Celebrity ความสุขของการเป็นคนดัง มันเป็นเรื่อง “ฉาบฉวย”

ภาพจาก netflixkr

วันนี้นี้ไม่ขอเกริ่นอะไรยืดยาว เพราะเรื่องราวของซีรีส์ที่อยากนำเสนอในวันนี้มันน่าจะยาวกว่า นั่นก็คือซีรีส์เรื่องดังเรื่องล่าสุดจาก Netflix ที่กำลังเป็นกระแสอย่างแรงทั้งในเกาหลีใต้และในบ้านเรา และใครหลายคนก็อาจจะดูจบไปแล้วแบบคืนเดียวจบ 12 ตอน แลกกับการไม่ได้หลับได้นอน จนต้องตาแพนด้าไปทำงาน ซึ่งก็คือซีรีส์เรื่อง Celebrity โดยมีชื่อไทยสั้น ๆ สุดเปรี้ยว แต่มันสื่อให้เห็นภาพรวมทั้งหมดของเรื่องอย่างชัดเจนว่า “คนเด่น คนดัง คนดับ” ส่วนการแปลซับไทยและการพากย์ไทยก็ยังคงคุณภาพของ Netflix แปลได้เปรี้ยวและแซ่บดี ไม่เสียอรรถรส mood&tone เรื่องเลยแม้แต่นิดเดียว

Celebrity เป็นเรื่องราวของ “ซออารี” (พอดูจบ 12 ตอน คุณจะพบว่าชื่อนี้หลอนหูไปพักหนึ่งเลย) อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังที่เคยประสบความสำเร็จอย่างสูงในวงการ ชนิดที่สามารถไลฟ์ขายเสื้อผ้า 1 ล้านตัวหมดภายใน 5 นาที เธอก้าวขึ้นมาเป็นเซเลบริตีที่มียอดผู้ติดตามในอินสตาแกรมสูงถึง 1.3 ล้านคน ในช่วงเวลาสั้น ๆ ทั้งที่แรกเริ่มเดิมทีเธอเป็นหญิงสาววัย 31 ปีที่แสนจะธรรมดา ไม่เล่นโซเชียลมีเดีย ไม่ตามส่องตามดูชีวิตใครให้รู้สึกอิจฉา เธอไม่มีบัญชีไอจีเลยด้วยซ้ำไป เธอเชื่อว่าต่อให้ตามส่องดูชีวิตคนอื่นเป็นร้อยครั้ง มันก็คือชีวิตคนอื่นอยู่ดี และที่สำคัญ การตามดูชีวิตคนอื่นไม่ได้มีส่วนช่วยให้ชีวิตเธอเปลี่ยนไป

ก่อนที่จะเป็นเซเลบชื่อดังผู้ติดตามหลักล้าน วัน ๆ เธอเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตัวเองเพราะชีวิตต้องใช้เงินทุกวัน ซึ่งอาชีพของเธอก่อนที่จะพลิกผันก้าวเข้าสู่วงการอินฟลูเอนเซอร์ที่สปอนเซอร์ทั้งหลายต้องการตัว และเป็นเซเลบค่าตัวสูงนั้น เธอเป็นเพียงพนักงานขายเครื่องสำอางแบรนด์ตลาดตามบ้านเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ชีวิตของซออารีไม่ได้มีพื้นฐานเป็นคนจนแต่อย่างใด อดีตเธอก็เคยเป็นลูกคุณหนูบ้านรวย ที่สามารถโยนทิ้งกระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพงที่ตัวเองไม่ค่อยได้ใช้อย่างไม่จำเป็นต้องมานั่งคิดทบทวนอะไร แถมยังเคยเกือบได้เข้าเรียนที่ไอวี่ลีกด้วย แต่พอพ่อของเธอบริหารกิจการเจ๊งแล้วตายจากไป ครอบครัวเธอที่เหลือแม่กับน้องชายจึงล้มละลาย กรอบแกรบตามสภาพ

