สถิติ “รัชชี่” มีโอกาสถูกทำลาย?

ตัวเลขการยิงประตูสูงสุดตลอดกาลของดาวยิงหน้าติดหนวด เอียน รัช ที่เคยทำให้สโมสรลิเวอร์พูล หลายคนไม่เชื่อว่ามันจะถูกทำลาย แต่ถึงเวลานี้ใช่ว่าจะเป็นเรื่องเพ้อฝัน แม้จะยังยาก แต่โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ “เทพเจ้าอียิปต์” ก็ทำไปแล้วถึง 204 ประตู หรือประมาณ 2 ใน 3 ของสถิตินั้น

“รัชชี่” นั้นใช้เวลา 15 ฤดูกาลที่อยู่กับ “หงส์แดง” โดยแบ่งเป็นสองภาคคือ 1980-1987 และ 1988-1996 สร้างตำนานให้กับสโมสรซัดไป 346 ประตูจากผลงานรวมทุกรายการ จาก 660 นัด ถือเป็นกองหน้ากระหายสกอร์มากที่สุดในยุคของเขา โดยมี เคนนี่ ดัลกลิช เป็นคู่หูคอยเปิดป้อนถวายพานให้ และต่อมายุค 90 ก็มี ดีน ซอนเดอร์, ไนเจล คลัฟ และร็อบบี้ ฟาวเล่อร์ สลับกันมาเล่นด้วยตามยุคตามสมัย

ถือเป็นสถิติที่น่ายกย่องมาก เฉลี่ยแล้วกองหน้าทีมชาติเวลส์ยิงเฉลี่ยฤดูกาลละ 23 ลูกเศษเลยทีเดียว ที่สำคัญน่ายกย่องเพราะเป็นการปิดสกอร์ในจังหวะโอเพ่นเพลย์ล้วน ๆ แทบจะไม่มีสกอร์การยิงจุดโทษเข้ามาเกี่ยวข้องเหมือนโม ซาลาห์ เพราะรัช ไม่ใช่เป็นมือสังหารประจำทีม

ส่วนตำนานการส่องประตูตลอดกาลระดับรองลงมาในถิ่นแอนฟิลด์อันดับสองคือ โรเจอร์ ฮันท์ อยู่ที่ตัวเลข 285, กอร์ดอน ฮ็อดจ์สัน 241 อันดับ 4 คือบิลลี่ ลิดเดลล์ 228 ส่วนอับดับ 5 ก็คือโม ซาลาห์ นั่นเอง

“บังโม” สะสมสกอร์อย่างต่อเนื่อง นับจากตัวเองสาวเท้าเข้าสู่ถิ่นแอนฟิลด์เมื่อปี 2017 แบบไม่มีใครคาดคิด เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าเขาคือปีกขวาที่มีความเร็วจัดตั้งแต่อยู่กับ เชลซี และฟิออเรนติน่า รวมทั้ง โรม่า 

แต่พอมาอยู่กับเจ้านายใหม่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งครีเอตบทบาทให้ใหม่ เป็นตัวริมเส้นที่สามารถหุบเข้ามาจบสกอร์ได้เลย จากการชงให้ของฟอลส์ไนน์อย่าง โรเบอร์โต้ ฟีร์มีโน่ แค่ซีซันแรกเขาก็ทำให้ต้นสังกัดใหม่ได้ถึง 44 เม็ด โดยเป็นประตูในพรีเมียร์ลีกถึง 32 ตุง สูงสุดในลีกเท่ากับเอียน รัช เคยทำได้เมื่อปี 1984

ต่อมา ซาลาห์ ยังทำลายสถิติเป็นนักฟุตบอลที่ยิง 50 ประตูให้ ลิเวอร์พูลได้เร็วที่สุดจากเพียง 65 เกม (2018-19) รวมทั้งเป็นดาวยิงที่ทำได้ 50 ประตูในพรีเมียร์ลีกเร็วที่สุดด้วย (69 เกม เมื่อ 2018-19)

ถึงเวลานี้ “บังโม” อยู่กับลิเวอร์พูล มาเพียง 6 ปีครึ่ง แต่ซัดไปแล้วถึง 204 ลูก จาก 334 เกมที่ลงสนาม เฉลี่ยต่อฤดูกาลนั้นทำได้ถึง 31 ประตูเศษ ดังนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ต้องมีตัวเลขอื่น ๆ อีกมากมายที่เขาจะสร้างให้เป็นประวัติศาสตร์ของสโมสร

ด้วยสภาพร่างกายที่ยังฟิตปั๋ง แม้จะยืนอยู่บนวัย 31 ปีเข้าไปแล้ว แต่หากเขายังเล่นอยู่กับ ลิเวอร์พูล ต่อไปอีกสัก 3-4 ปี ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าสถิติของ เอียน รัช จะถูก “คิง ออฟ อียิปต์” ผู้นี้ท้าทายหรือไม่ ตามค่าเฉลี่ยและผลงานคงที่แล้ว ถ้าอยู่เล่นจนถึงอายุ 35 ละก็มีลุ้น หรืออย่างแย่ที่สุดสถิติอันดับ 3-4 ของ กอร์ดอน ฮ็อดจ์สัน และบิลลี่ ลิดเดลล์ ก็คงไม่น่าจะรอดพ้นเงื้อมมือ

ทั้งนี้และทั้งนั้นตัวแปรสำคัญน่าจะอยู่ที่การย้ายหรือไม่ย้ายไปซาอุฯ ของตัวนักเตะ ซึ่งหากมองตัวอย่างของอดีตเพื่อนร่วมทีมที่เสี่ยงไปหากินก่อนหน้าแล้วล้มเหลวไม่เป็นท่าอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน หรือฟาบินโญ่ ซาลาห์ คงจะต้องคิดหนักแน่กับการย้ายไปหากินในตะวันออกกลาง เนื่องจากคุณภาพของลีกที่นั่นยังห่างไกลจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 

สุดท้ายสู้อยู่เป็นขวัญใจแฟนบอลหงส์ แถมลุ้นสร้างสถิติเป็นตำนานสโมสร รวมทั้งกวาดถ้วยรางวัลในช่วงท้ายของอาชีพค้าแข้ง

น่าจะเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย จริงมั้ยโยม?.