Big Mouth ความปากพล่อย นำมาซึ่งความซวย!

ภาพจาก MBC

หนึ่งในภูมิปัญญาทางภาษาที่น่าสนใจมากในภาษาไทย คือ ศิลปะในการใช้คำมาร้อยเรียงกันอย่างโดดเด่น จากคำความหมายธรรมดา ๆ แต่พอนำมาเรียบเรียงวางต่อกันกลับมีความสละสลวย จังหวะจะโคนไพเราะ อย่างเช่นการนำคำต่าง ๆ มาเรียบเรียงให้สัมผัสคล้องจองกัน จุดประสงค์คือเพื่อให้จำง่าย ทว่าความหมายของคำคล้องจองที่เรียบเรียงแล้วก็แปลออกมาได้งามไม่แพ้กัน มีความลึกซึ้ง นอกจากนี้การใช้คำคล้องจองในภาษาไทยยังอาจปรากฏในรูปของคำขวัญ คำคม คำพังเพย สำนวน สุภาษิต อีกด้วย ซึ่งไม่ใช่แค่การเรียบเรียงภาษาออกมาได้สวยงาม แต่ยังมีนัยยะทางความหมายที่ใช้ในการเตือนสติหรือสอนใจอีกต่างหาก

ที่เปิดคอลัมน์ซีรีส์มาด้วยเกร็ดความรู้ทางภาษาในวันนี้ เป้าหมายจริง ๆ ไม่ได้จะมาชื่นชมภูมิปัญญาทางภาษาไทยอะไรขนาดนั้น เพียงแต่ซีรีส์ในสัปดาห์นี้มันทำให้หวนนึกถึงพวกสำนวน สุภาษิต หรือคำพังเพยที่สอนใจเกี่ยวกับ “การพูด” เพราะซีรีส์ที่กำลังจะชวนพูดคุยต่อจากนี้ ปมเด่น ๆ ของเรื่องมันมาจากลักษณะนิสัยอย่างหนึ่งของตัวละครพระเอก ที่ใกล้เคียงกับสำนวน “พูดดีเป็นศรีแก่ตัว พูดชั่วอัปราชัย” และ “ปลาหมอตายเพราะปาก” เขากำลังเดือดร้อนเพราะการจ้อไปเรื่อย พล่ามโดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีของเขานั่นเอง

Big Mouth คือซีรีส์อีกเรื่องที่กำลังได้รับความสนใจจากคอซีรีส์ในเวลานี้ จุดเริ่มต้นมันอาจจะมาจากการจับคู่พระ-นางที่ถือว่าเป็นระดับแม่เหล็กของวงการก็จริง แต่ที่ดึงคนดูไว้ได้อยู่หมัดน่าจะเป็นเนื้อเรื่องมากกว่า เหตุการณ์ล่าสุดใน EP3 (ต่อ EP4 คืนนี้) มันกำลังดุเดือดเลือดพล่านจนหยุดดูไม่ได้จริง ๆ ทำเอาคืนวันศุกร์และวันเสาร์หรรษาครึกครื้นอีกครั้ง หลังจากที่แผ่วลงเพราะซีรีส์หลายเรื่องทยอยจบไป เรตติ้งก็ไม่ไก่กา ทำเรตติ้งสูงสุดไปที่ 7.6% แล้ว

ภาพจาก MBC

พระเอก อีจงซอก ไอ้ต้าวเป็ดของเกาหลีไม่เคยทำให้ผิดหวัง แม้ว่าคาแรคเตอร์ในช่วงต้นเรื่องจะค่อนข้างน่ารำคาญไปนิดตรงที่ว่าคนอะไรจะขี้โม้ปานนั้น มันขัดกับความหล่อและภาพลักษณ์เดิมของเขา บทบาททนายความหางแถว บุคลิกเด๋อ ๆ เอ๋อ ๆ กลัวเมียเก่ง ทำอะไรก็ไม่สำเร็จถ้าไม่มีเมียคอยหนุนหลัง ห่วยแตกขนานแท้ แถมยังเป็นพวก “ใจกากแต่ปากเก่ง” จุดนี้นี่แหละที่นำความหายนะมาสู่ตัว