ภาพจาก netflixkr

การเคยเป็นลูกคนรวย ใช้ชีวิตอู้ฟู่ดุจเทพธิดามาก่อน บวกกับหน้าตาดี หุ่นดี ฉลาดเรียนรู้จากธุรกิจเดิมของที่บ้าน ทำให้เธอพอจะมีพื้นฐานในการแต่งตัว มีความรู้เรื่องผ้า แมตช์นั่นนี่เข้าด้วยกันแล้วออกมาดูดีแม้ว่าจะเป็นเสื้อผ้าราคาถูกที่หาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป วันหนึ่ง เธอบังเอิญไปเจอเข้ากับเพื่อนสมัยมัธยมปลายที่เคยใช้ชีวิตตามเธอต้อย ๆ แต่วันนี้เพื่อนคนนั้นกลับเป็นคนดังและรวย ใช้ชีวิตเป็นเซเลบที่มีกิจการเป็นของตัวเอง จนทำให้เธอสงสัยว่าเพื่อนคนนี้ไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร ในขณะเดียวกัน เพื่อนคนนั้นของเธอก็เข้าใจผิด ยังคิดว่าเธอเป็นลูกเศรษฐีท่านหนึ่งอยู่ จึงชักชวนกันเข้าสู่วงการไฮโซ ทำให้เธอจับพลัดจับผลูก้าวเข้าสู่โลกของเซเลบโดยที่ไม่ค่อยเต็มใจนักในตอนแรก

อย่างไรก็ตาม มันมีเรื่องเกี่ยวพันอิรุงตุงนังจนทำให้เธอออกจากวงการนี้ไม่ได้ เธอต้องพบเจอกับเรื่องที่ท้าทายตัวเองและต้องพิสูจน์ความสามารถ ค่อย ๆ ไต่เต้าพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่สูงขึ้น สูงกว่าแก๊งเซเลบที่เป็นคนพาเธอเข้าวงการด้วยซ้ำ แม้ว่าจะโดนขัดขาสารพัดแต่เธอก็ยังล้มลุกคุกคลานมาได้เสมอ จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งที่เธอโดนโจมตีจากแฟนคลับคนหนึ่งที่เคยบอกว่าอยู่ข้างเดียวกับเธอ ใช่! วันนี้แฟนคลับคนนั้นกลายเป็นแอนตี้ซะแล้ว มีเรื่องเลวร้ายมากมายถาโถมเข้าสู่เธอ จนในที่สุด เธอก็รับผิดชอบทุกอย่างด้วยชีวิตของเธอเอง

นับตั้งแต่ที่ทุกคนรู้ข่าวการตายของเธอตั้งแต่เมื่อสามเดือนก่อน เธอเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศในฐานะคนที่ “ตายไปแล้ว” ถึงอย่างนั้น มันกลับมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น เรื่องราวในช่วงเวลาปัจจุบันกลับยิ่งเร้าใจ เพราะคนที่ทุกคนรู้ว่าตายไปแล้ว จู่ ๆ ก็ฟื้นคืนชีพกลับมานั่งไลฟ์สด 7 วัน เพื่อแฉความเน่าเฟะของวงการเซเลบนี้ เธอแฉทุกอย่างรวมถึงชีวิตของตัวเองที่ผ่านมาด้วย ซีรีส์เรื่องนี้จึงตัดสลับไปมาระหว่างพาร์ทอดีต ช่วงที่ซออารียังเป็นคนธรรมดาและสร้างเนื้อสร้างตัวเป็นเซเลบคนดัง กับพาร์ทปัจจุบันหลังจากที่ซออารีตายไปแล้ว 3 เดือน ทุกคนที่ถูกเอ่ยถึงในไลฟ์แฉครั้งนี้จึงเริ่มนั่งไม่ติดเก้าอี้อีกต่อไป เธอแฉหมดทุกเรื่องจริง ๆ

