“กรีฑาพาราไทย” พร้อมโกยเหรียญพาราลิมปิก
ทีมวีลแชร์เรสซิ่ง ชี้ มีลุ้นทุกรายการ “พงศกร” ขอทุบสถิติโลก 400 ม.
ทีมวีลแชร์เรซซิ่งไทย จากขวา สายชล คนเจน, พงศกร แปยอ, ภูธเรศ คงรักษ์, ประวัติ วะโฮรัมย์, อภิวัฒน์ แพงเหนือ, มะสบือรี อาแซ, พิเชษฐ์ กรุงเกตุ
ทัพกรีฑาคนพิการทีมชาติไทย พร้อมออกศึก! “สุพรต เพ็งพุ่ม” โค้ชวีลแชร์เรสซิ่งทีมชาติไทย ชี้ “ทีมนักซิ่ง” มีลุ้นเหรียญทุกรายการ แต่ไม่ขอตั้งเป้าได้กี่ทอง เหตุไม่อยากกดดันนักกีฬา รับประกันได้ฟังเพลงชาติไทยบ่อยแน่นอน ด้าน “กร” พงศกร แปยอ นักวีลแชร์เรสซิ่งเจ้าของ 2 ทอง “ริโอเกมส์” ตั้งเป้าป้องกันแชมป์ทั้ง 2 รายการ พร้อมมุ่งมั่นหวังทำลายสถิติโลก รายการ 400 ม. หลังเคยทำได้ในศึกชิงแชมป์ประเทศไทยที่ผ่านมา ขณะที่ทีมกรีฑาคนตาบอดไทย บอกมีลุ้นที่ สุนีย์ภรณ์ ถนอมวงค์ หากไม่มีอาการบาดเจ็บก่อนรอบชิงฯ ได้วัดแน่นอน
ประวัติ วะโฮรัมย์ นักวีลแชร์เรซซิ่งทีมชาติไทย ดีกรี 2 เหรียญทองพาราลิมปิก 2016
ตามที่ “ทัพนักกีฬาพาราทีมชาติไทย” ที่กำลังเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จะแข่งขันกันระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม ถึง 5 กันยายน 3564 โดยมีนักกีฬาพาราไทย ได้สิทธิ์เข้าร่วมชิงชัยทั้งหมด 75 คน จาก 14 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย เทควันโด, ยิงธนู, แบดมินตัน, วีลแชร์ฟันดาบ, ยกน้ำหนัก, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, กรีฑา (ลู่-ลาน,วีลแชร์เรซซิ่ง), จักรยาน, ยิงปืน, วีลแชร์เทนนิส, บอคเซีย, ฟุตบอลตาบอด และยูโด ซึ่งถือเป็นการแข่งขันพาราลิมปิกที่มีนักกีฬาไทยผ่านเข้าไปร่วมแข่งขันจำนวนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
พงศกร แปยอ นักวีลแชร์เรซซิ่งทีมชาติไทย ดีกรี 2 เหรียญทองพาราลิมปิก 2016
ความเคลื่อนไหวของทีมกรีฑาพาราทีมชาติไทย ที่คว้าสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันในพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ร่วมทั้ง 13 คน แบ่งเป็น กรีฑา ลู่-ลาน 5 คน และ วีลแชร์เรสซิ่ง 8 คน ซึ่งกำลังเดินหน้าเตรียมความพร้อมในช่วงโค้งสุดท้าย อยู่ที่ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา, สนามกีฬากลางจังหวัดสุพรรณบุรี และ สนามศุภชลาศัย อย่างต่อเนื่องในเวลานี้
อภิวัฒน์ แพงเหนือ นักวีลแชร์เรซซิ่งดาวรุ่งทีมชาติไทย
ด้าน นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “วีลแชร์เรซซิ่งถือเป็นกีฬาพระเอกของไทยในการแข่งขันพาราลิมปิกหลายสมัย ผลงานที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าทุกคนมีมาตรฐานที่ไม่เคยตก ที่น่าดีใจคือมีนักกีฬาหน้าใหม่ที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ดีขึ้น ส่วนคนเก่าก็ยังคงรักษาผลงานเอาไว้ได้ดี ไม่ว่าจะเป็น ประวัติ วะโฮรัมย์, พงศกร แปยอ หรือ “น้องฟิว” อธิวัฒน์ แพงเหนือ นักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งดาวรุ่งวัย 18 ปี ซึ่งก็เชื่อว่ากีฬากรีฑาโดยเฉพาะอย่างยิ่งวีลแชร์เรซซิ่งจะประสบความสำเร็จในพาราลิมปิกเกมส์ ที่โตเกียว ครั้งนี้แน่นอน”
ชัยวัฒน์ รัตนะ นักวีลแชร์เรซซิ่งทีมชาติไทย คนพิการทางสมอง
