เพลงจากยุค 90 ยังกลับมาฮิตได้ พาศิลปินยุคนั้นรวมตัวกลับขึ้นคอนเสิร์ตได้ หลายบทเพลงจากยุคนั้นกลับมาฮิตติดลมบนอีกครั้ง แล้วทำไม “รถยนต์” จากยุค 90 จะกลับมาเป็นที่บ้างนิยมไม่ได้
ที่ผ่านมา การนำรถเก่ามาปัดฝุ่นทำใหม่เหมือนรถในยุคเดิมมากที่สุด คือเรื่องปกติที่คนรักรถยุคเก่าทำกัน อู่ต่าง ๆ ทั่วฟ้าเมืองไทยสามารถเนรมิตรรถเก่าหรือที่เรียกกันว่า Restore กลับมาได้เป็นเรื่องปกติ แต่เท่าที่จำได้ เราไม่เคยเห็นค่ายรถนำรถยุคเก่ามาปัดฝุ่นใส่เทคโนโลยียุคปัจจุบันเข้าไปให้เห็นสักเท่าไรนะครับ
ผมกำลังจะพูดถึงรถที่เป็นพระเอกในงานมอเตอร์โชว์ 2025 ครั้งนี้ (ในมุมมองของผม) นั่นก็คือ อีซูซุ ดราก้อนแม็กซ์ (Isuzu DRAGON MAX) รถกระบะที่เชื่อว่าผูกพันกับคนไทยมายาวนาน บางบ้านยังใช้มาถึงทุกวันนี้ บางบ้านไม่มีแต่ก็คงต้องเห็นผ่านตาบนถนนมาบ้าง เพราะนี่คือ “อีซูซุ มังกรทอง” ในตำนานนั่นเอง
งานนี้อีซูซุใช้ข้อความโปรโมตว่า ISUZU Restomod TFR ปี 1988 การกลับมาของรถปิกอัปในตำนาน แว่บแรกที่ผมเห็นถึงกับอุทานในใจว่า แจ่มโคตร! และนึกเอาเองว่าถ้าทำออกมาขายในบ้านเรา ยอดขายพุ่งกระฉูดไม่แพ้รุ่นปัจจุบันแน่นอน แต่ความหวังนั้นก็พังทลาย เพราะอีซูซุบอกว่าทำออกมาคันเดียวในโลก!
การบูรณะรถยนต์จากปี 1988 ครั้งนี้ ไม่ได้ใช้คำว่า Restore แต่เขาใช้คำว่า Restomod ซึ่งมาจาก Restoration + Modification นั่นหมายถึงนอกจากจะบูรณะรถเก่าให้กลับไปสู่สภาพเดิมมากที่สุดแล้ว ยังอัปเกรดชิ้นส่วนอะไหล่ เครื่องยนต์ และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ทันสมัยเพิ่มเข้าไปด้วย
นี่คือสิ่งที่ผมอยากให้ค่ายรถทำมานานแล้ว เพราะที่ผ่านมาเราจะเห็นการออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่กันในทุก ๆ ปี ซึ่งเรื่องของดีไซน์บางทีก็มีการย้อนกลับไปหยิบจับของจากยุคเก่ามาผสมผสานเข้าไป แต่การที่จะใช้โมเดลเดิมจากยุคเก่าทั้งหมดแล้วใส่เทคโนโลยีใหม่เข้าไป ค่ายรถยังไม่ค่อยทำออกมาเท่าไร เพราะต้องใช้งบพอสมควรครับ
เท่าที่รู้มา ของเดิมที่มาจาก TFR ปี 1988 มีมาแค่แชสซีส์เดิม นอกนั้นทำใหม่หมด แต่เป็นการทำใหม่โดยคงเสน่ห์ความเป็นรถจากปลายยุค 80 ต่อ 90 ได้อย่างลงตัวและแนบเนียน เอาเป็นว่าจะให้บรรยายเป็นภาพคงลำบาก แต่เชื่อว่าคุณผู้อ่านคงจะเสิร์ชดูได้ไม่ยากจากโลกออนไลน์
สิ่งที่ผมชอบในรถคันนี้ นอกจากดีไซน์ภายนอกที่เรียบง่ายแต่คลาสสิกแล้ว รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ยังคงถูกเก็บไว้ อาทิ บานกระจกหูช้าง ที่ในยุกก่อนเอาไว้ห้อยถุงน้ำอัดลม รวมไปถึงคอนโซลหน้าที่ทำมาใหม่เป็นแบบหนังกลับที่อยู่ในรถแข่ง รวมถึงชุดควบคุมแบบปุ่มกดเรียงกันที่ขนาบแผงเรือนไมล์อันเป็นเอกลักษณ์ของอีซูซุในยุคนั้น
ทว่าสิ่งที่ผมชอบที่สุดคือการนำเอาเทคโนโลยีเครื่องยนต์ยุค 2025 ดีเซล 2.2 Ddi MAXFORCE ปรับจูนใหม่ 220 แรงม้า แรงบิด 550 นิวตันเมตร พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 Speed เข้าไปแทนที่ของเดิมที่เป็นดีเซล Direct Injection รหัส 4JA1 ขนาด 2.5 ลิตร 87 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 172 นิวตันเมตร
นี่คือการแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมที่ค่ายรถยนต์ทั่วโลกเดินทางจาก 1988 มาถึง 2025 ที่เรียกว่า Engine downsizing หรือการพัฒนาให้เครื่องยนต์มีปริมาตรกระบอกสูบลดลง กินน้ำมันน้อยลง แต่คงหรือเพิ่มสมรรถนะให้ดีขึ้นจากเดิม นั่นทำให้เราได้เห็นเครื่องยนต์เล็กลงแต่แรงม้าเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตัว
งานนี้ “ฟีดแบ็ก” พุ่งกระฉูดอย่างที่ผมคาดไว้ ทุกเสียงตอบรับอยากให้นำคันนี้ออกมาขาย แต่รู้หรือไม่ว่างบประมาณที่อีซูซุจัดการ Restomod อีซูซุมังกรทองกลับมาเกิดอีกครั้ง แม้จะไม่มีตัวเลขเป๊ะ ๆ เปิดเผยออกมา แต่มีหลายล้านบาทแน่ ๆ และคงเป็นเรื่องยากที่จะปัดฝุ่นออกมาทำตลาดในราคาปกติ
อย่างไรก็ดี นี่คือแนวทางที่น่าสนใจ หากลดงบจากของบางอย่างที่ใส่เข้าไป และทำราคาในระดับที่พอรับได้ มีคนซื้อแน่นอน แถมยังเป็นแนวทางให้กับค่ายรถอื่น ๆ ได้พิจารณานำรถรุ่นดังในอดีตออกมาทำแบบนี้บ้างก็ได้ ใครจะไปรู้ครับ