ภาพจาก netflixkr

ก่อนเปิดดู Celebrity บอกตามตรงว่าไม่คาดคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้จะสนุกและให้แง่คิดอะไรกับสังคมมากขนาดนี้ แต่ถ้าถามว่าคนดูจะเอาไปแง่คิดที่ได้ไปขบคิดและเป็นอุทาหรณ์เตือนในกันนานเท่าไร คาดว่าหลาย ๆ คนน่าจะคิดจบตั้งแต่ซีรีส์จบไป หรือหลายคนอาจจะดูแล้วไม่ได้อะไรเลยก็ได้ เพราะส่วนใหญ่คนในสังคมยุคนี้จะไหลตามกระแส ฮือฮาแค่ตอนเป็นกระแส พอหมดกระแสก็ลืมหมด แล้วกลับมาใช้ชีวิตกันอย่างปกติแบบไม่เรียนรู้อะไรเลย ตระหนักแค่ตอนเป็นกระแส จากนั้นก็ลืมมันไป

อันที่จริง แก่นหลัก ๆ ของซีรีส์เรื่องนี้ที่ต้องการนำเสนอแก่สังคมมันมีอยู่ไม่กี่ข้อหรอก เท่าที่ลองถอดมาได้ก็มีตามนี้

จงมีชื่อเสียงขึ้น เมื่อเป็นเช่นนั้น ต่อให้คุณขี้ ทั้งโลกก็จะคลั่งไคล้คุณ

ขอสารภาพนิดนึงว่าตอนที่เห็นโปรโมตซีรีส์เรื่องนี้ครั้งแรกเมื่อราว ๆ 2 เดือนที่แล้วผ่านไอจีของพระเอกของเรื่อง “คังมินฮยอก” ที่กดติดตามมานานแล้ว (ในฐานะมือกลองวง CNBLUE) ไม่คาดคิดมาก่อนว่าภาพในซีรีส์ทั้ง 12 ตอนมันจะออกมาเป็นแบบนี้ เข้าใจว่าเป็นแฉกันของพวกเซเลบคนดังในวงการ แต่ไม่คิดว่ามันจะลงลึกเหมือนเป็นสงครามประสาทและหักมุมไปมาขนาดนี้ คืออาจติดภาพของละครไทยด้วยแหละ เลยมองภาพการแฉและชิงดีชิงเด่นกันไปในทิศทางแบบละครไทย ผลสุดท้าย ซีรีส์เรื่องนี้กลายเป็นซีรีส์ที่คุณไม่ควรจะเปิดดูเพื่อฆ่าเวลาเล่น ๆ ตอนที่มีเวลาว่างเล็กน้อย มันอาจทำให้คุณได้เสียเวลาดูต่อยาว ๆ ทั้งที่คุณไม่ได้เตรียมความพร้อมเรื่องเวลาเอาไว้ มันจะรบกวนเวลาของกิจกรรมอื่น

ภาพจาก netflixkr

นี่คือซีรีส์อีกเรื่องที่เปิดดูแล้วแทบจะหยุดดูไม่ได้ ถ้าคุณไม่ดูต่อให้จบไปเลย ค้างคาไว้ก่อนมันจะทำให้ในหัวของคุณมีคำถามมากมายวนไปวนมา ทั้งการคาดเดาเรื่องราวตอนต่อไป และการนำมาคิดเปรียบเทียบกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในสังคม เชื่อว่าใคร ๆ ก็คิดว่าเรื่องจริงในแวดวงของอินฟลูเอนเซอร์มันก็น่าจะมีเรื่องประมาณนี้จริง ๆ และก็น่าสนใจว่ามันมีคนแบบนี้จริง ๆ ในวงการนั้น วงการที่ทุกคนอยากจะเด่น อยากจะดัง มากกว่าคนอื่นยิ่งดี

