
ทุกครั้งที่มีประเด็นดราม่าเกิดขึ้นบ้านเรา ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสจากผู้คนในโลกออนไลน์ที่กระหน่ำโพสต์ข้อความผ่านคีย์บอร์ด กลายเป็นกระแสสังคมที่มีพลังมหาศาล ไม่เว้นแม้กระทั่งแฟนเพจของต่างประเทศ ที่ถูกพี่น้องชาวไทยโพสต์ข้อความถล่มมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
ล่าสุดประเด็นการลงสนามของ ชนาธิป สงกระสินธุ์ ดาวเตะคนดังของไทยที่เดินทางไปค้าแข้งกับ กอนซาโดเล่ ซัปโปโร ในเจลีก ของญี่ปุ่น ก็ไม่วายโดน “เกรียนคีย์บอร์ด” จากแดนสยาม เข้าไปถล่มแฟนเพจอย่างเป็นทางการของสโมสร ด้วยการโพสต์ต่อว่ากุนซือของกอนซาโดเล่ ในทำนองใช้งานชนาธิปไม่เป็น จนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงครึ่งหลัง

อย่างไรก็ดีในหมู่ของแฟนกีฬาชาวไทยด้วยกัน มีส่วนหนึ่งที่ไม่พอใจการกระทำของคนไทยด้วยกันเอง เนื่องจากมองว่า การกระทำเช่นนี้ แม้จะเป็นเรื่องนอกสนาม แต่ก็อาจส่งผลเสียต่อนักเตะของไทยเราเองกับโอกาสในการลงสนามในนัดต่อๆไป จนถึงขั้นเข้าไปโพสต์ด่ากันเองก็มี ส่วนบางรายก็มีการโพสต์ขอโทษแทนคนไทยทุกคน
งานนี้หากจะย้อนกลับไปดูวีรกรรมของบรรดา “เกรียนคีย์บอร์ดไทย” ในช่วงที่สื่อสังคมออนไลน์กำลังเฟื่องฟู คงต้องบอกว่า เรื่องนี้แค่ผิวๆ เพราะที่ผ่านมา พวกเขาได้แสดงศักยภาพมาแล้วมากมาย อาทิ ในการแข่งขันฟุตบอลชายกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ 2014 ที่อินชอน ประเทศเกาหลีใต้ คนไทย เข้าไปโพสต์ถล่มเพจสมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ ทั้งที่เกมระหว่างเกาหลีใต้ กับ ไทย ยังไม่เริ่มต้นขึ้น จน ส.ฟุตบอลแดนกิมจิต้องปิดเพจหนี

เท่านั้นยังไม่พอ “เกรียนคีย์บอร์ดไทย” ยังลามไปโพสต์ต่อว่าเจ้าภาพเกาหลีใต้ในเพจ เอเชี่ยน พาราเกมส์ 2014 หรือกีฬาคนพิการ ที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ ว่าเป็นพวก “ขี้โกง” จนกลายเป็นที่วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมมาแล้ว
นอกจากวงการกีฬาแล้ว ที่ผ่านมาคนไทยยังเคยไปแสดงความเกรียนในวงการอื่นๆเช่นกัน อาทิ ในปี 2015 ไปป่วนในเพจขององค์การนาซ่า ขณะถ่ายทอดสดภารกิจ นิว ฮอไรซันส์ ซึ่งเป็นการนำยานสำรวจดาวพลูโต รวมถึงในวงการเกม ก็เคยมีคอเกมไทยเข้าไปโพสต์ด่าในเพจของค่ายเกมยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง EA เพื่อบังคับให้นำเกม Raycity กลับมาให้บริการอีกครั้งมาแล้ว

ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้สถิติของคนไทยกับการใช้เวลากับสื่อออนไลน์เฉลี่ยอยู่ที่วันละ 2.9 ชั่วโมง จะรั้งเพียงอันดับ 8 ของโลกเท่านั้น รองจาก ฟิลิปปินส์ บราซิล เม็กซิโก อาร์เจนติน่า ยูเออี มาเลเซีน และซาอุดิอาระเบีย ด้วยซ้ำไป
ทว่าหากเทียบศักยภาพเรื่องของความเกรียนแล้วคงต้องบอกว่า “เกรียนคีย์บอร์ดไทย” ไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