คัมภีร์ความประพฤติ ทำตัวอย่างไรเมื่อ “ติดหนี้เพื่อนรัก”

การขาดสภาพคล่องทางการเงิน หรือประสบกับปัญหาทางการเงินชั่วคราว เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้กับใครก็ได้ เพราะในชีวิตจริง คนเรามีหลากหลายเรื่องที่จำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่แบบฉุกเฉิน นั่นทำให้ไม่สามารถบริหารจัดการเงินของตนเองได้คล่องตัวนัก หรือบางคนก็บริหารจัดการการเงินผิด ใช้จ่ายเกินตัว ฟุ่มเฟือยเกินจำเป็น จนเข้าขั้นช็อต เมื่อพยายามแก้ปัญหาด้วยตัวเองมาจนถึงทางตัน สถานการณ์เริ่มคับขัน หลายคนก็พยายามมองหาแหล่งเงินทุนที่รวดเร็ว ไว้ใจได้ และ (อาจ) ปราศจากดอกเบี้ย นั่นทำให้คนแรก ๆ ที่นึกถึงก็มักจะเป็น “เพื่อน” ที่รักและสนิทสนมกันพอสมควร รวมถึงใจดีมากพอที่กล้ายิบยื่นความช่วยเหลือเรื่องเงิน

จริง ๆ แล้วทุกคนรู้ดีว่าเรื่องเงินเรื่องทองเป็นเรื่องที่บ่อนทำลายความสัมพันธ์ทุกรูปแบบได้ง่ายที่สุด แม้แต่พี่น้องพ่อแม่เดียวกันหรือญาติสนิทใกล้ชิดก็แตกหักไม่เผาผีกันเพราะเรื่องเงินมาแล้ว ดังนั้น เมื่อมีปัญหาการเงินและตัดสินใจยืมเพื่อน มันดูเป็นทางออกที่ง่ายที่สุดก็จริง เนื่องจากไม่มีเงื่อนไขที่เข้มงวดเท่ากับการกู้ยืมธนาคาร ไม่มีกำหนดการจ่ายหนี้แบบเป๊ะ ๆ ภายในกี่วัน ที่เมื่อผิดนัดชำระอาจมีผลต่อเครดิตและกฎหมาย กับเพื่อน ส่วนใหญ่จะยืดหยุ่นได้ตามสะดวก และมักจะไม่มีดอกเบี้ยด้วย แต่นี่ก็เป็นจุดวัดใจที่อันตรายที่สุดเหมือนกัน เพราะมันหมายถึงการนำเอาความสัมพันธ์อันดีมาวางเดิมพัน เมื่อมีเรื่องเงินทองเข้ามาเกี่ยวข้อง มิตรภาพที่เคยสวยงามก็พร้อมจะเปราะบางลงทันที

การยืมเงินเพื่อน เปรียบเสมือนการ “เดิมพันมิตรภาพ” ด้วยความเสี่ยงระดับสูงสุด หลายคนเสียเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตไปเพราะเรื่องเงิน เพราะฉะนั้น อย่าแลกมิตรภาพกับเงินที่เป็นหนี้อยู่น้อยนิด มันไม่คุ้มค่า ควรรักษาน้ำใจกับเพื่อนไว้ให้ดีที่สุด เพราะในวันที่เราล้มจริง ๆ ธนาคารอาจไม่ช่วยคุณ แต่เพื่อนนี่แหละที่จะช่วยฉุดคุณขึ้นมา เมื่ออยู่ในสถานะลูกหนี้กับเพื่อนรัก ก็ควรมีสามัญสำนึกที่ลูกหนี้พึงมีต่อเจ้าหนี้ ในฐานะที่ทำสัญญายืมเงินด้วยใจและไมตรี เป็นลูกหนี้เกรด A+ ที่ไม่ทำให้เพื่อนรักผู้เป็นเจ้าหนี้ต้องหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ว่าตอนมายืมเงินฉันล่ะจะแทบกราบกราน แต่ตอนจะทวงคืน ฉันนี่แหละที่ต้องกราบมัน ขอให้มันคืนเงิน!

อย่าใช้ชีวิตหรูหรากว่าเจ้าหนี้!

นี่เป็นมารยาทและกฏเหล็กที่ต้องจำใส่ใจว่า “ตราบใดที่ยังไม่คืนเงินเพื่อน อย่าเพิ่งทำตัวเป็นเศรษฐี” อย่าใช้ชีวิตหรูหราอู้ฟู่เกินหนาเกินตาเจ้าหนี้เด็ดขาด ไม่ว่าเงินนั้นจะเป็นเงินตัวเองหรือเงินที่ยืมมาจากเพื่อนก็ตาม เพราะมันจะทำให้เพื่อนนึกสงสัยว่าคุณมีไลฟ์สไตล์กินหรูอยู่แพงแบบนั้น ทำไมมันไม่จ่ายหนี้คืนซะที (วะ) ในมุมเจ้าหนี้เขาจะรู้สึกเสียความรู้สึกมาก ๆ ตอนจะยืมล่ะแทบกราบ พอให้ยืมแล้วเฉิดฉายเฉย! ดังนั้น ในช่วงที่ยังเป็นหนี้เพื่อนอยู่ คุณควรจะเก็บเนื้อเก็บตัว ลดวิถีชีวิตฟุ่มเฟือย งดใช้จ่ายเพื่อเข้าสังคมสักระยะ แสดงความจริงใจว่ากำลังเก็บเงินคืนเพื่อนอยู่นะ