ทำไมคนถึงต้องอยากจะมีชื่อเสียงขึ้นขนาดนั้นด้วย คำตอบก็คือเพราะวงการนี้มันสร้างเม็ดเงินมหาศาลเมื่อคุณมีชื่อเสียง และชื่อเสียงก็จะนำมาซึ่งความแตกต่าง คุณสามารถทำเงินเอง และช่วยทำเงินให้คนอื่นด้วยคำพูดไม่กี่คำหรือการกระทำไม่กี่อย่าง เพราะทุกอิริยาบถของคุณมันจะกลายเป็นเรื่องเด่น เรื่องดัง ที่สร้างความฮือฮาและแรงกระเพื่อมสู่สังคมได้ ถึงอย่างนั้น สิ่งที่คุณทำทุกอย่าง ใคร ๆ ก็ดูออกว่าอวด แต่มันกลับเป็นเรื่องที่เรียบง่ายและธรรมดามาก ๆ ในชีวิตของคุณ “มันเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่อยู่ในโลกแบบนั้น”

แต่อิทธิพลโน้มน้าวใจของคนเหล่านี้ร้ายกาจมากนะ แค่ไปนั่งร้านอาหารธรรมดา ๆ ตามตรอกซอกหลืบที่ไม่มีคนรู้จัก ใครเห็นก็เดินผ่าน เพียงแค่ถ่ายรูปสวย ๆ แล้วอัปโหลดลงโซเชียลมีเดียของตัวเองพร้อมด้วยแคปชันเด็ด ๆ ก็จะมีคนแห่เข้ามาคอมเมนต์ชื่นชม และตามไปกินร้านเดียวกัน ทำให้จากร้านอาหารธรรมดา ๆ ที่ไม่มีชื่อ ถูกมองเห็นเท่ากับจำนวนคนที่กดติดตามโซเชียลมีเดียของเซเลบ พอลิ่วล้อแห่ไปกินตาม ร้านนั้นก็จะกลายเป็นร้านฮิตขึ้นมาชั่วข้ามคืน และเมื่อเรากลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีอิทธิพลต่อความคิดคนทั่วไปมาก ๆ เข้า ใคร ๆ ก็ต้องการตัวเราไปใช้เรียกลูกค้าให้ตัวเองกันทั้งนั้น เราเองก็รับทรัพย์อื้อซ่าไปเลยเช่นกัน เริ่มถูกอวย ถูกยกย่องให้เป็น “คนสำคัญ”

ภาพจาก netflixkr

การเป็น “คนสำคัญ” มันดียังไง มันดีตรงที่โลกจะปฏิบัติต่อเราอย่าง “แตกต่าง” คนที่อยู่ในโลกของคนสำคัญย่อมได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากคนที่อยู๋ในโลกธรรมดา ๆ อยู่แล้ว มันจึงกลายเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้ใครบางคนอยากจะลองเข้าไปอยู๋ในโลกของคนสำคัญดูสักครั้ง และทำให้คนในโลกธรรมดารู้สึกอิจฉาคนพวกนั้น คนที่ได้อยู่ในโลกที่แตกต่างออกไป และอาจนำมาซึ่งความริษยาได้ด้วย มันเป็นเหตุผลที่ทำให้เรารู้สึกด้อยค่าตลอดเมื่อได้เห็นเพื่อนคนอื่น ๆ โพสต์ความสำเร็จของตัวเองลงบนโซเชียลมีเดีย ฉันก็อยากประสบความสำเร็จบ้าง

ก็นะ มันเป็นชีวิตเหมือนกันนี่นา แต่ดันถูกปฏิบัติไม่เหมือนกัน กับใครบางคน ทุกอย่างมันเป็นเรื่องเหนื่อยยาก แต่กับใครบางคน ทุกอย่างมันช่างเป็นเรื่องง่ายดาย “คนสำคัญ” อาจได้ทุกอย่างมาฟรี ๆ ประสบความสำเร็จด้วยวิธีที่ง่าย และสบาย แถมมีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบเหยียบย่ำดูถูกคนอื่นด้วย รู้สึกไม่ยุติธรรมใช่ไหมล่ะ นี่แหละ คนถึงอยากที่จะมีชื่อเสียงให้ได้ขึ้นมาไง เพื่อให้ได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างออกไป แบบพวกคนที่ได้สิทธิ์ทำทุกอย่าง

ในสังคมสมัยใหม่ การมีหน้าตาและมีชื่อเสียงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเมื่อไรก็ตามที่คุณ “แจ้งเกิด” เป็น somebody ขึ้นมาในหมู่ nobody ชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป และมันจะยิ่งน่าตื่นเต้น หากคุณไปได้ไกลกว่า somebody ด้วยกัน คุณจะเป็นคนที่อยู่บนจุดสูงสุดบนห่วงโซ่อาหาร!