ภาพจาก MBC

ส่วนนางเอก อิมยุนอา ฉายาวิชวลแห่งชาติ เซ็นเตอร์แห่งชาติ จากวงเกิร์ลกรุ๊ปแห่งชาติ Girls’ Generation ไม่ได้ได้มาเพราะโชคช่วย เรื่องนี้ยุนอาสวยมากจริง ๆ เมื่อก่อนว่าสวยแล้ว เดี๋ยวนี้คือสวยกว่าเดิมมาก ๆ แถมยังพ่วงด้วยคาแรคเตอร์ผู้หญิงที่ทั้งสวยทั้งแกร่งทั้งกล้าหาญ ภาพลักษณ์เมียในอุดมคติแบบตะโกน เธอกำลังเดินหน้าเต็มสูบเพื่อช่วยสามี (ในเรื่อง) ของเธอ

Big Mouth เป็นเรื่องราวของทนายความง่อย ๆ คนหนึ่งที่ไร้น้ำยา ไร้เงิน ไร้โชค ไร้อำนาจ ไร้เส้นสาย ไร้ความสำเร็จในหน้าที่การงาน เพราะเปอร์เซ็นต์การคว้าชัยชนะในศาลมีเพียงแค่ 10% เท่านั้น ชีวิตมีดีที่สุดก็น่าจะแค่ดวงแข็งอายุยืน ได้เมียสายเปย์ที่ประเสริฐสุด ๆ (ต้องไปดูเองว่าผู้หญิงคนนี้เปย์สุดแค่ไหน) และพ่อตาโคตรจะรัก (ถึงขั้นที่ทิ้งลูกสาวตัวเองให้อยู่ลำพังได้ แต่ตัดใจทิ้งลูกเขยไม่ได้) ความง่อยของเขาดำเนินมาจนถึงวันที่เขาได้รับโทรศัพท์ว่าจ้างให้เป็นทนายแก้ต่างให้กับจำเลยในคดีฆาตกรรม แต่มันไม่ใช่คดีฆ่ากันตายธรรมดา มันเกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจตัวเป้งของเมืองหนึ่งหลายคน และยังมีความจริงอีกหลายอย่างที่ยังโดนหมกเม็ดไว้

ความที่อยู่ดีไม่ว่าดี อยากดัง อยากรวย ทั้งที่ต่อรองราคาไม่เป็น เขาเที่ยวปากมากไปทั่วสมฉายาบิ๊กเมาธ์ (Big Mouth) มันนำพาเขาไปสู่หายนะใหญ่หลวง เขาถูกใส่ร้ายให้กลายเป็นนักต้มตุ๋นอัจฉริยะในชื่อบิ๊กเมาส์ (Big Mouse) อาชญากรหนูยักษ์ที่เป็นตำนานของประเทศเพียงชั่วข้ามคืน แรกเริ่มเขาปฏิเสธเต็มที่และเดินหน้าต่อสู้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ แต่หลังจากที่พบว่ากลุ่มคนที่เขาเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยอำนาจมันล้นฟ้าเกินไป ความหวังที่จะเดินเกมแบบคนดีพิสูจน์ความยุติธรรมให้ตัวเองมันเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อไม่มีอะไรจะเสียแล้ว หนทางเดียวที่เขาจะเอาตัวรอดได้คือการสวมรอยเป็น Big Mouse ตัวจริงมันซะเลย เพื่อที่จะปกป้องครอบครัวและเปิดโปงเบื้องหลังพวกชนชั้นสูงนั่น

ปาก นำพามาซึ่งความซวย

อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นของคอลัมน์นั่นแหละค่ะ ปมหลักของซีรีส์เรื่องนี้มันทำให้นึกถึงสารพัดสำนวน สุภาษิต หรือคำพังเพยที่สั่งสอนและเตือนใจเกี่ยวกับ “การพูด” อย่างในภาษาไทยมีอยู่มากมายเลยทีเดียว ถ้าให้นั่งนึกนั่งไล่ไล่ก็คงเสียเวลาไม่น้อย เอาเข้าจริงซีรีส์เรื่องนี้ก็เน้นให้เห็นชัด ๆ ตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้ว Big Mouth ไม่อาจแปลตรงตัวว่าปากใหญ่ เพราะในภาษาอังกฤษคำนี้ก็เป็นสแลง ความหมายในเชิงลบที่หมายถึงพวกที่ดีแต่ปาก ชอบพูดโอ้อวดอะไรโดยไม่คิด ปากมาก ปากสว่าง ช่างจ้อ ขี้โม้ ขี้คุย สุดท้ายแล้วก็เหมือนกับแกว่งปากไปหาเสี้ยน เจอดีเข้าจนได้

