ภายหลังจาก “ทอฟฟี่เมน” ระโหยโรยแรงร่วงมาอยู่ 3 อันดับรั้งท้ายในตารางพรีเมียร์ลีก ส่อแววว่าจะตกชั้นเอาเสียดื้อ ๆ หนำซ้ำเจ้าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ไม่ทราบเหมือนกันว่าผลิตที่ไหน ดันทำนายซะอีกว่าจะร่วงไปเล่นในเดอะ แชมเปี้ยนชิป
ถึงเวลานี้พอ เอฟเวอร์ตัน เฉือน เชลซี ได้สำเร็จ 1-0 สถานการณ์และกำลังใจของพวกเขาส่อแววดีขึ้นแบบทันตาเห็น แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นยังต้องฝากอนาคตไว้ในมือ แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีมเต็ม ๆ กับอีก 5 นัดที่เหลือ ซึ่งโปรแกรมหนักพอสมควรทีเดียวคือ ออกไปเยือนเลสเตอร์ ซิตี้, เยือนวัตฟอร์ด, เหย้าเจอเบรนท์ฟอร์ด, เหย้าเจอคริสตัล พาเลซ และนัดสุดท้ายต้องไปเยือนอาร์เซนอล
หากพวกเขาสวมหัวใจสิงห์สู้ ผมมองว่ายังมีสิทธิ์ลุ้นเก็บ 9 แต้มจากเกมกับ “แตนอาละวาด”, “น้องใหม่” เบรนท์ฟอร์ด และพาเลซ ถ้าทำได้คำนวณแล้วจะมีรวม 41 แต้ม รอดพ้นโซนอันตรายให้แฟน ๆ ได้ฉลองกัน
การตกชั้นของ เอฟเวอร์ตัน นั้นนับว่าเป็นเรื่องใหญ่กว่า เบิร์นลี่ย์ หรือ ลีดส์ ยูไนเต็ด แน่นอน เพราะทีมจากกูดิสันปาร์ค นั้นอยู่ในลีกสูงสุดมานานนม หลายฤดูกาลที่ผ่านมาลงทุนซื้อและจ้างนักเตะแพง ๆ มาเพียบ รวมทั้งมีโปรเจกต์อลังการจะสร้างสเตเดี้ยมใหม่ขึ้นบริเวณริมแม่น้ำเมอร์ซี่ย์ พวกเขาไม่ได้เตรียมตัวสำหรับสิ่งเลวร้ายนี้
ด้านไฟแนนเชี่ยลสรุปว่าลงทุนไปมหาศาล และเตรียมลงทุนอีกมหาศาล ถ้าพลาดท่าร่วงลงไปนี่ นอกจากแฟน ๆ จะเสียใจหนักแล้ว เจ้าของทีมอย่าง ฟาฮัด โมชิรี่ อาจจะต้องเอาเท้าขึ้นมาก่ายหน้าผาก ปัญหาทางการเงินในระยะยาวของสโมสรรออยู่อย่างแน่นอน
เอฟเวอร์ตัน ซื้อตัวผิดพลาดหนักมาหลายฤดูกาล ไล่มาตั้งแต่ จิลฟี่ ซิเกอร์ดสัน ราคา 45 ล้านปอนด์จากสวอนซี, มอยเซ่ คีน 28 ล้านปอนด์จากยูเวนตุส, เชง โตซุน 27 ล้านปอนด์จาก เบซิคตัส, ไมเคิ่ล คีน 30 ล้านปอนด์จากเบิร์นลี่ย์, ยานนิค โบลาสซี่ 25 ล้านปอนด์ จากคริสตัล พาเลซ, ดาวี่ย์ คลาเซ่น จาก อาแย็กซ์ 24 ล้านปอนด์, เดเล่ อัลลี่ 40 ล้านปอนด์จากสเปอร์ ฯลฯ
คร่าว ๆ เท่านี้ก็ปาเข้าไปเกินกว่า 200 ล้านปอนด์เข้าไปแล้วที่เอาเงินไปเผาทิ้ง ยังมีอีกหลายคนที่ฟอร์มพอไปไหวก็ไม่ว่ากัน
นอกจากนี้แล้วยังมีการเปลี่ยนกุนซือที่เปลี่ยนบ่อยมาก หลังจากที่เดวิด มอยส์ อำลาไปในปี 2013 เอฟเวอร์ตัน ใช้ผู้จัดการทีมไปแล้ว 8 ราย โรเบอร์โต้ มาร์ติเนซ, โรนัลด์ คูมันน์, แซม อัลลาร์ไดซ์, มาร์โก้ ซิลวา, ดันแดน เฟอร์กูสัน (ชั่วคราว), คาร์โล อันเชล็อตติ, ราฟาเอล เบนิเตซ และแฟรงค์ แลมพาร์ด ในช่วงเวลา 9 ปีที่ผ่านมา
ถ้ารอดตกชั้นเที่ยวนี้เห็นทีฝ่ายบริหารจะต้องมีความอดทน ให้เวลาและโอกาสแก่กุนซือหนุ่มอย่าง “แลมพ์” ทำงานแบบต่อเนื่องยาวนานหน่อย รวมทั้งปรับเปลี่ยนการจัดการ สร้างทีมงานแมวมองให้มีความรอบคอบกับการซื้อตัวนักฟุตบอลมากขึ้นกว่าที่มี
ถึงเวลานี้พวกเขาเป็นรอง ลีดส์ กับ เบิร์นลี่ย์ อยู่ 2 คะแนน แต่มีอีก 1 เกมในมือ ลุ้นกันมันส์หยดแน่นอน หวังว่าสุดท้ายแล้วฤดูกาลหน้าเรายังจะได้ชม “เมอร์ซี่ไซด์ดาร์บี้” ต่อไปนะครับ.