ภาพจาก netflixkr

เมื่อเรามีความต้องการอยากเป็นคนดัง คนมีชื่อเสียง เราจะเริ่มถูกความโลภ ความลุ่มหลง ความต้องการเอาชนะเข้าครอบงำ มันจะยิ่งทำให้เราขาดสติ อยากได้อยากมีเพิ่มมากขึ้นไปอีก จนในที่สุดจะเกินควบคุม ถลำลึกไปไกลจนรั้งตัวเองไม่อยู่ ฉุดตัวเองไม่ได้ เรามาไกลเกินกว่าที่จะหยุด ขึ้นหลังเสือแล้วลงไม่ได้ มันเลยต้องเดินต่อเท่านั้น แต่ทางเลือกที่จะให้เดินต่อมันจะเหลือน้อยลงทุกที และเราอาจถูกบีบว่าต้องเลือกทางนั้นทางนี้เท่านั้น เพราะเราจะล่มสายไม่ได้เด็ดขาด!

การเปิดเรื่องให้นางเอกเริ่ม “แฉสูตรโกง” ที่สกปรกแต่ใช้งานได้จริง แสดงให้เห็นว่าเธอก็เคยผ่านจุดที่ตัวเองถูกครอบงำด้วยความลุ่มหลงมัวเมาไปแล้ว เธอจึงรู้เรื่องราวเน่าหนอนในวงการนี้ดี ทั้งการพยายามที่จะประสบความสำเร็จ การอยู่จุดสูงสุด การถูกสกัดดาวรุ่ง จนเธอต้องงัดทุกวิธีขึ้นมาเอาตัวรอดไป แม้แต่วิธีที่ต้องทำลายฝ่ายตรงข้าม ไหนจะต้องเข้าไปผัวพันกับพวกเซเลบประสาทแดก และพวกที่มีอิทธิพลที่หนุนหลังคนในวงการ พวกคนมีเงิน มีอำนาจ มีกฎหมายในมือ ที่คนธรรมดาไม่อาจต่อรองอะไรได้เลย

จากจุดเริ่มต้นที่เธอแค่อยากรู้ว่าคนที่ใคร ๆ ก็เรียกว่าเป็นเซเลบเป็นใคร อยู่ในโลกแบบไหน ถึงได้ใช้เงินและใช้ชีวิตแบบที่อยากจะทำอะไรก็ได้ ชีวิตแบบที่คนอีกมากมายไม่สามารถทำได้ เริ่มไหลลึกไปถึงจุดที่เธออยากเอาชนะทุกคนที่ดูถูกเหยียดหยามเธอ เธอจึงเริ่มใช้สูตรโกงมากมายที่ได้เรียนรู้มา เริ่มเป็น “ปรสิตของคนมีชื่อเสียง” เพื่อหวังให้ตัวเองได้มีแสงสว่างบ้าง เธอต้องกระเสือกกระสนไม่ให้ตัวเองแพ้คนพวกนั้น ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้คนรู้จัก มีคนมองเห็น และพิสูจน์ตัวเอง และที่สำคัญ มันเป็นโลกที่จะล้มไม่ได้เด็ดขาด เพราะมีคนรอเหยียบซ้ำจนกว่าจะจม!

