EVE ฉันจะลากพวกคุณทุกคน เข้ามาในกองเพลิงที่แผดเผาฉัน

ภาพจาก Facebook : tvN Drama

เคยได้ยินมาว่า “ความแค้น” มีพลังอำนาจมากพอที่จะต่อลมหายใจให้กับคนที่สูญเสียจนไม่เหลืออะไรที่จะเสียอีกแล้ว พวกเขาจะพยายามทุกวิถีทางที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ เดิมพันทุกอย่างที่มี เทหมดหน้าตักแม้กระทั่งชีวิตตัวเอง ทั้งหมดนั้นก็เพื่อรอ “วันแก้แค้น”

จากย่อหน้าข้างต้น ฟัง ๆ ดูแล้วมันอาจจะดูเหมือนพล็อตละครจ๋าเลยเนอะ เอาเข้าจริง ในชีวิตจริงก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะมีใครที่มุ่งมั่นทุ่มเทได้แม้แต่ชีวิตตัวเองเพื่อแก้แค้นได้หรือเปล่า เพราะก็ไม่เคยมีกรณีศึกษาให้เห็นเป็นรูปธรรมขนาดนั้น ส่วนใหญ่ถ้าแค้นมากก็เห็นว่าหาปืนมาดักยิงทิ้งเดี๋ยวนั้นหรือไม่ก็วางยาเบื่อฆ่าให้ตายไปเลย ไม่มาเสียเวลาวางแผนลึกลับซับซ้อนเป็นปี ๆ เก็บความเจ็บปวดทรมานไว้ในใจเพื่อรอชำระแค้นแบบนั้นหรอก และที่น่าสนใจก็คือ มนุษย์เราจะขายวิญญาณให้กับความเคียดแค้นได้มากขนาดที่ยอมทำลายชีวิตตัวเองอีกครั้งได้จริง ๆ น่ะเหรอ

ชีวิตจริงน่ะไม่รู้หรอกว่าจะมีใครทำอไรแบบนั้นไหม แต่ที่แน่ ๆ งานขายความแค้นและการแก้แค้นอย่างดุเดือด ส่วนมากเราจะเห็นมันรูปแบบของพล็อตละครหรือซีรีส์เสียมากกว่า งานบันเทิงคดีลักษณะนี้เกิดขึ้นมาก็เพื่อให้มนุษย์ได้ปลดปล่อยบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในใจ ที่ชีวิตจริง ๆ ทำไม่ได้ การได้ดูละครหรือซีรีส์แนว ๆ นี้ ได้ร่วมลุ้นเพื่อเอาใจช่วยตัวละคร ได้ร่วมเดินเกมที่สุดแสนจะอันตรายผ่านตัวละคร รวมถึงการได้ข้อคิดอะไรบางอย่างจากการกระทำของตัวละคร เติบโตไปพร้อมกับตัวละคร ที่ในท้ายที่สุดก็จะมีจุดจบแตกต่างกันไป เป็นผลของการกระทำที่ตัวเองก่อไว้

ที่เท้าความเรื่องความแค้นมาเสียยืดยาว จริง ๆ แล้วแค่กำลังเกริ่นตอนต้นของคอลัมน์ให้เข้ากับซีรีส์ในวันนี้ พล็อตเรื่องแบบแค้นและแก้แค้นของซีรีส์เกาหลีไม่ได้มีดาษดื่นเหมือนละครไทยก็จริง แต่ก็มีผลิตออกมาอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งตัวพล็อตไม่ได้ต่างกัน แต่การเขียนบทของคนเขียนบททำให้รายละเอียดของละครหรือซีรีส์แนวนี้ของ 2 ชาติต่างกัน เท่าที่สังเกตจากซีรีส์เกาหลีหลาย ๆ เรื่อง พบว่ามันจะมีการหักมุม มีความแยบยล แยบคาย ฉลาด มีไหวพริบ เดินเกมเก่ง ดูมีเสน่ห์ในการนำเสนอความแค้นให้ออกมา ตัวละครอาจดูจิต ๆ บ้าง และมีกลิ่นอายของน้ำเน่าเบา ๆ ในบางเรื่อง