ภาพจาก MBC

เพราะ “ปาก” ที่พูดไม่คิด ขี้โม้จ้อไปเรื่อย ปากดี ปากมาก เก่งแต่ปาก นำพาพระเอกของเราเข้าไปพัวพันกับคดีใหญ่ของคนชั่วระดับอภิสิทธิ์ชนที่เกิดมาบนกองเงินกองทอง จากทนายความที่ปกติก็ง่อย ๆ ไร้น้ำยาอยู่แล้ว พลาดท่าจนตรอกจนกลายเป็นคนคุก แถมยังพ่วงด้วยตำแหน่งอาชญากรระดับชาติที่ใคร ๆ ก็พูดถึง คนบริสุทธิ์ต้องใช้ชีวิตอยู่ในคุกในคราบของคนผิดมันไม่ง่ายเอาซะเลย จนในที่สุดเวลานี้พระเอกของเราก็ได้เรียนรู้เสียทีว่าเขาเคยใช้ “ปาก” ผิดพลาดมามากแค่ไหน และเขาควรจะใช้ “ปาก” ให้เป็นประโยชน์มากกว่านี้ได้อย่างไร

ภาพจาก MBC

หลัก ๆ แล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ก็ชูโรงในเรื่องของ “การใช้ปากเพื่อพูดแต่ในสิ่งที่มีประโยชน์” และ “อย่าปากพล่อยพูดไม่คิด จะเดือดร้อนเพราะปาก” ทุกคำพูดที่พูดออกมาล้วนมีราคาที่ต้องจ่าย โดยราคาของมันอาจจะแพงมากจนถึงขั้นที่เราจ่ายไม่ไหวก็ได้ แล้วจะยังไงดีล่ะในเมื่อพูดออกไปแล้วก็ต้องรับผิดคำพูดของตัวเองวนไป ดังนั้น เตือนสติตัวเองไว้เสมอว่าต้องคิดก่อนพูดทุกครั้ง อย่าต้องมาเดือดร้อนเพราะคำพูดหรือตายเพราะปากของตัวเอง ก่อนจะพูดเราเป็นนาย แต่พูดไปแล้ว คำพูดกลายเป็นนายเรา พูดอะไรออกมาแล้วความรับผิดชอบจะตามมาอย่างแน่นอน

คนส่วนใหญ่แยกดีชั่วไม่ออกหรอก เพราะมัวแต่ก้มหน้าทำมาหากินอยู่

ใช่ เป็นเรื่องที่จริงสุด ๆ ไม่ว่าจะในสังคมไหนก็ตาม คิดว่าใครจะมาสนอกสนใจเรื่องความเป็นธรรมในสังคมกันล่ะ ถ้าข้าวยังไม่มีจะกิน ถ้าท้องยังไม่อิ่ม ใครจะมาเสียสละตัวเองทำตัวเป็นคนดีเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น สัญชาตญาณดิบของคนเราน่ะมีชีวิตอยู่ก็เพื่อตัวเอง ทำเพื่อตัวเองกันทั้งนั้นแหละ อย่าคาดหวังว่าทุกคนในสังคมจะให้ความร่วมมือ ร่วมด้วยช่วยกันทำให้โลกใบนี้สวยงามและน่าอยู่ มันไม่มีประโยชน์อะไรถ้าชีวิตของพวกเขายังลืมตาอ้าปากไม่ได้!

ภาพจาก MBC

เป็นธรรมดานะที่คนเราจะคิดว่า “เราจะสนใจชีวิตของคนอื่นไปทำไม ใครจะเป็นจะตายก็เรื่องของเขา ไม่ใช่ฉันก็แล้วกัน” แล้วคนที่เมินเฉย นิ่งดูดาย ไม่ยินดียินร้าย ไม่เดือดร้อนอะไรด้วยกับปรากฏการณ์ต่าง ๆ ในสังคม เอาเข้าจริงเขาก็ไม่ได้ผิดอะไร เขาก็แค่ไม่อยากเดือดร้อน ไม่อยากต้องมาเสียเวลาให้กับอะไรมันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเขา ไม่ได้ประโยชนอะไรในชีวิต โดยเฉพาะในสังคมที่คนส่วนใหญ่ยังปากกัดตีนถีบ หาเลี้ยงปากท้องไปวัน ๆ คิดว่าเขาจะสนใจไหมเรื่องความอยุติธรรมทั้งหลายในสังคม จะเป็นฮีโร่สร้างโลกไปเพื่ออะไร พวกเขาไม่ได้มีปากมีเสียงขนาดนั้น