โลกใบนี้เป็นแบบนั้น เพื่อที่จะประสบความสำเร็จมากขึ้นในโลกใบนี้ ฉันใช้สูตรโกงทั้งหมดที่สามารถใช้ได้

มันเป็นความคิดที่น่ากลัวมากจริง ๆ นะ ไอ้การที่เราค่อย ๆ ถูกหลอมรวมไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้น่ะ การเห็นคนอื่นได้ดี มีชีวิตที่ดีแบบถาโถมใส่ ทำให้จุดยืนเราเปลี่ยน จะเริ่มลังเลโดยไม่รู้ตัว ว่าของที่คนอื่นมี ฉันก็น่าจะมีสักอันหรือเปล่า สิ่งที่คนอื่นทำ ฉันก็น่าจะลองทำดูบ้างสักครั้งก็ได้นี่ และเราจะมัวแต่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นตลอดเวลา เพราะกลัวว่าตัวเองจะเป็นคนเดียวบนโลกที่ล้าหลัง หรือเป็นคนเดียวที่ยังล้มเหลวและไม่ประสบความสำเร็จ จนหลัง ๆ เริ่มที่จะไม่ลังเล ปล่อยให้ตัวเองได้ทำอะไรตามใจเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ

ภาพจาก netflixkr

คนที่ดับเครื่องชนแบบนางเอกเรื่องนี้เนี่ย ว่ากันตามตรงว่าเธอเองก็ใช้โชคเรื่องดวงช่วยอยู่พอสมควรนะ เธอไม่ได้แค่ฉลาดที่พลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้อย่างเดียว เพราะมีบางจังหวะเหมือนกันที่เธออาศัยความเฮงแล้วพลิกล็อกกลับมาชนะได้ สิ่งที่ทำให้คนดูลุ้นตลอด ก็คือเธอจะปล่อยให้ความคับแค้นใจของตัวเอง ความอยากเอาชนะ พาตัวเองไปได้ไกลแค่ไหน เพราะแรก ๆ เหมือนเธอก็แค่อยากจะเอาชนะคนพวกนั้น ด้วยการเอาความสำเร็จไปกระแทกหน้ามันบ้าง อยากให้คนที่ด่านางได้อิจฉาบ้าง แต่หลัง ๆ เชื่อว่าคนดูจะเริ่มสังเกตได้ว่าในบางช่วงดูเหมือนเธอจะโลภขึ้นมาเองเหมือนกัน เธอกำลังลุ่มหลงในความสำเร็จจนประมาทเกินไป

กว่าเธอจะรู้ตัวว่าตัวเองถลำเข้ามาลึกเกินไป มันก็เกือบจะสายไปเสียแล้ว เธอเกือบจะต้องสูญเสียทุกอย่างไปเพราะการก้าวเข้ามาในวงการที่ปลอมเปลือกนี้เร็วเกินไป และการเลือกของเธอในหลาย ๆ ครั้งเพื่อพาตัวเองมายืนจุดนี้ มันก็เหมือนกับที่ตัวเธอพูด ว่าทุกทางเลือกในโลกต่างมีราคาที่ต้องจ่าย แต่เรากลับใช้ชีวิตกันโดยที่ไม่รู้ ไม่หรอก! จริง ๆ เรารู้ดี แต่พยายามที่จะไม่รู้ เพราะมันสบายใจกว่าไงไอ้การที่ใช้ชีวิตแบบที่ไม่รู้ถึงสิ่งที่ตัวเองทำลงไปน่ะ แต่ในท้ายที่สุด เราทุกคนต้องรู้ว่าเราทำอะไรลงไป ต้องรู้สิ่งที่ตัวเองทำ และรู้ว่าตัวเองไม่สามารถหนีไปจากผลลัพธ์มันได้ และเราต้องชดใช้ในสิ่งที่เราเลือก ชดใช้การกระทำของตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ภาพจาก netflixkr

มันถึงกลายเป็นเรื่องปกติที่เรามักชอบนั่งทบทวนตัวเองเวลาที่ “กรรม” ซึ่งเป็นผลของการกระทำมันเริ่มทำงาน เราจะเริ่มคิดว่า “รู้งี้” และสร้างเงื่อนไขต่าง ๆ ขึ้นมาในความคิด หลังจากที่ตัวเองเริ่มรับกรรมของการกระทำ เราจะเสียดายและหวนอดีต ว่าการเลือกทางนี้และไม่เลือกอีกทางหนึ่ง เกิดเป็นผลลัพธ์อย่างที่เห็น “แต่ถ้า” ในวันนั้น ฉันไม่เลือกทางนี้ และฉันเลือกอีกทาง ผลลัพธ์มันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่านะ เรามักจะคิดย้อนอดีตแบบนี้เสมอ เวลาที่เริ่มรับไม่ได้ว่าตัวเองต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง

ดังนั้น เรื่องราวการแฉกันไปมาของเหล่าเซเลบในเรื่อง จึงเป็นอะไรที่น่าลุ้นว่าใครจะได้รับกรรมของตัวเองตอนไหน ถึงเวลาเผชิญหน้ากับความพินาศแล้วหรือยัง การจงใจเอาตัวเองเข้าไปพัวพันกับแก๊งสาวเซเลบเบอร์ใหญ่กาบินฮเวทั้ง 5 คนเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอไปตลอดกาล เธอใช้ความลับของคนพวกนั้นพนันกับความสำเร็จของตัวเอง และต้องการจะขึ้นไปยังจุดที่อยู่เหนือกว่า แล้วก็มารู้สึกตัวทีหลังว่าตัวเองไม่น่าเลือกเดินทางนี้ ใช้ชีวิตธรรมดาแบบเดิมของตัวเองยังอาจจะดีเสียกว่า

ภาพจาก netflixkr

เพราะสุดท้ายแล้ว เนื้อแท้ของเซเลบบางคนก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการสร้างโลกปลอม ๆ ขึ้นมาเพื่อหลอกคนอื่นและโกหกตัวเอง ดิ้นรนให้ตัวเองปรากฏภาพมีอันจะกิน ดูหรูหราไฮโซ ดูมีมากกว่าคนอื่น แต่ต่างคนต่างก็นินทากันลับหลัง พร้อมจะแทงกันทุกเมื่อ หาจุดอ่อนเพื่อแฉกันเมื่อมีโอกาส แล้วก็กลับมาคุกเข่าขอโทษอ้อนวอนกันง่าย ๆ ถ้าถูกขู่เปิดโปง ไม่ก็ใช้วิธีสกปรกกำจัดอีกฝ่ายหนึ่งไปซะก่อน หันมาจับมือกอดคอกัน แสยะยิ้มให้กันภายใต้หน้ากากได้เสมอเมื่อมีผลประโยชน์ร่วมกัน ซีรีส์เรื่องนี้กระเทาะเปลือกสวยหรูของชีวิตเซเลบในโลกโซเชียล ที่ลึก ๆ อีกด้านก็เต็มไปด้วยสารพัดเรื่องฉาวอันเลวร้าย ด้านที่คนธรรมดา ๆ ไม่มีโอกาสได้รู้ จนกว่าพวกเขาจะแฉกันเอง

ในโลกใบนี้ ไม่มีอะไรที่สนุกเท่ากับการได้ดูคนอื่นตกนรกอีกแล้ว

คนเราน่ะมีทั้งคนที่ยินดีกับความสำเร็จของคนอื่นด้วยความยินดีจริง ๆ ยินดีแบบปลอม ๆ และอิจฉาโดยไม่ยินดี เมื่อมีโอกาสก็อยากจะเห็นชีวิตดี ๆ ของคนที่ตัวเองอิจฉาพังไม่เป็นท่า อยากยินดีกับความล้มเหลวของคนที่ตัวเองเกลียดมากกว่า สำหรับคนบางคน มันดูน่าสนุกจริง ๆ การได้เห็นคนอื่นตกนรกน่ะ โดยเฉพาะคนที่ตัวเองเกลียดและหมั่นไส้ คนประเภทที่ชอบเกลียดคนประเภทที่ไม่สามารถจะเป็นแบบเขาได้ มันมีอยู่จริง ๆ