ภาพจาก Facebook : tvN Drama

ซึ่งถ้าพูดถึงซีรีส์เกาหลีที่มีพล็อตเรื่องแบบแค้น-แก้แค้น นาทีนี้ต้องยกให้ซีรีส์เรื่อง EVE บอกเลยว่าการเปิดตัวซีรีส์เรื่องนี้เป็นที่ฮือฮามากในหลาย ๆ กรณี กรณีแรกคือการคัมแบ็กจอครั้งแรกในช่วงเวลา 2 ปีเต็มของ ซอเยจี หลังจากที่จบซีรีส์เรื่อง It’s Okay to Not Be Okay ไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และเธอเองก็ถูกขุดข่าวฉาวขึ้นมาหลายอย่างตอนที่กำลังมีกระแสจากเรื่องนั้น และมีข่าวว่าเตรียมมีซีรีส์เรื่องใหม่ เป็นเวลากว่า 10 เดือนที่เธอหายไปเพื่อรอให้ข่าวฉาวซาลง รอให้ชาวเน็ตที่กำลังเดือดเย็นลง เธอออกจดหมายขอโทษผ่านต้นสังกัด เอาเป็นว่าเธอก็กลับมาอย่างสง่างาม

อีกกรณี อันนี้เกี่ยวข้องกับซีรีส์โดยตรง เพราะโทนเรื่องและคาแรคเตอร์ของตัวละครต่าง ๆ ในเรื่อง EVE นั้น มีความแซ่บระดับ 10 กะโหลก เปิดตัวมา 2 อีพีแรกก็ร้อนแรงเกินต้าน เพราะก่อนออกอากาศทางทีมผู้สร้างเล่นยกระดับความเหมาะสมของอายุผู้ชมสูงเป็น 19+ ยังไม่พอ ในอีพีที่ 4 ก็มีการจัดเรตผู้ชมที่ 19+ อีกครั้ง ทำเอาคนสงสัยว่ามันต้องแซ่บขนาดไหนถึงจัดเรตไว้ขนาดนี้ พอได้ดูแล้วก็จะเข้าใจได้ว่าทำไมต้องติดเรตผู้ชม 19+ แต่ส่วนตัวแล้วก็เฉย ๆ นะ มันดูติดเรตก็จริง แต่ก็ไม่ได้อะไรขนาดนั้นอะ รู้สึกได้ว่าเป็นศิลปะมากกว่า (ฉันตายด้านไปแล้วหรือไง!)

ภาพจาก Facebook : tvN Drama

EVE เป็นซีรีส์แนวเมโลดราม่า ที่เล่าเรื่องราวเบื้องหลังคดีฟ้องหย่า 2 ล้านล้านวอนของตระกูลแชบอล (ตระกูลมหาเศรษฐีระดับสูง ที่มีเพียง 0.1% ของเกาหลีใต้) จนทำให้ผู้คนช็อกกันทั้งประเทศ จุดเริ่มต้นมาจากการเดินเกมแก้แค้นของหญิงสาวคนหนึ่งโดยการใช้ตัวเข้าแลก จากเด็กสาวลูกคนรวยที่มีพ่อเป็นอัจฉริยะและแม่เป็นหญิงผู้งดงามกลายมาเป็นผู้หญิงที่มีความสวยและความฉลาดเป็นอาวุธ เธออันตราย มีเสน่ห์เข้าขั้นหายนะ จนเธอกลายเป็นศูนย์กลางของคดีหย่าร้างที่มีราคาแพงระยับ โดยเธอใช้เวลาออกแบบการแก้แค้นนี้มานานถึง 13 ปี!

ผู้หญิงสวยมักอันตราย

สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ บอกเลยว่าข้อความที่ว่า “ผู้หญิงสวยมักอันตราย” มันไม่เกินจริงเลย เพราะซอเยจีในบทของ “อีราเอล” ไม่ได้แค่มาเต้นแทงโก้สุดเร่าร้อน ยิ้มสวย ๆ เดินสับ ๆ ฟาด ๆ แค่นั้นจบ แต่คาแรคเตอร์ของตัวละครตัวนี้มันเข้าขั้น “สวยสังหาร” มีความร้ายลึกแค้นฝังหุ่นแบบที่ทำให้ตัวเราในฐานะผู้หญิงด้วยกันยังรู้สึกเจ็บปวดตามไปด้วย เพราะเธอถึงขนาดที่เอาตัวเข้าแลก ใช้ชีวิตของตัวเองเป็นเดิมพันขนาดนั้น เรียกได้ว่าขายจิตวิญญาณให้กับการแก้แค้นครั้งนี้เลยก็ว่าได้ เธอไม่สนใจความถูกผิดอะไรอีกแล้ว

