“It’s a dangerous thing isn’t it, to mistake speaking without thought for speaking the truth” (การพูดโดยไม่คิดเป็นเรื่องอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเราเข้าใจว่าสิ่งที่กำลังพูดอยู่โดยไม่คิดนั้นเป็นการพูดความจริง) เป็นวลีสุดคมจากปากของ เบอร์นัวต์ บลองก์ (แดเนียล เครก) จากภาพยนตร์เรื่อง Glass Onion: A Knives out Mystery
ต้องสารภาพก่อนว่าเพิ่งมีโอกาสได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ผ่านแอปฯ สตรีมมิ่ง ในวันกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่งานการกำลังยุ่งพอกับอุณหภูมิในกรุงเทพฯ ที่ขึ้นสูงเกือบแตะ 40 องศาเซลเซียส ครั้นพอกลับถึงบ้านในช่วงเวลาของการรับชมข่าวกลับได้ยินเสียงผู้ประกาศข่าวที่ปัจจุบัน Try to be เป็นนักเล่าข่าวกันแทบทุกช่อง ใส่น้ำเสียงและอารมณ์ร่วมกับข่าว ชนิดที่เนื้อหาของข่าวที่ว่าแย่แล้ว พอฟังผ่านน้ำเสียงผู้ประกาศยิ่งทำให้รู้สึกแย่เข้าไปอีก
ด้วยความพยายามของผู้ประกาศที่จะอ่านข่าวให้เหมือนบทละคร แถมพกด้วยเสียงถอนหายใจที่เสริมเข้ามาเป็นแอคติ้ง ก็ทำให้รู้สึกว่าการรับข่าวสารยุคนี้มันเกินที่จะรับชมไหว เมื่อถึงจุดนี้ก็ได้แต่บอกตัวเองว่า “พอเถอะ” กับการรับชม “ข่าวน้ำเสียงละคร” ก็ทำให้นึกถึง Glass Onion: A Knives out Mystery ที่ยังติดค้างอยู่ในลิสต์ภาพยนตร์ของตนเอง เพราะเป็นเนื้อหาว่าด้วยการสืบสวนสอบสวนของนักสืบหัวเห็ดที่ชื่อ เบอร์นัวต์ บลองก์ ซึ่ง Glass Onion เป็นภาคต่อจาก Knives Out ภาคแรก ที่เป็นการสืบสวนคดีฆาตกรรมภายในครอบครัวที่สนุกไม่แพ้ Glass Onion
หากแต่ Glass Onion มีประเด็นในการจับโป๊ะของผู้ร้ายและตัวก่อเรื่องได้จากคำพูดแบบไม่คิด ที่เป็นโควตคำพูดด้านบนของนักสืบหัวเห็ด “เบอร์นัวต์ บลองก์” ใน Glass Onion เป็นเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนที่เหมือนจะรักกันดี แต่แท้จริงแล้วพร้อมแทงกันได้ทุกเมื่อ ขณะที่บทของเพื่อนผู้ร่ำรวยที่สุดในกลุ่ม ใช้เงินในการสานสัมพันธ์และมิตรภาพ ซึ่งแสดงโดย เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน นั้น น่าจะทำให้คุณผู้อ่านที่มีโอกาสได้ดูนึกถึงเงาของ “คนแห่งยุคสมัย” หลายต่อหลายคนที่น่าจะทาบทับกันได้พอดิบพอดี
คาแรกเตอร์ของ ไมล์ บรอน มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมาจากเทคฯ คอมพานี ซึ่งร่วมก่อตั้งมากับเพื่อนอีกคน แต่สุดท้ายกลายเป็นไมล์ ที่ควบคุมกิจการไว้เอง แน่นอนว่าเมื่อไมล์เป็นมหาเศรษฐีที่ไม่ใช่แค่เงินสิบล้าน แต่เป็นระดับหมื่นล้าน เสียงของไมล์ดังเสมอ และคำพูดของไมล์ก็เหมือนเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ ที่แม้บางครั้งเจ้าตัวเองก็ไม่ได้รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองพูดนั้นถูกต้องมากน้อยแค่ไหน
ประกอบกับการแวดล้อมตัวเองด้วยกลุ่มเพื่อนที่ “สามารถโกหกเพื่อปกป้องคนโกหก (ที่มีเงิน)” ก็ไม่ต่างอะไรจาก การขังตัวเองอยู่ในห้องของเสียงสะท้อนบนโลกโซเชียลมีเดีย ทำให้มหาเศรษฐีคิดว่าการพูดแบบไม่ยั้งคิดของตนเอง คือการพูดความจริงที่โลกทั้งโลกควรรับรู้ ซึ่งเอาเข้าจริงแล้ว สิ่งที่ไมล์พูดออกมานั้นเจ้าตัวเองยังไม่รู้ความหมายที่แท้จริงแม้แต่น้อย
สูตรสำเร็จของภาพยนตร์แนวนักสืบหัวเห็ดนั้นจะมีการเฉลยตัวผู้ร้ายในตอนท้าย แต่ในครั้งนี้ดูเหมือน เบอร์นัวต์ บลองก์ จะมองเห็นความผิดปกติตั้งแต่แรก รวมไปถึงการเฉลยในช่วงท้ายที่เจ้าตัวถึงกับสบถ ที่มหาเศรษฐีจอมลวงนั้นไม่ใช่แค่ไม่รู้สิ่งที่ตนเองพูด แต่ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นถูกหรือผิด
พอดูจบแล้ว ก็ให้นึกถึง “มหาเศรษฐีพยายาม” ในยุคสมัยนี้นะคะ และทำให้สงสัยว่าความสำเร็จที่ถูกทำให้เห็นผ่านหน้าสื่อนั้นเป็นความสามารถของเขาจริง ๆ แค่ไหน มีใครอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของคนเหล่านี้หรือไม่ พวกเขามีความรู้จริง ๆ ในสิ่งที่ตนเองทำแค่ไหน หรือแค่ก๊อปปี้งานคนอื่นมา หรือมีคนทำให้เจ้าตัวแค่ออกเบื้องหน้า เพราะที่ผ่านมา มีไม่น้อยที่เปิดฉากอย่างเร้าใจ แล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย… ลองไปหาชมกันนะคะ Glass Onion: A Knives out Mystery แล้วลองพิจารณาดูกันว่า คนรอบตัวคุณมีใครที่เข้าลักษณะของ ไมล์ บรอนกันบ้างหรือไม่
แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้า