อย่าเงียบ อย่าหาย อย่าทำตัวเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

พอได้เงินไปแล้วและใกล้ถึงวันที่ต้องจ่ายหนี้ อย่าหาทำนะ! ประเภทอยู่ดี ๆ ก็หายไลน์ไม่อ่าน ไม่ตอบ ทำตัวเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลย บางทีเรื่องเงินมันอาจไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่มันคือเรื่องของความจริงใจ ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้เพื่อนจะขึ้นบัญชีดำคุณไปตลอดชีวิต ในเมื่อเอาเงินเขาไปหมุนแล้ว การสื่อสารเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากใกล้ถึงวันที่ต้องคืนเงินแล้วยังไม่มีจะคืน ให้รีบทักไปบอกก่อนที่เพื่อนจะทักมาทวง อธิบายเหตุผลไปตรง ๆ ว่าติดขัดอะไร และระบุวันที่จะคืนเงินอีกครั้ง ย้ำนะว่าพูดความจริง ไม่ต้องละคร อย่าดราม่าเรียกร้องความเห็นใจ เพราะมันไม่ช่วยอะไร

ต้องระบุวันที่จะคืนหนี้ให้ชัดเจน และหลีกเลี่ยงการเลื่อนนัดไปเรื่อย

การมีเดดไลน์ว่าจะจ่ายหนี้คืนเพื่อนเมื่อไร จะทำให้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย แต่ก็ต้องไม่ใช่เดดไลน์ที่พูดส่งเดช พูดให้เพื่อนใจอ่อนให้ยืม แต่พอถึงวันที่ต้องคืนก็มาขอเลื่อนนัดไปเรื่อย ๆ แบบนี้ไม่เอา! พูดอะไรออกมาแล้วต้องรักษาคำพูด ก่อนจะยืมเงินเพื่อน ลองคำนวณสถานการณ์ตัวเองก่อนว่าจ่ายคืนได้เมื่อไร หัวใจสำคัญคือความชัดเจน ระบุไปเลยว่าจะคืนวันที่เท่าไร หรือจะแบ่งจ่ายกี่งวด งวดละเท่าไร มันแสดงให้เห็นถึงความจริงใจว่าคืนแน่นอน ที่ยืมก็เพราะมันจำเป็น และจะไม่ยอมเสียเพื่อนดี ๆ เพราะเรื่องเงินเด็ดขาด อีกอย่าง เพื่อนจะได้วางแผนการเงินของเขาถูกด้วย

ทยอยคืนตามกำลัง ไม่ว่ายังไงก็ “ต้องคืน”

อีกพฤติกรรมที่ “อย่าหาทำ” เมื่อติดหนี้เพื่อนรักก็คือ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ถ้าไม่มีก้อนใหญ่จะคืน ให้ขอทยอยจ่ายเป็นก้อนเล็ก ๆ แทน นี่เป็นการแสดงเจตนาที่บริสุทธิ์ใจว่ายังไงก็คืนแน่ แต่ตอนนี้กำลังช็อต ขอทยอยจ่ายเท่าที่มี จะผ่อนจ่ายเท่าไรก็ระบุให้ชัด ไม่ใช่ว่าไม่มีก้อนใหญ่ก็ไม่จ่ายเลยสักบาท ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ๆ เอาแต่อ้างว่าไม่มีทุกครั้งที่โดนทวง การจ่ายแบบหยุมหยิมอย่างน้อยก็ยังทำให้เพื่อนอุ่นใจว่าคุณยังไม่หนี ยังจำได้ และยังพยายามจ่ายคืน หากคืนครบแล้วก็อย่าเป็นหนี้เพื่อนรอบสอง เพื่อนไม่ใช่ธนาคาร เขาก็เสียโอกาสทางการเงินของเขาเหมือนกัน

อย่าเหยียดหยามมิตรภาพของเพื่อนด้วยเงินไม่กี่บาท

การยืมเงินไม่ควรเป็นจุดเริ่มต้นในการบ่อนทำลายความสัมพันธ์ จริง ๆ มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ที่คนเราย่อมมีช่วงที่เงินไม่พอใช้ แต่เพื่อนไม่ใช่ธนาคาร ส่วนใหญ่ให้ยืมโดยไม่มีดอกเบี้ย แต่ค่าความเสี่ยงก็สูงเช่นกัน เพราะฉะนั้น อย่าแสดงอาการโกรธหรือไม่พอใจเมื่อโดนทวง ให้ระลึกอยู่เสมอว่าการที่เพื่อนให้ยืม เขาก็เสียโอกาสการใช้เงินของเขา แสดงความขอบคุณที่เพื่อนกล้าให้ความช่วยเหลือเรื่องเงิน ที่สำคัญคือรักษาน้ำใจและมิตรภาพของเพื่อนคนนี้ไว้ให้มาก ๆ เลี้ยงข้าวเขาสักมื้อ ซื้อขนมติดไม้ติดมือไปฝากบ้าง และอย่าทำตัวเหมือนเป็นผู้มีพระคุณที่อุตส่าห์เอาเงินมาคืน