การที่คนสองคนตัดสินใจจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ถ้าต่างกันสุดขั้ว หรือไม่มีอะไรเหมือนกันเลย ก็อาจจะส่งผลให้ขาเตียงสั่นคลอนได้ ซึ่งในทางวิทยาศาสตร์ มีงานวิจัยที่พบว่าคู่รักที่คบหากันได้ยาวนานนั้น มักจะมีคุณลักษณะที่เหมือนกันอยู่หลายประการ
จับเข่าคุยกันเมื่อมีปัญหา
เมื่อไรก็ตามที่มีปัญหาไม่เข้าใจกัน สิ่งสำคัญที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้คือการนั่งจับเข่าคุยกัน เพราะการทะเลาะกันผ่านข้อความหรือตัวหนังสือนั้นอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดจนบานปลายใหญ่โต และทำให้ความสัมพันธ์แย่ลงไปยิ่งกว่าเดิมได้
โดยผลการศึกษาของมหาวิทยาลัย Brigham Young University พบว่าเวลาที่คู่รักทะเลาะกันแล้วส่งข้อความหากันผ่านโทรศัพท์มือถือ แทนที่จะคุยกันแบบเห็นหน้า สามารถส่งผลให้มีความสุขในความสัมพันธ์ลดน้อยลงได้
ตัดสินใจไม่มีลูกด้วยกัน
แม้ว่าคู่รักที่ตัดสินใจแต่งงานกันมักมีความฝันไม่ต่างกัน นั่นคือการมีลูกเพื่อเติมเต็มชีวิตครอบครัวให้สมบูรณ์ แต่ใช่ว่าการมีลูกจะเป็นคำตอบของทุกคู่ ซึ่งจากผลสำรวจเมื่อปี 2014 ที่สอบถามคู่รักที่อยู่ด้วยกันมายาวนาน จำนวน 5,000 คน ปรากฏว่าคู่รักที่ไม่มีลูก (ทั้งที่แต่งงานกันและไม่ได้แต่งงาน) กลับเป็นคู่ที่มีความสุขมากที่สุด
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคู่ที่มีลูกจะไม่มีความสุขในชีวิตคู่ เพียงแต่หลายคู่มักจะกดดันตัวเอง เพราะความอยากมีลูกจึงทำให้เกิดความเครียดได้ และเมื่อมีลูกจริง ๆ ความสัมพันธ์ระหวางกันก็กลับตึงเครียดมากยิ่งขึ้น
คนนึงเป็นลูกคนโต อีกคนเป็นลูกคนเล็ก
มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ชี้ให้เห็นว่าการแต่งงานกันระหว่างลูกคนโตกับลูกคนเล็กถือว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวสำหรับการใช้ชีวิตคู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งเหตุผลที่อธิบายเรื่องนี้ได้ชัดเจน สัมพันธ์กับเรื่องลำดับการเกิดก่อนหลังที่ส่งผลต่อบุคลิกได้นั่นเอง โดยพี่คนโตมักจะชอบเทคแคร์ดูแลคนอื่น ขณะที่น้องคนสุดท้องของครอบครัวก็มักเคยชินกับการได้รับการดูแลเอาใจใส่จากคนอื่นนั่นเอง
เพื่อนฝูงมีชีวิตแต่งงานราบรื่น
รู้หรือไม่ว่าการมีเพื่อนฝูงรอบข้างที่มีชีวิตแต่งงานที่ดี ราบรื่น ไม่ได้มีปัญหาเลิกรากันนั้น มีแนวโน้มที่จะทำให้โอกาสในการเลิกราหรือหย่าร้างกันของคู่ตนเองลดน้อยลงไปด้วย
โดยงานวิจัยของมหาวิทยาลัย Brown เผยว่าคู่แต่งงานมีแนวโน้มจะหย่าร้างกันได้มากถึง 75 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ถ้าญาติสนิทมิตรสหายมีการแยกทางหรือหย่าร้างกัน แต่ถ้าเป็นเพื่อนของเพื่อนที่แยกทางกัน แนวโน้มที่จะเกิดการหย่าร้างกับคู่ของเราจะลดน้อยลงเหลือเพียง 33 เปอร์เซ็นต์
ไม่เกี่ยงกันทำงานบ้าน
ทุกวันนี้หมดยุคแล้วที่ผู้หญิงต้องทำงานบ้านอยู่ฝ่ายเดียว ซึ่งจากผลสำรวจของ Pew Research Center พบว่าการแบ่งงานบ้านกันทำติดโผใน 3 อันดับแรกที่มีผลต่อชีวิตแต่งงานที่ประสบความสำเร็จ รองจากเรื่องความซื่อสัตย์ และเรื่องเซ็กซ์ โดยมีถึง 62 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวที่บอกว่าการแชร์งานบ้านกันถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ขณะที่ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัย UCLA ระบุว่าคู่รักที่แบ่งกันทำงานบ้านมักจะมีความสุขในชีวิตคู่มากกว่า ยิ่งถ้ากำหนดชัดเจนไปเลยว่าใครจะทำอะไร ก็มีแนวโน้มว่าจะมีความพึงพอใจในชีวิตคู่มากขึ้นด้วย
ไม่ทะเลาะเรื่องเซ็กซ์-เงิน
เรื่องที่สามารถทำให้คู่รักทะเลาะกันจนถึงขั้นเลิกรากันได้ คือเรื่องเซ็กซ์กับเรื่องเงิน ถ้าไม่อยากจะหย่าร้างกันด้วย 2 เรื่องนี้ ก็ไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด ซึ่งมหาวิทยาลัย Michigan ทำการศึกษาคนอเมริกัน 16,000 คน เกี่ยวกับเรื่องเงิน เซ็กซ์ และความสุข แล้วพบว่าทั้ง 3 อย่างล้วนมีความสัมพันธ์กัน
หากไม่ละเลยเรื่องบนเตียงโดยมีกิจกรรมดังกล่าวให้สม่ำเสมอขึ้น จากเดือนละ 1 ครั้ง เป็นสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ก็จะช่วยทำให้คว่ามสุขในชีวิตคู่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่เรื่องเงินทอง ถ้าทั้งสองคนมีไลฟ์สไตล์ในการใช้จ่ายเงินที่ใกล้เคียงกัน ก็มีแนวโน้มที่จะมีความสุขในชีวิตมากขึ้น
ที่มา : inc.com