ด้าน “สุพรต เพ็งพุ่ม” หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมวีลแชร์เรสซิ่งทีมชาติไทย เปิดเผยถึงความพร้อมของทีมวีลแชร์เรซซิ่งเวลานี้ต้องบอกว่านักกีฬาทุกคนพร้อมมาก พร้อมมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เพราะการได้เก็บตัวอย่างต่อเนื่องยาวนานเกือบ 4 ปี ส่งผลให้นักกีฬาเรามีความแทบทุกด้าน เพราะมีเวลาแก้ไขจุดอ่อน และเสริมเติมจุดแข็งให้นักกีฬาทุกคนอย่างเต็มที่ ซึ่งนักกีฬาทุกคนมีพัฒนาการที่ดีมากทำให้เราค่อนข้างมั่นใจว่านักกีฬาทุกคนจะผลงานได้ดีอย่างแน่นอน
อังคาร ชะนะบุญ นักกระโดดสูงคนพิการทีมชาติไทย
“ส่วนเป้าหมายหากให้บอกว่าจะได้กี่เหรียญทอง คงจะเป็นการกดดันนักกีฬามากไป แต่จากการเตรียมตัวที่ดี ทำให้พูดได้เต็มปากเลยว่านักกีฬาวีลแชร์เรสซิ่งเรามีโอกาสลุ้นเหรียญรางวัลทุกรายการ และหวังว่าแฟนกีฬาชาวไทยอยากฟังเพลงชาติไทยหลาย ๆ ครั้ง ก็ขอให้พี่น้องชาวไทยส่งกำลังใจมาเชียร์พวกเรากันเยอะ ๆ และเราให้สัญญาว่าจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เช่นกัน”
จิราพร ก๋ากัน นักกรีฑาคนพิการทีมชาติไทย
เฮดโค้ชทีมวีลแชร์เรสซิ่งทีมชาติไทย กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ดีการที่นักกีฬาของเรามีความพร้อมเช่นนี้ ส่วนหนึ่งต้องบอกว่าเป็นเพราะการสนับสนุนจากคุณจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาลิมปิกแห่งประเทศไทย ที่ทำให้นักกีฬาวีลแชร์เรสซิ่งฝึกซ้อมได้อย่างต่อเนื่องที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นครราชสีมา ซึ่งเป็นสนามที่ใช้ลู่ยางมาตรฐานเดียวสนามแข่งขันจริงใน “โตเกียวเกมส์” ส่งผลที่ผ่านมาให้นักกีฬามีสถิติออกมาน่าพอใจและมีความหวังได้ในทุกรายการที่ลงแข่งขัน
สุนีย์ภรณ์ ถนอมวงค์ (ซ้าย) นักกรีฑาตาบอดทีมชาติไทย พร้อมด้วย ปัจจัย ศรีคำพันธ์ ไกด์รันเนอร์
ขณะที่ “กร” พงศกร แปยอ นักวีลแชร์เรสซิ่งทีมชาติไทย ดีกรี 2 เหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์ 2016 ในรายการ 400 ม.และ 800 ม. ที 53 กล่าว ความพร้อมส่วนตัวตอนนี้ต้องบอกว่ามันเกินร้อยเปอร์เซ็นแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาเรามีการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องในสนามที่ได้มาตรฐานทำให้ผมสามารถทำสถิติได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพร้อมแบบเต็มที่ลงแข่งขันในพาราลิมปิกเกมส์เพื่อป้องกันแชมป์ให้ได้อีกสมัย
เจนจิรา ปัญญาทิพย์ นักกระโดดไกลตาบอดทีมชาติไทย
“ในพาราลิมปิกเกมส์หนนี้ได้สิทธิ์ลงแข่งขัน 3 รายการ คือ ระยะ 100 ม., 400 ม. และ 800 ม. ส่วนเป้าหมายแน่นอนอย่างที่บอกผมหวังว่าจะป้องกันแชมป์ให้ได้ทั้งสองรายการ อย่างไรก็ดี รายการที่ผมตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องทำผลงานออกมาให้ที่สุดคือรายการวีลแชร์ 400 ม. ซึ่งผมหวังไว้ส่วนตัวว่าจะต้องที่ทำสถิตโลกรายการนี้ให้ได้ เพราะการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยเมื่อต้นปีที่ผ่านมาผมเคยทำลายสถิติโลกรายการนี้มาแล้ว และคิดว่ามีโอกาสทำได้ด้วยเพราะ 400 ม. จะเป็นรายการแรกที่ผมจะลงแข่งขันในพาราลิมปิกเกมส์หนนี้”
อรวรรณ ไกรสิงห์ นักกรีฑาพิการทางปัญญาทีมชาติไทย