ภาพจาก Facebook : tvN Drama

ทุกคนที่อยู่รายรอบเธอในเวลานี้เป็นคนที่เธอเคียดแค้น และล้วนเป็นหมากในเกมการแก้แค้นที่เธอวางโปรเจกต์มานานถึง 13 ปี เด็กสาวที่เมื่อ 13 ปีก่อน อายุเพียง 15 ปีเท่านั้น ต้องเผชิญกับชะตากรรมที่โหดร้าย ครอบครัวของเธอพังทลายลง สูญเสียทุกอย่างที่มีให้กับนักการเมืองผู้มีอิทธิพลผู้ที่โลภไม่รู้จักพอ ไม่ว่าจะเป็นเงิน บริษัท พ่อแม่ และชีวิตที่สนใสของเด็กวัย 15 ปี เธอหายไป 13 ปี แล้วกลับมาพร้อมกับตัวตนใหม่ที่ไม่มีใครจำได้ ไม่มีใครคาดคิดหรอกว่าเด็กสาววัย 15 ปีจะยังไม่ตาย และคัมแบ็กกลับมาทำลายชีวิตทุกคนแบบ x10 จากที่เธอเคยเจอ ในสภาพเช่นนี้

เอาจริง ๆ แล้วซีรีส์เกาหลีที่ใช้ไฟกามารมณ์และแรงปรารถนาเป็นเครื่องมือในการล้างแค้นนั้นก็มีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ แทบจะเป็นเครื่องมือหลักในการแก้แค้นของซีรีส์แนวนี้ด้วยซ้ำ อย่างเรื่องนี้ก็กล้าที่จะนำเสนอมารยาหญิงและเรื่องบนเตียงของนางเอกอย่างเผ็ดร้อน การแก้แค้นที่กำลังจะเริ่มต้น เธอตั้งใจที่จะลากทุกคนเข้าสู่กองเพลิงที่เคยแผดเผาตัวเธอให้มอดไหม้ไม่เหลือแม้แต่ธุลี ทั้งอ่อย ทั้งให้ท่า ทั้งใช้เสน่ห์ล่อลวง แผนที่เธอวางไว้ทั้งซับซ้อน ทั้งละเอียดอ่อน และร้ายกาจ ซึ่งในท้ายที่สุดมันจะคุ้มค่ากับผลที่ตามมาหรือเปล่า และเธอจะทำสำเร็จไหมในเมื่อเธอยอมแลกขนาดนี้

ตอนนี้ฉันมีอำนาจจะปกป้องเธอแล้ว

ภาพจาก Facebook : tvN Drama

นอกจากนางเอกที่เปิดตัวเดินเกมแบบเร่าร้อนไปด้วยไฟแค้น ซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังพ่วงด้วยตัวละครที่ชวนประสาทแ_กอยู่มากพอสมควร กลิ่นอายโดยรวมของซีรีส์เรื่องนี้มันก็เลยมีความน้ำเน่าชวนประสาทแ_กอ่อน ๆ แต่ก็ไม่ถึงขั้นที่ต้องเปลี่ยนเรื่องดู (ปกติเป็นคนที่ไม่ชอบละครน้ำเน่าเอามาก ๆ เลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องดีกว่าทนดู) เพราะมันมีความน่าติดตามจากแผนการที่แยบยลของนางเอก ความฉลาดเป็นกรด ไหวพริบดีของนางเอก และเนื้อหาที่เข้มข้นมันทำให้ชวนดูต่อ ถ้าดูก็จะเข้าใจได้เลยว่าทำไมคนอื่น ๆ ถึงโอนอ่อนต่อสิ่งที่นางเอกทำไปหมด เธอรู้วิธีที่จะเข้าหาคนพวกนี้

แต่ประเด็นคือทั้งเรื่องจะมีแต่ตัวละครที่ชวนประสาทแ_กไม่ได้ไง ไม่อย่างนั้นมันก็หัวจะปวดตายกันพอดี มันต้องมีตัวละครที่ออกมาแล้วทำให้โทนเรื่องมันเบาลงบ้าง ซึ่งในเรื่องนี้ต้องยกตำแหน่งพ่อหนุ่มไมโครเวฟให้กับท่านส.ส. คือแกพร้อมที่จะร้ายกาจใส่คนอื่นไม่เลือกหน้า แต่กับนางเอกคืออ่อนโยนขั้นสุด