มันอาจจะเป็นความจริงที่น่าเศร้าแหละ ที่การเมินเฉย ไม่ลุกมาต่อต้าน ก็คือการสนับสนุนให้เกิดปรากฏการณ์เลวร้ายในสังคมไม่จบไม่สิ้น แต่มันก็ไม่คุ้มอยู่ดีที่จะลุกมาต่อสู้กับอำนาจที่เราต่างก็ไม่รู้เหมือน ๆ กันว่าความต่ำช้าสามานย์เหล่านั้นมันจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน ไม่รู้ว่าการเป็นฮีโร่ในวันนี้ วันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ความจริงของโลกนี้คือทุกอย่างล้วนถูกปกครองด้วยคนที่มีอำนาจ แน่นอนว่าคนพวกนั้นไม่ได้วิเศษวิโสหรือมหัศจรรย์อะไรไปกว่าเราทุกคน แต่แค่มีอำนาจในมือ ก็กินทุกอย่างขาดแล้ว ยิ่งถ้าหากคนมีอำนาจเป็นคนมีเงินด้วยแล้วล่ะก็ จะเอาชนะยังไงล่ะขอถามหน่อย เขาใช้เงินหว่านซื้อได้ทุกอย่างนะ แม้แต่จิตวิญญาณของคน

ภาพจาก MBC

การนิ่งเฉยจึงเป็นวิธีรับมือที่ดีที่สุดแล้ว แค่ก้มหน้าก้มตาใช้ชีวิตของตัวเองไปก็พอ ไม่แสดงตัวเป็นพวกเดียวกัน เพราะสุดท้ายก็ไม่แคล้วถูกหลอกใช้ให้ทำนั่นทำนี่เพื่อประโยชน์ของคนที่อยู่สูงกว่า หรือเป็นได้แค่หมากในกระดานที่ถ้าหมดประโยชน์ก็ถูกเขี่ยทิ้ง และไม่แสดงตัวเป็นศัตรูด้วย แบบนั้นยิ่งแล้วไปกันใหญ่ อาจถูกกำจัดตั้งแต่ยังไม่ทันทำอะไรเลยด้วยซ้ำไป ไม่ซีกมันงัดไม่ซุงไม่ง่าย ทำไปก็ไม่ได้อะไร เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นเรื่องราวในละคร ฮีโร่มีอยู่จริงในเรื่องแต่ง

คนที่มีทางรอดก็ต้องรอดสิวะ

เป็นซีรีส์ที่ดูแล้วค่อนข้างปวดหนึบในใจ เคมีการจับคู่พระ-นางของจงซอกและยุนอา บวกกับการแสดงของทั้งคู่คือเก่งมากที่ทำให้คนดูรู้สึกว่าพวกเขาเป็นคู่สามี-ภรรยาที่รักกันมากจริง ๆ วงวารจงซอก พระเอกที่ให้เมียรอนอกคุกมาแล้ว 2 เรื่อง กับการต่อสู้ที่ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไร จะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง ได้พรากชีวิตที่มีความสุขของคู่สามี-ภรรยาที่รักกันมากไป ในขณะที่คนหนึ่งกำลังคิดที่จะยอมแพ้ จำนนต่อโชคชะตา ที่ดูแล้วไม่มีความหวังที่รอด การขอหย่ากับภรรยาเพื่อไม่ให้ภรรยาต้องมาเดือดร้อนไปด้วย เป็นสิ่งเดียวที่เขาจะทำเพื่อเธอได้ แต่เธอก็ทำใจไม่ได้ที่จะเซ็นใบหย่า แล้วทอดทิ้งให้เขาต้องเผชิญหน้ากับความลำบากอยู่คนเดียว เป็นภรรยาสุดแกร่งที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อสามี