ส่วน “จิระศักดิ์ ปลาทิพย์” หัวหน้าผู้ฝึกสอนกรีฑาคนตาบอดทีมชาติไทย เผยว่า สำหรับทีมกรีฑาคนตาบอดในครั้งเรามีนักกีฬา 2 คนที่คว้าสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน คือ สุนีย์ภรณ์ ถนอมวงค์ (กรีฑาลู่) และ เจนจิรา ปัญญาทิพย์ (กระโดดไกล) เวลานี้ทั้งสองคนถือว่ามีความพร้อมสมบูรณ์ ส่วนเรื่องความหวังเหรียญหวังคงอยู่ที่ “สุนีย์ภรณ์”เพราะด้วยผลงานที่ผ่านมาซึ่งเคยเป็นถึงเหรียญทองแดงในรายการชิงแชมป์โลก ทำให้เราคิดน่าจะมีโอกาสคว้าเหรียญรางวัลได้
ประวัติ วะโฮรัมย์ นักวีลแชร์เรซซิ่งทีมชาติไทย ดีกรี 2 เหรียญทองพาราลิมปิก 2016
อย่างไรก็ดี คงต้องไปวัดกันหน้างานอีกครั้งเพราะในครั้งนี้อาจต้องลงแข่งรอบคัดเลือกถึง 2 หน ก่อนที่จะถึงรอบชิงฯ ทำให้หากไม่มีปัญหาบาดเจ็บเชื่อว่ารอบชิงมีลุ้นแน่นอน
พงศกร แปยอ นักวีลแชร์เรซซิ่งทีมชาติไทย ดีกรี 2 เหรียญทองพาราลิมปิก 2016
ขณะที่ อรวรรณ ไกรสิงห์ นักกรีฑาผู้พิการทางสมอง ที่ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันในพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ในรายการวิ่ง 400 ม.และฝึกซ้อมเตรียมความพร้อมอยู่ ที่ สนามศุภชลาศัย เผยว่า ในเวลานี้ถือว่าพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจที่ไปเข้าร่วมการแข่งขันแล้ว ส่วนเป้าหมายแน่นอนตนเองก็จะหวังที่จะทำผลงานอย่างเต็มที่เพื่อทำผลงานออกมาให้ดีที่สุดซึ่งเชื่อว่าหากถึงวันแข่งขันไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวนตนก็เชื่อว่าเรามีโอกาสลุ้นเหรียญรางวัลได้เช่นกัน
จิราพร ก๋ากัน นักกรีฑาคนพิการทีมชาติไทย
สำหรับรายการที่ทัพกรีฑาคนพิการทีมชาติไทย ทั้ง 13 คน จะลงชิงชัยใน พาราลิมปิกเกมส์ 2020 มีดังนี้
กรีฑา ลู่-ลาน
จิราพร ก๋ากัน (คลาส T46) วิ่ง 100 ม./ 200 ม.
อังคาร ชะนะบุญ (คลาส T47) กระโดดสูง
อรวรรณ ไกรสิงห์ (คลาส T20) วิ่ง 400 ม.
สุนีย์ภรณ์ ถนอมวงค์/ปัจจัย ศรีคำพันธ์ (ไกด์รันเนอร์) ( T11) วิ่ง 200 ม./400 ม.
เจนจิรา ปัญญาทิพย์ (T11) กระโดดไกล
กรีฑา วีลแชร์เรสซิ่ง
ชัยวัฒน์ รัตนะ (คลาส T34) 100 ม./ 800 ม.
พงศกร แปยอ (คลาส T53) 100 ม./ 400 ม./ 800 ม.
พิเชษฐ์ กรุงเกตุ (คลาส T53) 100 ม./ 400 ม./ 800 ม.
มะสบือรี อาแซ (คลาส T53) 400 ม./ 800 ม.
สายชล คนเจน (คลาส T54) 100 ม./ 400 ม./ 800 ม./ 1,500 ม.
ภูธเรศ คงรักษ์ (คลาส T54) 400 ม./ 800 ม./ 1,500 ม./5,000 ม.
ประวัติ วะโฮรัมย์ (คลาส T54) / 800 ม./ 1,500 ม./5,000 ม./มาราธอน
อภิวัฒน์ แพงเหนือ (คลาส T54) 100 ม./ 400 ม.
สุนีย์ภรณ์ ถนอมวงค์ นักกรีฑาตาบอดทีมชาติไทย พร้อมด้วย ปัจจัย ศรีคำพันธ์ ไกด์รันเนอร์
ทั้งนี้ ทีมกรีฑาพาราทีมชาติไทย จะออกเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 19 สิงหาคม 2564
โดยผลงานของทีมกรีฑา ใน “พาราลิมปิก เกมส์” ครั้งที่ผ่านมา ในปี 2016 ที่นครริโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิล ทีมกรีฑาไทย คว้ามาได้ทั้งสิ้น 4 เหรียญทอง จาก ประวัติ วะโฮรัมย์ 2 ทอง ในระยะ 1,500 และ 5,000 เมตร คลาส T54, 2 เหรียญทอง จาก พงศกร แปยอ 2 ทอง จาก ระยะ 400 และ 800 เมตร คลาส T53 ได้ 3 เหรียญเงิน จาก พงศกร แปยอ ระยะ 100 เมตร T53, สายชล คนเจน ระยะ 800 เมตร T54, ผลัด 4×400 เมตร พงศกร แปยอ, ประวัติ วะโฮรัมย์, เรวัตร์ ต๋านะ, สายชล คนเจน และ ได้ 2 ทองแดง จาก สายชล คนเจน ระยะ 1,500 เมตร T53-54 และ พิชญา คูรัตนศิริ ระยะ 1,500 เมตร T51-52