“หงส์แดง” กับการพรีซีซั่นรอบสอง

หลังเกมบุกไปคว้าชัยเหนือ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล จะเหลือคิวอีกสองนัด คือเจอ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ ในลีกคัพรอบ 3 นัดกลางสัปดาห์ กับปะทะเซาธ์แฮมป์ตัน เกมพรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 12 พ.ย. ก่อนเบรกฟุตบอลโลก ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่ทีมได้โอกาสหยุดพัก และทบทวนวิธีการเล่นในช่วงเปิดฤดูกาลซึ่งผลงานยังไม่ลงตัวอย่างที่หวัง

การออกสตาร์ทฤดูกาลอย่างกระท่อนกระแท่นที่สุดของ “หงส์แดง” นับตั้งแต่ยุค เจอร์เก้น คล็อปป์ คุมทัพนั้น หนึ่งในสาเหตุที่บรรดาเกจิวิพากษ์วิจารณ์ นั่นคือการพรีซีซั่นที่ดูเร่งรีบ และผลต่อเนื่องจากทำศึกลุ้น 4 ถ้วยเมื่อซีซั่นที่แล้วซึ่งทีมต้องลงเตะถึง 63 นัด ส่งผลให้พอเปิดฤดูกาลใหม่มานักเตะพากันเจ็บระนาว และฟอร์มของทีมเรรวนไปหมด

ดังนั้น ในช่วงฟุตบอลโลกที่กำลังจะมาถึงถือเป็นโอกาสอันดี ที่ทัพนักเตะจากถิ่นแอนฟิลด์จะได้ชาร์จแบตเตอรี่ เปรียบเสมือนการได้พรีซีซั่นรอบสองก็ว่าได้ ถือเป็นการแก้ตัวจากพรีซีซั่นรอบแรกในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาที่อาจฉุกละหุกเกินไป

คำถามอยู่ที่ว่าใครจะได้อยู่ซ้อมกับทีม? ใครจะได้ไปบอลโลก?

เที่ยวนี้อาจเป็นโชคดีของสโมสร เมื่อดูสถานการณ์แล้วนักเตะ “หงส์แดง” ที่ได้ไปเวิลด์คัพอาจมีน้อยเกินคาด เมื่อ ดิโอโก้ โชต้า (โปรตุเกส), หลุยส์ ดิอ๊าซ (โคลัมเบีย) สองดาราสำคัญชวดแน่นอนเพราะได้รับบาดเจ็บ

ส่วนแข้งพันธุ์สิงโต อย่าง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ กับ โจ โกเมซ ก็นัดกันฟอร์มตก คงมีเพียง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน คนเดียวที่พอมีลุ้น แต่ก็คงไม่ได้เล่นในตำแหน่งตัวจริง เพราะมี จู๊ด เบลลิ่งแฮม และเดแคลน ไรซ์ ขวางทางอยู่

กลุ่มนักเตะ “แซมบ้า” อย่างอลีสซง เบ็คเกอร์, ฟาบินโญ่ น่าจะได้ตั๋ว ส่วน โรเบอร์โต้ ฟีร์มีโน่ คงต้องลุ้นหนักหน่อย เพราะหลุดออกจากทีมเนื่องจากอาการบาดเจ็บไปนานพอสมควร ผลงานระยะหลังคงมีเพียง อลีสซง คนเดียวเท่านั้นที่ลุ้นเป็นตัวจริง ส่วน ติอาโก้ อัลกันทาร่า (สเปน) ถ้าติดโค้งสุดท้ายก็บุญโขแล้ว ไม่ต้องพูดถึงโอกาสในการลงสนาม

ดังนั้น คนที่จะต้องกรำศึกหนักน่าจะมีเพียงสองรายที่เป็นตัวหลักแน่ ๆ หนึ่งคือ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ (เนเธอร์แลนด์) กับ ดาร์วิน นูนเญซ (อุรุกวัย)

รวมทั้งสิ้นประเมินแล้วเด็กหงส์น่าจะได้ไปบอลโลกทั้งหมดประมาณ 6 คน โดยได้เล่นจริง 3 คน ที่เหลือเป็นอะไหล่สำรอง น่าจะเป็นผลดีต่อสโมสรเต็ม ๆ ที่ ขุนพล “หงส์แดง” จะได้เรียกความสดกลับมาอีกครั้ง เพราะได้พัก 6 สัปดาห์เต็ม

ช่วงนักเตะว่างเยอะแบบนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ประกาศแน่นอนแล้วว่า จะพาทีมไปเก็บตัวอุ่นเครื่องที่ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ช่วง 5-12 ธ.ค. ที่จะถึง ซึ่งถือเป็นการเลือกอันแยบยล เพราะนอกจากอากาศไม่หนาวมากแล้ว ยังเป็นสถานที่ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ ประเทศเจ้าภาพอย่าง กาตาร์ นักเตะและทีมสตาฟยังสามารถติดตามมหกรรมครั้งนี้ รวมทั้งเวลาชาติไหนตกรอบเร็วเพื่อนก็สามารถตามมาแจมเข้าแคมป์ได้ในทันที

งานนี้มีแมตช์อุ่นเครื่องเบา ๆ กับเอซี มิลาน ซึ่งมีอดีตเด็กเก่าหงส์อย่าง ดิว็อค โอริกี้ อยู่ด้วย ที่ อัล มัคตูม สเตเดี้ยม ความจุ 15,000 คน ถือเป็นการพรีซีซั่นรอบสองก็ว่าได้

รูปการณ์แบบนี้น่าจะเป็นโอกาสดี เหมือนมีระฆังมาช่วยให้ทีมของ คล็อปป์ ได้พักหายใจและฟื้นฟูก่อนจะกลับมาโรมรันพันตูต่อในศึกบ็อกซิ่งเดย์กับ แอสตัน วิลล่า รวมทั้งเกมส่งท้ายปี และรับปีใหม่ นักเตะที่เจ็บอยู่อย่าง โชต้า, ดิอ๊าซ หรือนาบี เกอิต้า, อาร์ตู เมโล่, โฌแอล มาติป, เจมส์ มิลเนอร์ จะได้มีโอกาสเรียกความฟิต บวกกับตัวดังที่ไม่ได้ไปบอลโลกอย่างโม ซาลาห์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เทรนต์ อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โคนาเต้, ฮาวี่ย์ เอลเลียต, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน, ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ฯลฯ มาร่วมซ้อมกันให้ฟิตเปรี๊ยะ

จบบอลโลกแล้วจะได้เรียกฟอร์มสนั่นลั่นแอนฟิลด์กลับมาให้ได้อีกครั้ง!