สิงห์ ระเบิดศึก BKFC Thailand สังเวียนต่อสู้มือเปล่าระดับโลก ดึง “บัวขาว” ดวล นักชกตุรเคีย ที่เวทีมวยราชดำเนิน

สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ร่วมกับ BKFC Thailand ระเบิดศึกศึกการแข่งขันมวยที่กำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลก เป็นการชกในแบบกำปั้นเปล่าไม่ใส่นวม 5 ยก บนสังเวียนวงกลม ซึ่งถือเป็นประเทศที่ 3 ที่ได้รับสิทธิการจัดต่อจากสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ “บีเคเอฟซี ไทยแลนด์ พรีเซนเต็ด บาย สิงห์ ครั้งที่ 3” ในครั้งนี้ได้ดึงสุดยอดนักสู้ขวัญใจชาวไทย “บัวขาว บัญชาเมฆ” ดวลกับนักชกยอดฝีมือจากตุรเคีย “เออร์แกน วาโรล” บนสังเวียน Bare Knuckle Fighting Championship (BKFC) Thailand และเหล่าสุดยอดนักสู้กว่า 24 ชีวิต ที่จะมาห้ำหั่นกันอย่างดุเดือดที่เวทีมวยราชดำเนิน ในวันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2565 เวลา 18.00 น.

เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 65 ที่ลานกิจกรรม ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ วรวุฒิ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด พร้อมด้วย นิค แชปแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานฝ่ายปฏิบัติการ BKFC Thailand, วรรธนัย วรรธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บีเคเอฟซี ประเทศไทย ประธานบริหาร รอยัล คลิฟ โฮเต็ลส์ กรุ๊ป และศูนย์ประชุมนานาชาติพีช (Pattaya Exhibition and Convention Hall) และจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ร่วมแถลงข่าวจัดการแข่งขัน “บีเคเอฟซี ไทยแลนด์ พรีเซนเต็ด บาย สิงห์ ครั้งที่ 3” กับการต่อสู้ด้วยกำปั้นเปล่า Bare Knuckle (แบร์ นักเคิล) ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ทั่วโลกในขณะนี้

โดยมีคู่มวยเข้าร่วมการแข่งขันชิง 24 ชีวิต (12 คู่) คู่ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดและถือเป็นไฮไลต์ของการแข่งขันในครั้งนี้คือ บัวขาว บัญชาเมฆ นักชกขวัญใจชาวไทย ดวลกับ “เออร์แกน วาโรล” ยอดนักชกชาวตุรเคีย การแข่งขันจะจัดขึ้นที่เวทีมวยราชดำเนิน ในวันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2565 เวลา 18.00 น

วรวุฒิ ภิรมย์ภักดี กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ผู้สนับสนุนหลักของการจัดการแข่งขัน กล่าวว่า “แบร์ นักเคิล เป็นอีกหนึ่งในชนิดกีฬาที่กำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลก ซึ่งเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาที่เติบโตได้รวดเร็ว มีผู้ติดตามทั่วโลกเป็นจำนวนมาก สิงห์ ในฐานะที่เป็นองค์กรไทย ก็พยายามที่จะคัดสรรและนำเสนอในสิ่งที่ได้รับความสนใจในระดับโลกสู่สายตาคนไทย ในขณะเดียวกัน BKFC ที่เป็นกีฬาชกมวยรูปแบบใหม่ มันเปิดโอกาสให้นักชกไทยมีเวทีที่กว้างขึ้น เปิดโอกาสให้นักชกไทยได้เติบโตและไปสร้างชื่อเสียงไปโชว์ศักยภาพให้กับคนต่างประเทศได้เห็น”

“สำหรับ บีเคเอฟซี ไทยแลนด์ พรีเซนเต็ด บาย สิงห์ ที่จะจัดขึ้นในประเทศไทยครั้งนี้ เราถือเป็นประเทศที่สามที่ได้รับความเชื่อมั่นให้เป็นสังเวียนจัดการแข่งขัน นอกจากที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ซึ่งรายการนี้ถือเป็นแมตซ์ชกมวยที่ยิ่งใหญ่ได้รับความสนใจในหลายประเทศทั่วโลก การที่เมืองไทยเป็นหนึ่งในสังเวียนนี้ ก็จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและจะดึงคนเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยได้มากขึ้น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อีกทางหนึ่ง”

สำหรับการแข่งขัน BKFC Thailand 3 นี้จะจัดขึ้นบนเวทีทรงกลม ‘Squared Circle’ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันที่รวดเร็วและน่าตื่นเต้น ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกฎของ Broughton ที่กำหนดให้นักสู้ต้อง Toe the Line โดยวางเท้าที่เส้นกลางเวทีซึ่งห่างกันเพียงแค่ 3 ฟุตเท่านั้น

ในรายการนี้เรามีนักสู้ร่วมแข่งขันกว่า 12 คู่ รวมกว่า 24 ชีวิต ซึ่งอีกหนึ่งไฮไลต์นอกจากคู่ “บัวขาว บัญชาเมฆ” และ “เออร์แกน วาโรล” (Erkan Varol) ยังมีการชกชิงตำแหน่งแชมป์สองรายการในครั้งนี้ด้วย ทั้งการแข่งขันรองคู่เอกที่เป็นการชิงแชมป์ BKFC Thailand รุ่นเฟเธอร์เวทระหว่าง พงษ์พิศาล “ต้น” ฉุ่นย่อง และสุรศักดิ์ สุขคำชา รุ่นแบนตั้มเวท ของการพบกันระหว่าง อุษณากร ถวิลสุวรรณวัง ปะทะ เชสล่า นูวาล ฟิลิปปินส์ อีกด้วย มีการถ่ายทอดสดไปสู่สายตาคนทั่วโลกผ่านแอป BKFC จัดขึ้นที่เวทีมวยราชดำเนิน ในวันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2565 เวลา 18.00 น.