
แม้ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า “แหวนแต่งงาน” สวมที่นิ้วนางข้างซ้าย แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ทราบถึงเหตุผลที่แท้จริงเกี่ยวกับการใส่แหวนแต่งงานว่าเหตุใดต้องเจาะจงเฉพาะนิ้วข้างนี้เท่านั้น
ย้อนกลับไปเมื่อ 4,800 ปีก่อน ชาวอียิปต์โบราณ นำต้นกกมาพันกันเป็นแหวน เพราะวงกลมเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นนิรันดร์ ไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด ก่อนจะกลายมาเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ผู้คนทั่วโลกมอบแหวนแทนใจให้กับคนรัก เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความรักอันเป็นนิรันดร
อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวโรมันนั้น การมอบแหวนให้กับคนรัก เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงการครอบครองหรือเป็นเจ้าของ มากกว่าจะเป็นสัญลักษณ์แทนความรักที่มีต่อกัน แต่ที่แน่ๆ ธรรมเนียมปฏิบัตินี้ ชาวโรมันและชาวอียิปต์มีกันมานานแล้ว และส่งต่อกันมาจนถึงยุคปัจจุบัน
ขณะที่ธรรมเนียมในการใส่แหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายนั้น ยังคงมีข้อถกเถียงกันว่า ชาวอียิปต์หรือชาวโรมันกันแน่ที่เป็นคนริเริ่มไอเดียนี้ แต่ไม่ว่าใครจะเป็นคนต้นคิด เหตุผลในการเลือกนิ้วนางข้างซ้ายล้วนมีความเชื่อที่ไม่ต่างกัน นั่นคือ นิ้วนางข้างซ้ายเป็นนิ้วที่มีเส้นโลหิตวิ่งตรงไปถึงหัวใจนั่นเอง
โดยเส้นโลหิตหรือเส้นเลือดดังกล่าวมีชื่อเรียกกันว่า “Vena Amoris” ในภาษาโรมัน หรือ “Vein of Love” (เส้นเลือดแห่งความรัก) ในภาษาอังกฤษ แต่ภายหลังนักวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะความจริงแล้ว เส้นเลือดทั้งหมดล้วนวิ่งตรงเข้าสู่หัวใจทั้งสิ้น
ส่วนเหตุผลที่ดูจะเป็นไปได้ในทางปฏิบัตินั้น น่าจะเป็นเพราะคนส่วนใหญ่ถนัดใช้มือขวามากกว่า จึงไม่ค่อยได้สวมแหวนที่นิ้วมือซ้ายกันมากนัก ด้วยเหตุนี้ การเลือกตำแหน่งแหวนแต่งงานไว้ที่นิ้วนางข้างซ้าย จึงแสดงถึงความพิเศษมากกว่าการสวมแหวนทั่วๆไปนั่นเอง
ที่มา : www.mirror.co.uk





























