เมื่อคุณไปสอบใบขับขี่ที่กรมขนส่งทางบก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ หนึ่งในข้อสอบหรือการอบรมที่ต้องได้รับการอบรม คือการหยุดรถบริเวณทางม้าลายให้คนข้ามถนน หยุดแบบหยุดจริง ๆ ไม่ใช่ค่อย ๆ ชะลอแล้วกินทางเข้าไปบนทางม้าลาย แม้กระทั่งในช่วงเวลาที่รถติด ทางม้าลายก็ต้องถูกเว้นเอาไว้ไม่ขับขี่รถขึ้นไปทับ เพื่อให้เป็นทางให้คนเดิน
ข้อกำหนดในกฎหมายจราจรนั้นระบุชัดเจน คนเดินถนนก็รู้กฎข้อนี้ดี เพราะเป็นกฎสากลที่ใช้กันทั่วโลก แต่ก็ยังมีคนเสียชีวิตเพราะข้ามทางม้าลายจำนวนไม่น้อยทั่วโลก และที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือจำนวนผู้เสียชีวิตนั้นเพิ่มขึ้นทุกปี จึงกลายเป็นคำถามว่าการหยุดรถให้คนข้ามทางม้าลายบนท้องถนนนั้นเป็นเรื่องที่ต้องให้ใช้กฎหมายบังคับอย่างเข้มข้น หรือต้องปลูกจิตสำนึกของคนขับขี่บนท้องถนน หรือต้องเป็นสิ่งที่ต้องทำร่วมกันเพื่อให้คนเดินถนนมีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น ลองมาดูรายละเอียดกัน
บทลงโทษที่เบาโหวงทำให้คนขับขี่ไม่สนใจที่จะหยุด
ในเมืองไทยนั้น ตามกฎหมายจราจร หากไม่หยุดรถให้คนข้ามในทางม้าลายจะผิดมาตรา 21 ลงโทษตามมาตรา 152 ปรับไม่เกิน 1,000 บาท เพราะทางม้าลายนับเป็นเครื่องหมายจราจรที่ได้ติดตั้งไว้หรือทำให้ปรากฎในทาง และผิดมาตรา 70 ด้วย นอกจากนั้นก็ห้ามจอดรถทับทางม้าลายหรือในระยะ 3 เมตร ผิดตามมาตรา 57 ลงโทษตามมาตรา 148 ปรับไม่เกิน 500 บาท
จะเห็นว่าบทลงโทษดังกล่าวนั้นแสนจะเบาโหวง ขณะที่ในประเทศอังกฤษนั้น คนขับขี่ผู้ใช้ถนนรวมไปถึงมอเตอร์ไซค์ ต้องหยุดให้คนข้ามถนนทุกครั้งที่เห็นทางม้าลาย หากไม่ทำตามกฎหมายดังกล่าวจะถูกปรับเป็นเงินจำนวน 100 ปอนด์ หรือคิดเป็นเงินไทย 4,500 บาท ถูกตัดคะแนนใบขับขี่อีก 3 แต้ม ขณะที่บริเวณหน้าโรงเรียนจะคุมเข้มมากกว่า หากพบรถไม่จอดบริเวณทางม้าลาย จะถูกปรับประมาณ 1,000 ปอนด์ หรือ 45,000 บาท และอาจถูกระงับใบขับขี่ด้วย
ด้วยกฎหมายที่เข้มงวด ทำให้อุบัติเหตุบนทางม้าลายในต่างประเทศจะมีตัวเลขน้อยกว่าในไทย แต่ก็ยังมีคนที่ละเมิดกฎหมายดังกล่าวอยู่ดี ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วทางม้าลายสำหรับคนข้ามถนนนั้นเรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือชั้นดีที่ทำให้คนใช้รถใช้ถนนกับคนเดินถนนสามารถอยู่ร่วมกันได้ แต่ความเห็นแก่ตัวของคนบางกลุ่มที่มองว่าทางม้าลายทำให้พวกเขาช้าลง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วการหยุดให้คนข้ามทางม้าลายนั้นใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาที ซึ่งเวลาดังกล่าวไม่ทำให้ใครช้าลงได้ แต่ถ้าคุณรอไม่ได้อาจหมายถึงการสูญเสียไปเลยหนึ่งชีวิต
การปลูกจิตสำนึกของคนขับขี่บนท้องถนน
เวลาเขียนหรือพูดกับสิ่งที่เรียกว่า “จิตสำนึก” นั้นดูเหมือนจะง่าย แต่ในความเป็นจริงแล้ว จิตสำนึกในการยินยอมมอบความปลอดภัยให้กับคนอื่น หรือคนแปลกหน้าบนท้องถนน สร้างได้ไม่ง่าย ๆ ถ้าครอบครัวไม่ปลูกฝัง
เพราะจิตสำนึกคือบรรทัดฐาน หรือ Norm ในการเติบโตของคนหนึ่งคนที่มาจากครอบครัว หากครอบครัวไม่เคยทำให้เห็น ก็อย่าหวังว่าเด็กจะได้ปลูกจิตสำนึก เพราะเขาจะรู้สึกว่าการที่พ่อหรือแม่หรือคนในครอบครัว ขับรถข้ามทางม้าลายโดยไม่หยุดให้คนข้าม เป็นเรื่องปกติ
แต่ถ้าหยุดให้คนข้ามพร้อมกับก่นด่าคนข้ามถนนให้เด็กฟัง เด็กจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องไม่ปกติ เป็นลักษณะเดียวกับความคุ้นเคยของเด็กที่เติบโตมาในครอบครัวที่ผู้ปกครองกินเหล้า สูบบุหรี่ เด็กก็จะคิดว่าการกินเหล้าหรือสูบบุหรี่เป็นเรื่องปกติ เพราะคนที่เป็นพ่อแม่ทำให้ดู
ดังนั้น การปลูกจิตสำนึกให้คนขับขี่บนท้องถนนเพื่อให้เข้าใจถึงเหตุผลว่าทำไมต้องหยุดรถให้คนข้ามจึงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากในสังคมปัจจุบัน ที่ส่วนใหญ่แล้วพ่อแม่หรือผู้ปกครองทำเรื่องไม่ปกติให้กลายเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเราอยากเห็นสังคมที่ทุกคนร่วมกันรับผิดชอบ การเริ่มต้นจากตัวเราเองจากวันนี้ ทำให้เด็กในครอบครัวเห็น ก็ยังเป็นการเริ่มต้นที่ไม่สายจนเกินไป