ต้องบอกก่อนว่าระหว่าง 2 คนนี้มีที่มาที่ไป ไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ ส.ส. ก็เข้าหานางเอกนะ เมื่อ 13 ปีก่อนตอนที่นางเอกเจอเข้ากับเรื่องราวสุดเลวร้ายที่พังทลายทุกอย่างที่เธอมี ส.ส. คนนี้เป็นแค่ทนายความผู้เชี่ยวชาญคดีเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน เขาพยายามช่วยเหลือเธอมาตั้งแต่ตอนนั้น แต่ทุกอย่างล้มเหลวไปไม่ถึงฝั่งฝัน เพราะเขาเป็น “คนไม่มีอำนาจ”

ภาพจาก Facebook : tvN Drama

ตอนที่ต้องปล่อยให้เด็กผู้หญิงวัย 15 ปีไปเรียนเมืองนอกคนเดียวเป็นเรื่องที่รบกวนใจเขามาโดยตลอด ทว่าเขาต้องปล่อยเธอไปเพราะเขาได้เรียนรู้จากการพยายามช่วยเหลือนางเอกในช่วงที่ผ่านมา ว่าถ้าเขาไม่มีอำนาจเขาก็ช่วยเหลือใครไม่ได้ แม้ว่าเขาพร้อมจะช่วยเหลือเธอเสมอเท่าที่ทำได้เพียงแค่เธอบอกกับเขาว่าเธอกำลังเจอปัญหา เมื่อนางเอกไปเมืองนอกแล้วหายตัวไป เขาก็พยายามตามหาเธอจนเจอ แล้วพบว่าเธอได้เปลี่ยนตัวตนเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง จากคนที่เป็นแค่ทนายความต๊อกต๋อย กลายมาเป็นส.ส. ที่เตรียมลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาพยายามอย่างหนักที่จะกลายเป็นคนที่มีอำนาจ เพื่อจะกลับไปปกป้องเธอ

คนที่มีอำนาจน่ะ น่ากลัวกว่าคนรวยที่มีแค่เงินทองเยอะ อำนาจอยู่เหนือเงินเสมอ เงินมูลค่ามหาศาลที่เราเห็นว่ามันสามารถใช้ซื้อได้ทุกอย่าง แต่อำนาจก็ใช้ข่มคนมีเงินให้กลัวและยอมทำทุกอย่างแบบแทบเท้าเหมือนกัน และเพราะการใช้อำนาจในทางที่ผิดของนักการเมืองชั่ว ๆ ที่ไม่รู้จักพอตระกูลนั้นนั่นแหละ ที่ทำให้ชีวิตนางเอกต้องเป็นแบบนี้ เปลี่ยนเด็กธรรมดาให้กลายเป็นเด็กที่มีชีวิตอยู่โดยมีความแค้นหล่อเลี้ยง ในวันที่เขาเจอเธออีกครั้ง และกล้าที่จะพูดว่า “ตอนนี้ฉันมีอำนาจจะปกป้องเธอแล้ว” มันคือการเปิดตัวว่าเขาจะอยู่ข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะดีหรือร้าย

หนูก็รู้ว่าแม่เกลียดการที่ตาไม่ยอมรับที่สุด

ตัวละครหลาย ๆ ตัวในเรื่องก็ไม่ได้นิสัยไม่ดี ร้ายกาจ และประสาทแ_ก แบบไม่มีเหตุผล ไม่มีที่มาที่ไป ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด และซีรีส์เกาหลีหลาย ๆ เรื่องก็พยายามจะนำเสนอในจุดนี้ ก็คือการเลี้ยงดูจากครอบครัว พ่อแม่เลี้ยงลูกมาแบบไหน สังคมก็จะได้พลเมืองแบบนั้น (ถ้าเด็กไม่ได้แหกคอกล่ะก็นะ) ฉะนั้น เบ้าหลอมที่สำคัญที่สุดต่อตัวเด็กคนหนึ่งก็คือครอบครัว ซีรีส์เรื่องนี้ก็นำเสนอแนวคิดนี้ผ่านตัวละครหลายตัว