ภาพจาก MBC

แอบคิดเหมือนกันนะว่าซีรีส์เรื่องนี้ตั้งใจจะให้บทของผู้หญิงซึ่งเป็นภรรยาผู้รอสามีอยู่นอกคุกเด่นกว่าหรือเปล่า แต่คิดว่าคงไม่ ซีรีส์คงไม่เอาพระเอกระดับจงซอกมานอนเปื่อยโดนรังแกในคุกเฉย ๆ แต่ก็เดาไม่ออกว่าเรื่องจะเล่าบทบาทพระเอกไปในทิศทางไหนเพราะตัวเขาอยู่ในคุกไม่มีอิสระที่จะทำอะไรได้มากเท่าที่ควร แถมตอนนี้เขาก็มีวิธีเอาตัวรอดวิธีใหม่โดยที่ยังไม่บอกภรรยา ก็ไม่รู้ว่าต่อไปวิธีต่อสู้ของทั้งคู่จะขัดแย้งกันแค่ไหน ถ้าเขาต้องสวมรอยเป็น Big Mouse เพื่อพาตัวเองออกไปจากคุก และเพื่อค้นหาความจริงว่าใครที่ใส่ร้ายเขา ทำไปทำไม แล้วใครคือ Big Mouse ตัวจริง แต่ภรรยาที่ต่อสู้อยู่นอกคุกก็ยังยืนกรานว่าเขาไม่ใช่ Big Mouse

อย่างที่บอกว่าเธอเป็นภรรยาสายเปย์ที่ทุ่มเททุกอย่างได้เพื่อสามี เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยคบกันเป็นแฟน โดยเธอเองนี่แหละที่เป็นคนทำให้เขาก้าวมาเป็นทนายความด้วยการสนับสนุนทั้งเงินและกำลังใจ เมื่อเธอรู้ว่าสามีของตัวเองถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาชญากรระดับชาติ เธอก็มีสติมากพอที่จะบอกกับเขาว่าเธอเชื่อในตัวเขา ขอให้เขาเชื่อมั่นในเราและอดทน เธอเริ่มวางแผนและเดินเกมลบล้างมลทินออกจากชื่อของสามีด้วยตัวของเธอเอง

ภาพจาก MBC

เธอไม่ใช่ภรรยาประเภทที่จะเอาตัวรอดไปเพียงคนเดียว เพราะกลัวถูกตราหน้าว่าเป็นเมียของอาชญากรระดับชาติไปตลอดชีวิต แถมยังกระโจนเข้าหาอันตรายทั้งที่รู้ว่าเสี่ยงมากเพื่อช่วยสามี เธอเพิกเฉยต่อทางรอดที่สามีหยิบยื่นให้ว่าคนที่มีทางรอดก็ต้องรอด แต่เธอคือผู้หญิงที่จะตายตามเขาไปเพื่อไปอยู่โลกหน้าด้วยกัน ถ้าเขาต้องตายอย่างไม่ยุติธรรมในคุก เขายอมหย่าตัดขาดจากเธอเพื่อให้เธอรอดไม่ต้องมาเกี่ยวข้องอะไรกับเขา ส่วนเธอก็ทำทุกอย่างเพื่อให้เขารอด คือเราจะเห็นรักแท้ที่ต่างก็สู้สุดทางในแบบของตัวเองเพื่อคนที่รัก มันแสนจะเศร้าและอบอุ่นไปพร้อมกัน

บอกเลยว่าซีรีส์เรื่องนี้กำลังเดือดปุด ๆ ทั้งที่ออนแอร์ได้แค่ 3 ตอนเท่านั้น ตอนที่ 4 ในคืนนี้ก็มีปมชวนเกาหัวให้ลุ้นอีกเยอะ พระเอกจะรอดชีวิตออกจากคุกยังไงก่อนในเมื่อโดนเล่นทุกทางขนาดนี้ แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้พ่อเล่นบทโหดแล้ว พ่อกำลังเชื่อว่าตัวเองเป็น Big Mouse เพื่อที่จะทำให้คนอื่นเชื่อเหมือนกันว่าเขานี่แหละตัวจริง เขาต้องรอดออกไปหาศรีภรรยาให้ได้ ล้างบาปให้ตัวเอง และจัดการโค่นอำนาจพวกคนชั่วให้สิ้นซาก 👄