พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ภาคธุรกิจต้องเพิ่ม 3 สกิลด้านความยั่งยืน


วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล หรือซีเอ็มเอ็มยู (CMMU) ฉายแนวโน้มเทรนด์การทำธุรกิจเปลี่ยนแปลงตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปทุกวัน ทำให้ประเด็นด้าน “ความยั่งยืน (Sustainability)” กลายเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกองค์กรไม่ควรมองข้าม

ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกต่างก็ให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าวมากขึ้น พร้อมแนะแนวทางทำธุรกิจแบบ ESG (Environment, Social, Governance) มากขึ้น เพื่อซื้อใจนักลงทุน โดย CMMU พร้อมผลักดันเรื่อง “ความยั่งยืน (Sustainability)” และ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development)” ในทุกมิติ ส่งคอร์สพัฒนาบุคลากรในทุกองค์กร เน้นย้ำต้องมี 3 ทักษะสำคัญ ได้แก่ มายด์เซ็ต (Mindset) สกิลเซ็ต (Skillset) และทูลเซ็ต (Toolset) เพื่อร่วมกันพาองค์กรไปสู่ความยั่งยืนทั้ง 17 เป้าหมาย SDGs

ผศ.ดร.สุภรักษ์ สุริยันเกียรติแก้ว ผู้ช่วยคณบดีหน่วยธุรกิจและสังคมสัมพันธ์ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า เทรนด์การทำธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก โดยผู้บริโภคมีความใส่ใจในประเด็นของสิ่งแวดล้อม สังคม และการบริหารงานอย่างมีธรรมาภิบาลมากขึ้น ทำให้ประเด็นด้านความยั่งยืนเป็นเรื่องที่สำคัญและจะยิ่งมีบทบาทมากขึ้นต่อทั้งองค์กร ผู้บริหารระดับสูง และบุคลากรในทุก ๆ ภาคธุรกิจ

ขณะเดียวกันนักลงทุนทั่วโลกก็ให้ความสำคัญกับแนวทางทำธุรกิจแบบ ESG (Environment, Social, Governance) มากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อประกอบการพิจารณาในการลงทุน นอกจากนี้ จากการดำเนินงานในด้านบริหารและพัฒนากลยุทธ์การตลาดพบว่า การจัดการด้านความยั่งยืนนั้นต้องเพิ่มอีก 3 ทักษะสำคัญ คือ มายด์เซ็ต (Mindset) สกิลเซ็ต (Skillset) และทูลเซ็ต (Toolset) เพื่อที่จะเป็นเครื่องมือในการก้าวไปสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในอนาคต

ผศ.ดร.สุภรักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยเหตุนี้ CMMU จึงมีความพยายามเป็นอย่างมากที่จะผลักดันเรื่อง “ความยั่งยืน (Sustainability)” และ “การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development)” ในแง่มุมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น มุม E – Environment ที่องค์กรต้องใช้ทรัพยากรที่มาจากธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการทำลายธรรมชาติ มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก การปล่อยมลพิษ เป็นต้น

มุม S – Social องค์กรต้องมีความรู้ความเข้าใจสภาพสังคมและพิจารณาตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ เช่น จีดีพี (GDP) ว่าตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืนอย่างแท้จริงหรือไม่ เนื่องด้วยการพัฒนาสังคม (Social Development) เป็นเรื่องที่ต้องใช้ทรัพยากรอย่างมากในการพัฒนา

และมุม G – Governance การดำเนินธุรกิจที่โปร่งใส่ สามารถตรวจสอบได้ รวมถึงต้องมีความร่วมมือกันจากทุกภาคส่วนในการพัฒนาองค์กร โดยทั้งหมดนี้เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ทั้งหมด 17 เป้าหมาย

ด้าน ผศ.ดร.ตฤณ ธนานุศักดิ์ หัวหน้าสาขา Healthcare Wellness Management วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า นอกเหนือจากการนำ ESG มาใช้ในองค์กร ไม่ใช่เพียงการนำมาใช้ในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาปรับใช้ได้ในกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยเฉพาะการนำมาใช้ในองค์กรที่ดำเนินการโดยคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจและตระหนักในด้านความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นการนำ ESG มาปรับใช้ในองค์กรไม่ว่าจะขนาดใดก็ตามจะช่วยในการสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้

และยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร เพราะหากองค์กรใดก็ตามมุ่งเน้นแต่ผลกำไรโดยไม่ใส่ใจสังคม อาจถูกมองข้ามจากผู้บริโภคและนักลงทุนได้ไม่ยาก ดังนั้นสถานศึกษาเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สามารถบ่มเพาะความรู้และความเข้าใจในเรื่องของความยั่งยืนได้เป็นอย่างดี วิทยาลัยฯ จึงให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก

โดยมีแผนในการนำประเด็นด้านความยั่งยืนเข้าไปสอดแทรกในทุกรายวิชาเรียนของ CMMU รวมถึงสอดแทรกผ่านกรณีศึกษาในชั้นเรียนให้มากขึ้น เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจการบริหารและพัฒนาธุรกิจอย่างมีความยั่งยืน โดยสถานศึกษาจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาแนวคิด (Mindset) และทักษะของผู้เรียน ให้มีความพร้อมในการรับการเปลี่ยนแปลง เพื่อพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืน

ที่มา: CMMU