ภาพจาก Facebook : tvN Drama

ด้วยความที่ตระกูลของฝั่งศัตรูนางเอกนั้นเป็นตระกูลแชบอลหรือก็ตระกูลมหาเศรษฐีระดับสูง ที่มีเพียง 0.1% ของเกาหลีใต้เท่านั้น แถมยังเป็นนักการเมืองใหญ่ที่มีอำนาจและบารมี แต่ก็ดันเป็นคนชั่ว โลภมาก ไม่รู้จักพอ จึงพยายามที่จะยึดเอาบริษัทของพ่อนางเอกมาเป็นของตัวเอง หากได้เห็นวิธีการสั่งสอนลูกหลานของบ้านนี้แล้วล่ะก็ ก็จะรู้ว่าทำไมถึงมีลูกสาวนิสัยแบบนั้น นิสัยที่ไม่เห็นหัวคนอื่น คิดว่าตัวเองวิเศษวิโสอยู่คนเดียว เธอทำทุกอย่างเพื่อให้พ่อยอมรับในตัวเธอ จากที่เคยทำดีเพื่อเอาชนะใจก็ไม่ได้ผล หลัง ๆ ก็เลยไม่เลือกแล้ว ดีชั่วทำได้หมด

จริง ๆ แล้วชีวิตของ ฮันโซรา น่าเศร้านะ มันเริ่มมาจากการที่เธอก็รู้สึกไม่มั่นคงในความรักที่พ่อมอบให้ ไม่เคยเชื่อใจลูกตัวเอง ต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองกับทุกเรื่องถึงจะได้รับคำชมเชย พอแต่งงานมีสามี สามีก็ไม่รัก การมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน กลับทำให้เธอต้องเจอเรื่องลำบากใจเพิ่ม เพราะทางพ่อของสามีก็กดดันอยากได้หลานชาย ตัวเธอก็กลัวต้องเสียมรดกให้กับพี่ชายของสามีเหมือนกัน แต่จะทำอย่างไรให้มีลูกล่ะ ในเมื่ออายุเธอก็ปูนนั้น แถมสามีก็ไม่แตะเนื้อต้องตัวเธอเลยมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว จนเธอต้องหาความสุขทางเพศกับลูกน้องในบ้านแทน

เธอรู้สึกได้ว่าสามีไม่เคยเติมเต็มความรักกลับมาให้เธอเลยทั้งที่เธอรักเขาสุดหัวใจ ภายในใจรู้สึกไม่มั่นคงตลอดทั้งจากเรื่องของพ่อและสามี หมกมุ่นอยู่กับการทำให้ตัวเองให้ดูไม่แก่ เพราะกลัวสามีไม่รัก ทั้งที่เขาอาจไม่เคยรักเธอเลยด้วยซ้ำไป กับลูกสาวคนเล็กเธอก็ไม่เคยใส่ใจดูแล โตจนเข้าโรงเรียนในชั้นอนุบาล แต่ไม่เคยสอนลูกให้เข้าห้องน้ำเอง จนเด็กยังต้องใส่ผ้าอ้อมทั้งที่โตแล้ว ทั้งหมดมันเริ่มมาจากคนที่เป็นพ่อเธอทั้งสิ้น จะไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลูกถึงเป็นแบบนี้ เลี้ยงลูกแบบผิด ๆ มาก่อน ก็ไม่ต้องประหลาดใจถ้าลูกจะส่งต่อความผิดพลาดนี้ไปยังรุ่นหลานด้วย

ภาพจาก Facebook : tvN Drama

เมื่อขึ้นชื่อว่าไฟ ถ้าได้ลองลงไปเล่นแล้วล่ะก็ ความพังพินาศเกิดขึ้นแน่นอน ต้องรอดูกันต่อไปว่าอีราเอลจะพาซีรีส์ EVE ไปจบลงที่ตรงไหน เธอจะแก้แค้นสำเร็จไหม แล้วใครบ้างที่ต้องสูญเสียย่อยยับให้กับไฟแค้นของเธอ รวมถึงคุณส.ส. ที่กำลังจะเป็นผู้ช่วยเหลือที่ดีของเธอ สุดท้ายแล้วเขาจะเข้าสู่วังวนของการใช้อำนาจที่ตัวเองไต่เต้ามาไปในทางที่ผิดเพื่อผู้หญิงคนเดียวหรือไม่ 🔥