ภาพจาก netflixkr

ยิ่งในโลกโซเชียลมีเดียที่เราแทบจะไม่รู้ตัวจริงของคนที่อยู่หลังคีย์บอร์ดเลยว่าเขาเป็นใคร เป็นช่องโหว่ที่ทำให้คนเหล่านั้นกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นประเภทที่ต้องการทำร้ายทำลายคนอื่นได้แสดงตัวตน ขาดความยั้งคิด ปล่อยพลังลบ และถ้อยคำเลวร้ายใส่คนอื่นได้อย่างเต็มที่เพราะคิดว่าไม่มีใครรู้ตัวตนของตัวเอง ดังนั้น คนใกล้ตัวที่รู้สึกอิจฉาเราอยู่ก็อาจอยากจะทำลายเราด้วยช่องทางโซเชียลมีเดียก็ได้ ในเมื่อจับมือใครดมไม่ได้ นี่ชอบคำพูดของตัวละครตัวหนึ่งมาก รู้สึกว่ามันเป็นข้อเท็จจริงเลยที่ว่า “มันคือโซเชียลมีเดีย ที่ที่สามารถเล่นงานใครก็ได้ ถ้าไม่ใช่ฉันแล้วจะเป็นใครล่ะ ก็คงจะเยอะจนนับไม่ถ้วนน่ะสิ โลกนี้มีคนที่หมั่นไส้คนที่ได้ดิบได้ดีแค่คนสองคนหรือไง ข้าง ๆ เธอก็น่าจะมีนะ!”

สังคมทุกวันนี้ มันทำให้คนเราเกลียดชังกันได้ง่ายมาก ๆ เลยล่ะ โดยเฉพาะการเกลียดชังคนที่ตัวเองอิจฉาเพราะมีแบบเขาไม่ได้ เกลียดชังกันได้ทั้งที่ไม่รู้จักกันดีด้วยซ้ำว่าเขาต้องเผชิญอะไรมาบ้างหรือเขาเป็นคนแบบไหน จึงสนุกกับการได้เห็นความพังพินาศของคนคนนั้น ถ้าเขายังไม่ล้มเหลว ก็ยินดีที่จะเป็นคนทำลายเขาเสียเอง มันมีจริง ๆ นะ คนที่ต่อมสามัญสำนึกบกพร่องจนสามารถมีความสุขได้โดยการดูถูก เหยียบย่ำ และทำลายคนอื่น และจะยิ่งเร้าใจเข้าไปใหญ่เมื่อสามารถโจมตีใครต่อใครแบบที่ไม่มีใครแตะต้องได้ โลกยุคโซเชียลมีเดียเป็นคุณและโทษ ปลายนิ้วของเราเนี่ยมีพลังยิ่งใหญ่มหาศาลชนิดที่ทำร้ายและทำลายคนทั้งคนได้ในพริบตาเดียว

ภาพจาก netflixkr

Celebrity เป็นซีรีส์ที่ทำให้เรารู้สึกกลัวสังคมโซเชียลมีเดียไปเลย มันไม่ใช่เรื่องเวอร์เลยนะ การที่จะเกลียดชังคนที่รู้จักมาจากโลกโซเชียลมีเดีย แต่ไม่ได้รู้จักตัวตนของเขาจริง ๆ น่ะ เวลาที่เขาได้ดีก็เสแสร้งยินดี ยกย่อง เชิดชู ติดตามเป็นแฟนคลับ ลุ่มหลงเป็นทาสการตลาดตามเขาไปเสียทุกอย่าง แต่พอเขามีเรื่องพลาด ทั้งที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางด้วยซ้ำว่าจริงเท็จแค่ไหน ก็กลายร่างจากแฟนคลับเป็นซาตาน รุมด่ารุมสาปแช่งให้เขาไปตายได้ง่าย ๆ ใช้คำพูดที่เลวร้ายใส่กันเพราะตัวเองไม่ถูกใจเขาอีกต่อไป นี่แหละนะ ยิ่งคนเราอยู่สูง ก็เลยมีเรื่องที่ต้องปิดบังมากมาย เพราะถ้าความลับโป๊ะแตกเมื่อไร ได้ตกมากระแทกพื้นอย่างสาหัส พร้อมลงหลุมที่มีคนขุดไว้รอฝังด้วยซ้ำ 🎭