เมื่อค่ายซูเปอร์คาร์ ลุยตลาดรถ EV

หากเอ่ยถึงค่ายรถซูเปอร์คาร์ ทุกคนย่อมนึกถึงรถสมรรถนะสูงที่มาพร้อมกับความเร็วและแรง จุดเด่นอยู่ที่ขุมกำลังเครื่องยนต์ที่รีดแรงม้าได้มหาศาล ทว่าในยุคปัจจุบัน ที่โลกของรถยนต์กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่รถพลังงานไฟฟ้าหรือ EV ส่งผลให้รถระดับซูเปอร์คาร์ จำเป็นที่จะต้องพัฒนาซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าที่ไร้เครื่องยนต์ควบคู่ไปด้วยเช่นเดียวกัน

เริ่มจากยี่ห้อที่เป็นสัญลักษณ์ของซูเปอร์คาร์อย่าง เฟอร์รารี่ ที่ก่อนหน้านี้หากย้อนกลับไป 2 ปี เคยมีการยืนยันจากผู้บริหารระดับสูงว่า เฟอร์รารี่ ไม่มีวันที่จะผลิตรถไฟฟ้าแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ออกสู่ตลาด พร้อมยืนยันแนวทางการใช้เครื่องยนต์สันดาปควบคู่ไปกับระบบไฟฟ้าไฮบริดเท่านั้น เพื่อคงเอกลักษณ์ความเป็น “ม้าลำพอง” เอาไว้ อาทิ เฟอร์รารี่ Ferrari SF90 Stradale ที่ใช้เครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 780 แรงม้าจับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 3 ตัว 220 แรงม้า ทำให้ทำพลังรวมได้สูงสุด 1,000 แรงม้า

ทว่าท่าทีล่าสุดจากค่ายม้าลำพองสีแดงเพลิง ในปี 2022 นี้ ได้มีการกลับลำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังนโยบายของ คณะกรรมการธิการยุโรปหรือ European Commission เตรียมประกาศแบนรถยนต์ใหม่ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปตั้งแต่ปี 2035 เป็นต้นไป ส่งผลให้เฟอร์รารี่ ประกาศเดินหน้าสู่การผลิตซูเปอร์คาร์ EV ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2025

โดยเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Ferrari แถลงเปิดตัว Benedetto Vigna อดีตผู้บริษัทบริหารจากบริษัทผลิตชิปในสวิตเซอร์แลนด์วัย 52 ปี เข้ามามาเป็น CEO คนใหม่ โดยมีเป้าหมายพาแบรนด์ซูเปอร์คาร์เก่าแก่ของอิตาลี ไปสู่ยุค EV แบบเต็มตัว ภายใต้แนวคิด การเดินทางที่ด้วยพลังที่สะอาดกว่าและขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งคงต้องจับตาดูกันว่า Ferrari EV คันแรกของค่าย จะมีรูปโฉมอย่างไร และซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าคันนี้จะมีความแรกทะลุ 1000 แรงม้าเหมือนกับรถไฮบริดรุ่นล่าสุดของพวกเขาหรือไม่

ขณะที่ค่ายซูเปอร์คาร์คู่แข่งร่วมชาติอย่างลัมโบร์กินี่ ก็ประกาศเดินหน้าเตรียมผลิตซูเปอร์คาร์ EV เป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน พร้อมมีการเผยรายละเอียดเบื้องต้นของลัมโบร์กินี่ ไฟฟ้าล้วน ออกมาอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันยังมีการเปิดเผยว่าลัมโบร์กินี่ รุ่นดัง อาทิ Aventador และ Huracán และ Urus ก็เตรียมพัฒนาเป็นรถพลังไฟฟ้าอีกด้วย

โดย Stephan Winkelmann ซีอีโอมาดเท่ ของลัมโบร์กินี่ เปิดเผยว่า รถซูเปอร์คาร์ EV คันแรกของค่าย จะเป็นรถยนต์ 2 ประตู 2+2 ที่นั่งแบบ GT ที่ได้รับการออกแบบขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ภายใต้แนวคิดที่จะต้องทำให้รถคันนี้มีความแตกต่างจากรถเครื่องยนต์สันดาปเดิม ๆ แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นกระทิงดุแบบลัมโบร์กินี่เอาไว้

ขณะเดียวกัน ซีอีโอ ลัมโบร์กินี่ ยังเปิดเผยจุดยืนของตัวเองด้วยว่า แม้ค่ายรถดังอื่น ๆ ในยุโรปจะพากันเปิดตัวรถ EV ออกสู่ตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ลัมโบร์กินี่ ต้องการความพร้อมที่สุดทั้งในเรื่องของแบตเตอรี่และสถานีชาร์จ พร้อมประกาศว่าลัมโบร์กินี่ EV อาจไม่ใช่ the first one แต่มั่นใจได้ว่าเมื่อเปิดตัวออกมาแล้วจะต้องเป็น the best one ของซูเปอร์คาร์ EV ได้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้แม้ 2 ค่ายซูเปอร์คาร์อย่างเฟอร์รารี่และลัมโบร์กินี่ จะยังไม่เผยโฉมรถ EV รุ่นแรกออกมา แต่คาดกันว่า ด้วยความที่เป็นรถซูเปอร์คาร์ จะต้องผลิตออกมาไม่น้อยหน้ารถ EV รุ่นที่ผลิตและมีจำหน่ายอยู่ในเวลานี้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอัตราเร่งของรถที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ที่รถ EV 5 รุ่นท็อป ในตลาดเวลานี้ มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง อยู่ในเวลา 3 วินาที เลยทีเดียว