์ชกับทีมงานจะต้องเตรียมเมนูที่ช่วยเร่งการฟื้นฟูร่างกายของนักเตะให้เร็วที่สุด เพราะพวกเขาจะมีเวลาพักเพียงไม่กี่วันก่อนจะต้องลงแข่งอีกครั้ง อาทิ ช่วงที่มีโปรแกรมยูฟ่่า แชมเปี้ยนส์ลีก นักเตะก็จะได้พักกันแค่ 3-4 วันเท่านั้น

เคล็ดลับและสูตรเด็ดแบบมิชลิน

ภาพจาก IG: chef_jonnymarsh

มาร์ชเคยผ่านการฝึกฝีมือกับ เรย์มงด์ บล็องก์ เชฟชื่อดังระดับมิชลินสตาร์ชาวฝรั่งเศสมาก่อน จึงสามารถทำอาหารได้หลากหลายชนิด ซึ่งรวมถึงอาหารญี่ปุ่น อาหารเม็กซิกัน เช่น ทาโก้ไก่บาร์บีคิว ไปจนถึงอาหารไทย ที่เชฟหนุ่มเคยทำข้าวซอยมาแล้ว แถมถ่ายภาพลงในไอจีส่วนตัวด้วย

สำหรับกฎเหล็กในการทำอาหารให้นักเตะรับประทานนั้น เชฟมาร์ชจะเลี่ยงการใช้น้ำมัน และจะใช้เลม่อนกับซีอิ๊วขาวเพิ่มรสชาติอาหารแทน รวมถึงมักจะใช้เทคนิคซูส์วีด (Sous Vide) ซึ่งเป็นวิธีปรุงอาหารที่จะช่วยกักเก็บสารอาหารทั้งหมดให้อยู่ในวัตถุดิบ ด้วยการแพ็ควัตถุดิบลงไปในถุงสูญญากาศและนำไปแช่ในน้ำที่สามารถปรับอุณหภูมิได้

และนี่คือหนึ่งในเบื้องหลังความสำเร็จของทีมแมนฯ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้ ที่น้อยคนนักจะได้รู้!